posttoday

ค้นแฟ้ม"กริชสุดา"วีรกรรมสาวเสื้อแดง

15 กันยายน 2557

หลังเหตุการณ์ทางการเมืองปี 2553 กริชสุดา สมัครเข้ามาเป็นอาสาสมัครคนเสื้อแดง

โดย...เลอลักษณ์ จันทร์เทพ

มหากาพย์คดีการเมืองได้ถูกฉายภาพขึ้นมาพร้อมกับบทบาทการทำงานของ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม 5 ชายชุดดำ ซึ่งโยงไปถึงเหตุการณ์ปะทะที่แยกคอกวัว เมื่อ ช่วงเมษายน 2553 และจากกระบวนการยุติธรรมที่ได้ขยายผล จนไปพบหลักฐาน สลิปการโอนเงินให้หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้

สลิปใบนั้นอยู่ภายในบ้านพักของตัวละครสำคัญขณะนี้ที่ถูกแกะรอยอยู่คือ “น.ส.กริชสุดา คุณะแสน” หรือ “เปิ้ล สหายสุดซอย”

ค้นแฟ้มประวัติบุคคล “กริชสุดา” เกิดมาเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2530 สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นชาวจังหวัดชลบุรี   แต่ถ้าพลิกดูแฟ้มการเมือง เธอมีประวัติเคลื่อนไหวทางการเมืองชนิดสุดซอย โดยเริ่มเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้่อแดงที่แยกราชประสงค์เมื่อปี 2553 ซึ่ง ขณะนั้น เปิ้ล อายุเพียง 23 ปี กำลังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 เท่านั้น  โดยขณะศึกษา กริชสุดา มักชอบทำกิจกรรมประจำอยู่ที่เต้นท์เสรีปัญญาชนทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องของตู้บริจาค

หลังเหตุการณ์ทางการเมืองปี 2553  กริชสุดา สมัครเข้ามาเป็นอาสาสมัครคนเสื้อแดง เข้าช่วยเหลือเรื่องนักโทษแดงในเรือนจำ ก่อนที่จะรู้จักกับ "อ.หวาน" สุดา รังกุพันธ์ หรือกลุ่มปฎิญาณหน้าศาล  โดยมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับมูลนิธิเยียวยานักโทษการเมืองอย่างจริงจัง  กระทั่งไปทำงานเป็นเลขานุการและคนสนิทให้ "เมย์ อียู" มนัญชยาม เกศแก้ว ท่อน้ำเลี้ยงแดงตะวันออก ที่เดินหน้าเยียวยาคนเสื้อแดงมาตั้งแต่ปี 2552 เช่นกัน

ครั้นคณะรักษาความสงบแห่งชาติเข้าควบคุมอำนาจบริหารประเทศ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557  การคลี่คลายสถานการณ์ความวุ่นวายบ้านเมืองเป็นไปตามลำดับ  เจ้าหน้าที่ทหารทำการเปิดแฟ้มนักเคลื่อนไหวมาสแกนด์อีกครั้ง  ก่อนที่จะออกคำสั่งให้บุคคลที่ตกเป็นเป้าหมายมารายงานตัว เพื่อให้มาปรับทัศนะความคิดร่วมพัฒนาชาติ  และชื่อของ "เปิ้ล สหายสุดซอย" ก็ดูจะไม่รอดสายตาคสช.ไปได้

เธอถูกเรียกมารายงานตัวในลำดับท้ายๆ

ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทหาร เปิดปฏิบัติการอีกครั้งด้วยการบุกเข้าตรวจค้น "เมย์ อียู" ที่หมู่บ้านบางแสนมหานคร ตำบลแสนสุข จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 28 พ.ค.57  ค้นเจอเลขบัญชีของผู้ต้องหาเสื้อแดงหลายคน ที่มีการโอนเงินให้อย่างต่อเนื่อง  ซึ่งวันดังกล่าว กริชสุดา ได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนำไปสอบสวนดำเนินการทางคดีด้วย

กระทั่ง เมื่อวันที่23 มิ.ย.2557 รายการ "จับประเด็นข่าวร้อน" ของสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ออกอากาศเวลา 22.00 น. ได้นำเสนอเนื้อหาจากกรณีองค์การฮิวแมนไรท์วอชท์เอเชีย ขอให้กองทัพเปิดเผยข้อมูลความเป็นอยู่ของ กริชสุดา  ซึ่งถูกเรียกรายงานตัวและถูกควบคุมตัวไว้ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายจนเสียชีวิต

เนื้อหาที่ออกอากาศวันนั้น กริชสุดา ยืนยันว่า “ไม่ได้ถูกทารุณกรรมตามข่าวลือ มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงดูแลอำนวยความสะดวกตลอดเวลา ได้รับข้อมูลภายนอกจากสื่อทีวีและอินเทอร์เน็ต และไม่มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพแต่อย่างใด พร้อมฝากถึงครอบครัวว่าอยู่สุขสบายดี ไม่ได้มีความเดือดร้อน ไม่อยากให้ครอบครัวต้องเป็นห่วง โดยการถูกควบคุมตัวครั้งนี้ทำให้รู้สึกสงบ มีความคิดอยู่กับตัวเองมากขึ้น รวมถึงอยากให้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเริ่มต้นใหม่ด้วยการพูดคุยกัน และทุกคนต้องมีเหตุผลให้มากขึ้น”

ต่อมาวันที่ 24 มิ.ย. กริชสุดา ก็ได้รับการปล่อยตัว และเดินทางออกจากประเทศไทยไปอยู่ประเทศในทวีปยุโรปทันที จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 ส.ค. กริชสุดา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อบีบีซี อังกฤษ มีเนื้อหาตรงข้ามกับที่เคยให้สัมภาษณ์กับทางททบ.5 ขณะที่ถูกควบคุมตัว ว่า ระหว่างถูกควบคุมตัวนั้น ถูกทหารทรมานและทำร้ายร่างกาย ถูกผ้าผูกตา มีการเอาถุงมาคลุมหัวทำให้ไม่มีอากาศหายใจ

ตั้งแต่นั้นมา ก็จะพบวีรกรรม ของ กริชสุดา ผ่านการโพสต์วิดิโอคลิปต่างๆอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งล่าสุดได้ โพสต์คลิปตอบโต้ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวหาเป็นผู้สนับสนุนการเงินแก่ชายชุดดำ

แกนนำปัดไม่รู้จัก

เมื่อปมคดีของกริชสุดา เริ่มถูกโยงใยมากขึ้น โดยเฉพาะการโยงใยไปที่แกนนำคนเสื้อแดง แต่ทางกลับกันเมื่อทีมข่าวสอบถามไปแกนนำคนเสื้อแดงที่อยู่ในเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่เมื่อปี53 กลับไม่มีใครบอกว่า รู้จัก และเห็นตัวตัวของกริชสุดาเลย

วรชัย เหมะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย   บอกว่า"โดยส่วนตัวไม่เคยรู้จักกริชสุดา  เป็นคนไหนอย่างไร รู้จักแต่ชื่อ กริชสุดาในช่วงหลังมานี้ เพราะเมื่อปี53ยังไม่เคยเห็นมาร่วมเคลื่อนไหวการเมืองเลย ไม่ทราบว่าเขามาทำงานให้ใคร หรือมารับใช้ใคร ไม่รู้จริงๆ เพิ่งรู้จักชื่อ หน้าตาตอนที่สื่อออกข่าว ไม่รู้เลยว่ามีตัวตน หรือทำกิจการอย่างไร

ส่วนเรื่องชายชุดดำที่จะเชื่อมโยงไปกริชสุดนั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะ  เข้าใจว่าปี 53 ยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร และยังเรียนหนังสืออยู่หรือไม่ก็ไม่ทราบได้ จึงคาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน ส่วนชายชุดดำที่พูด เรื่องชายชุดดำน่าจะเป็นวาทะกรรมที่นำมาสร้างเรื่อง ให้มีการอุปโหลกขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้ ระหว่างผู้มีอำนาจ ผู้ถืออำนาจอยู่"

ขณะที่ พรศักดิ์ ศรีละมุล แกนนำเสื้อแดง บอกเช่นกันว่า ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ยังนึกหน้าไม่ออกเลย เห็นหน้าในจอทีวียังไม่คุ้นเลย ไม่รู้จัดตัวตนเลย ด้วยความสัตย์จริง เมื่อเหตุการณ์ทางการเมืองเมื่อปี 53 ยังไม่เคย และคาดว่า กริชสุดา คงจะยังเรียนไม่จบ เท่าที่ดูช่วงเวลานั้นน่าจะเป็นเด็กอยู่มาก เราไม่รู้ไม่เห็นจริงๆ

ข่าวล่าสุด

พลังงานคุมเข้มแท่นขุดเจาะอ่าวไทย สกัดโดรนป่วน ไม่กระทบการผลิต