อนุพงษ์ลั่นห้ามมท.ออกโฉนดที่ดินมิชอบเพิ่ม

"ปิ๊กป็อก"สั่งมหาดไทยห้ามออกโฉนดที่ดินมิชอบเพิ่มเด็ดขาด มั่นใจ 1 ปีสร้างความปรองดองสำเร็จ 

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (มท.) เปิดเผยว่า จากนี้จะต้องไม่มีการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบอีกต่อไป ส่วนปัญหาในอดีตเข้าใจว่ามีความซับซ้อนและสั่งสมมาอย่างยาวนาน จำเป็นต้องใช้กระบวนการที่พิเศษเข้ามาแก้ปัญหา แต่สำหรับ มท.ก็ให้ทำส่วนของตัวเองก่อน

“แน่นอนว่าที่ดินในอดีตก็ต้องทำให้เกิดความชัดเจน แต่ผมก็เข้าใจปัญหาว่ามีเรื่องของการใช้แผนที่คนละฉบับทำให้เกิดการทับซ้อนขึ้น ซึ่งก็ต้องใช้เวลาแก้ไข แต่ในขั้นนี้เอาแค่อย่าให้มีการออกโฉนดโดยมิชอบเพิ่มก็พอ” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวระหว่างมอบนโยบายด้านสังคมอีกว่า ปัญหายาเสพติดจำเป็นต้องพูดกันในรายละเอียดมาก ซึ่งนอกจากการปราบปรามแล้วจำเป็นต้องหาแนวทางเพื่อไม่ให้เกิดความต้องการยาเสพติดเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัญหาขยะต้องทำให้ประชาชนไม่ทิ้งเรี่ยราด ซึ่งอยากให้ ผวจ.และท้องถิ่น เตรียมตัวหาแนวทางในเรื่องนี้ เพื่อมาคุยกันในรายละเอียดอีกครั้ง

สำหรับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ หัวใจการแก้ปัญหาคือต้องชนะใจคนใต้ ขณะเดียวกันต้องจำกัดเสรีของขบวนการแต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ถามว่าขณะนี้สิ่งที่ทำหรือโครงการต่างๆ โดนใจประชาชนชาวใต้หรือไม่

ทั้งนี้ภายใน 1 ปี จะสามารถสร้างความปรองดองแล้วเสร็จ โดยแนวทางการสร้างความปรองดองคือต้องไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้น เพราะความขัดแย้งจะนำไปสู่ความรุนแรง การใช้อาวุธ และนำไปสู่การใช้กำลังทหาร ตำรวจ หากเดินไปถึงจุดนั้นความเจริญก็จะไม่เกิดขึ้น

“การทำให้คนแบ่งเป็นกลุ่มเป็นก๊กไม่ใช่หน้าที่ของ มท.ดังนั้นให้กลับไปดูให้ดีว่า มท.ได้ทำตามหน้าที่หรือไม่ โดยจากนี้จะใช้กลไก มท.ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน อบจ.และอบต.เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้เขาว่าไม่ว่าใครจะมาปลุกปั่นยุงยง ประชาชนก็สามารถไตร่ตรองได้ เชื่อว่าภายใน 1 ปี จะทำได้สำเร็จ เพราะถ้าปล่อยไปก็เหมือนกับแก้วที่แตกแล้ว ประเทศชาติก็จะวิกฤต”พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า พร้อมที่จะช่วยผลักดันกฎหมายสำคัญของ มท.ในขั้นตอนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่ต้องเป็นกฎหมายที่เร่งด่วนจริงๆ และผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว พร้อมกันนี้ในวันที่ 18 ก.ย.นี้ จะประชุมเพื่อมอบนโยบายที่สอดคล้องกับภารกิจของ มท.อย่างละเอียด

นอกจากนี้ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องศูนย์ดำรงธรรมให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยให้จัดทำลงไปในระดับอำเภอ เพราะศูนย์ดำรงธรรมเป็นทางออกของประชาชนซึ่งหากสำเร็จจะเกิดผลดีกับประชาชนจริงๆ