ออกหมายจับมือปืนยิง 2 เชิ้ตดำบอลไทยพรีเมียร์ลีก
ตำรวจบุรีรัมย์ตั้ง 2 ปมไล่สังหารกรรมการตัดสินบอลไทยพรีเมียร์ลีกคาดมุ่งข่มขู่มากกว่าเอาชีวิต
ตำรวจบุรีรัมย์ตั้ง 2 ปมไล่สังหารกรรมการตัดสินบอลไทยพรีเมียร์ลีกคาดมุ่งข่มขู่มากกว่าเอาชีวิต
พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัชระ จันทบาล รองผู้บังคับการตำรวจภูธร (รอง ผบก.ภ.จว.) จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ สภ.นางรอง ตรวจสอบสำนวนการสืบสวนสอบสวน ติดตามความคืบหน้าคดี กรณีเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับขี่รถกระบะ 4 ประตูไล่ประกบยิง นายอรรถกร เวชการ และ นายวิโรจน์ อ่อนโก้ก กรรมการตัดสินฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เหตุเกิดบริเวณ กม.ที่ 60-61 ถนนสายโชคชัย-เดชอุดม ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ขณะทั้งสองขับขี่รถยนต์เดินทางกลับหลังตัดสินการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีม บุรีรัมย์ พีอีเอ กับทีม โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ที่สนามไอโมบาย สเตเดี้ยม บุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
โดยเรียกประชุมพนักงานสอบสวน ในการเร่งรัดคดีติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญแฟนบอลและกรรมการวงการกีฬา จนผู้เสียหายทั้ง 2 คน หวาดกลัวไม่กล้าเดินทางมาให้การเพิ่มเติมและชี้จุดเกิดเหตุ เกรงไม่ปลอดภัย ทำให้ พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง ได้เดินทางไปที่จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นบ้านของนายอรรถกร และ จ.ราชบุรี บ้านของนายวิโรจน์ เพื่อไปสอบปากคำเพิ่มเติม และสเก็ตภาพคนร้ายตามคำให้การของทั้ง 2 คน พร้อมเตรียมขออำนาจศาล ออกหมายจับคนร้ายตามภาพสะเก็ตภายใน 1 – 2 วันนี้ ส่วนหัวกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 ปลอก ขณะนี้กำลังรอผลตรวจพิสูจน์จากกองวิทยาการ จ.นครราชสีมา ว่า เป็นอาวุธปืนชนิดใด ซึ่งหลังรวบรวมพยานหลักฐานแล้วเสร็จ เชื่อว่าจะสามารถติดตามจับตัวคนร้ายได้ในเร็ว ๆ นี้
ด้าน พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง ได้สอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม และสะเก็ตภาพคนร้าย สูงประมาณ 170 เซนติเมตร อายุระหว่าง 25-30 ปี เนื่องจากผู้เสียหายเห็นรูปพรรณสัณฐานหนึ่งในคนร้าย ที่ลงมาใช้ท่อนไม้ทุบกระโปรงหน้ารถของผู้เสียหาย หลังขับปาดหน้าก่อนที่ผู้เสียหายจะพยายามขับรถหลบหนีถูกขับประกบตามไล่ยิง และเตรียมขออำนาจศาลจังหวัดนางรอง ออกหมายจับต่อไป รวมทั้ง ได้สอบพยานไปแล้ว 6 ปาก ทั้งเจ้าของร้านลาบอุบล และพนักงานเสิร์ฟ ที่กรรมการทั้งสองไปนั่งรับประทาน ก่อนถูกไล่ตามประกบยิง รวมถึงพนักงานปั๊มแก๊ส แอลพีจี ที่ผู้เสียหายเข้าไปขอความช่วยเหลือหลังถูกตามไล่ยิง โดยพยานให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และจากการตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุน 1 ปลอก คาดเป็นอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม.
พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ 2 ประเด็น คือ ผู้เสียผลประโยชน์จากการเล่นพนันบอล และประเด็นขัดแย้งส่วนตัว จึงขอให้ผู้เสียหายให้ข้อมูลที่เป็นความจริงกับพนักงานสอบสวน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีในการติดตามจับกุมคนร้าย แต่เชื่อว่าน่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินฟุตบอลที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพราะจากผลการแข่งขันที่ออกมาบุรีรัมย์ชนะ และการแข่งขันตลอดเกมก็ไม่มีการตัดสินที่เอนเอียงแต่อย่างใด
“อย่างไรก็ตาม จากลักษณะการลงมือก่อเหตุของคนร้าย น่าจะมุ่งข่มขู่ผู้เสียหายมากกว่ามุ่งเอาชีวิต เนื่องจากมีการยิงหลายนัดแต่ส่วนใหญ่จะยิงเข้าด้านล่างของรถยนต์”
ขณะที่ พ.ต.ท.สิทธิ์ หวังสุขกลาง พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง เจ้าของคดี กล่าวว่า จากการสอบปากคำ นายอรรถกร ซึ่งเป็นผู้ตัดสินยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งส่วนตัวกับผู้ใด รวมทั้งนายวิโรจน์ ด้วย ซึ่งจะได้สอบสวนพยานแวดล้อมเพิ่มเติมว่าผู้เสียหายทั้งสองมีความขัดแย้งส่วนตัวอื่น จนอาจนำมาสู่การลงมือก่อเหตุของคนร้ายหรือไม่ แต่ก็ยังคงให้น้ำหนักไปยังเรื่องการแข่งขันฟุตบอลมากกว่าส่วนจะเป็นการตัดสินคู่ใดนั้น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน


