แจงท่วมเมืองทองฯพลาดท่าระบายน้ำเหลว
ผู้พักอาศัยในโครงการเมืองทองธานีกว่า 2 แสนคน ต้องหวาดผวากับเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงค่ำวันพุธที่ผ่านมา
โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์
ผู้พักอาศัยในโครงการเมืองทองธานีกว่า 2 แสนคน ต้องหวาดผวากับเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงค่ำวันพุธที่ผ่านมา หลังฝนตกโครมใหญ่ทั่ว กทม.และปริมณฑล มีการแชร์ภาพน้ำท่วมครึ่งคันรถที่ทำให้เมืองทองธานี ย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กลายเป็นทะเลสาบในพริบตา หลายคนนึกถึงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554
ปีเตอร์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกแลนด์ (บีแลนด์) ยอมรับว่า เหตุที่น้ำท่วมหนักในเมืองทองธานีเป็นผลจากการไม่ได้เตรียมระบายน้ำในทะเลสาบรอบเมืองทองธานีให้มากกว่านี้ เพราะไม่คาดคิดว่าฝนจะตกหนักหลายชั่วโมง ซึ่งปกติหากฝนไม่ตกหนักก็สามารถระบายน้ำในทะเลสาบออกไปได้ ขณะที่ทางเทศบาลปากเกร็ดก็ไม่ได้เปิดประตูระบายน้ำคลองบางพูด ลงแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากไม่คิดว่าจะมีฝนตกหนัก ทำให้การระบายน้ำทำได้ช้า
อย่างไรก็ตาม จากนี้จะเร่งระบายน้ำในทะเลสาบให้มากกว่าเดิม พร้อมขุดลอกท่อเพิ่มเติม เพราะไม่รู้ว่าจะมีฝนตกหนักอีกแค่ไหน ขณะเดียวกันได้หารือทางเทศบาล และมีข้อสรุปว่าทางเทศบาลจะเปิดประตูระบายน้ำไว้ให้
“ช่วงน้ำท่วมครั้งใหญ่ เมืองทองธานีไม่ประสบปัญหา เพราะรู้ทิศทางน้ำ จึงได้ป้องกันไว้ในพื้นที่ อีกทั้งได้มีระบบปั๊มน้ำ 7 สถานีรอบเมืองทองธานี หลังจากนั้นก็เปิดใช้ระบบปั๊มน้ำมาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ยังใช้งานได้ปกติ” ปีเตอร์ กล่าว
กุลวดี จินตวร ผู้อำนวยการบริหารโครงการ บริษัท บางกอกแลนด์ กล่าวว่า ไม่สามารถระบายได้เนื่องจากประตูน้ำเปิดได้ไม่มากเพราะไฟฟ้าดับ อีกอย่างไม่คิดว่าฝนจะตกหนักในช่วง 23 ชั่วโมง ทำให้ระดับน้ำท่วมขังสูงสุดในรอบหลายปี
สำหรับมาตรการป้องกันเร่งด่วนหากเกิดปัญหาฝนตกหนักอีกครั้ง 1.เปิดประตูระบายน้ำกว้างที่สุดเมื่อมีฝนตกลงมา 2.เช็กระบบระบายน้ำ ซึ่งได้ขุดดินทำความสะอาดคูน้ำ เน้นในส่วนที่จะระบายน้ำไปลำน้ำสาธารณะออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา 3.ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ นอกจากนี้ยังมีสถานีสูบน้ำจำนวน 10 แห่ง เครื่องสูบน้ำอีก 20 เครื่อง รวมถึงพื้นที่เก็บกักน้ำที่เป็นทะเลสาบ สระน้ำหมู่บ้านลากูน และทะเลสาบขนาดความกว้าง 400 ไร่ รองรับน้ำได้
สำหรับความเสียหายของรถยนต์ของผู้พักอาศัยนั้น ยอมรับว่าการรับผิดชอบของเมืองทองธานีไม่ได้ครอบคลุมในเรื่องนี้
วิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด กล่าวว่า พื้นที่ย่านปากเกร็ดยอมรับว่าบริหารน้ำได้ยาก เนื่องจากมีหมู่บ้านเกิดใหม่เป็นจำนวนมาก และถมที่ดินสูงกว่าเดิม ทั้งนี้ปัญหาหนึ่งที่ส่งผลกระทบให้ระบายน้ำไม่ทันเกิดจากปัญหาขยะตามหมู่บ้านที่ประชาชนทิ้งไม่เป็นที่เป็นทาง ถูกน้ำซัดเข้าไปอุดตามท่อทั้งหมด
ด้าน อดิศักดิ์ ขันตี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวว่า ในช่วง 12 วันนี้ ยังมีฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะในช่วงเวลาตอนเย็นหลังเลิกงาน ที่อาจกระทบกับการจราจรได้ สำหรับปัญหาน้ำเหนือในปีนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่ กทม.ไม่ได้ประมาท โดยเตรียมกระสอบทรายไว้จำนวน 5 ล้านใบ ส่วนฝนจะหมดในช่วงสิ้นฤดูคือประมาณเดือน ต.ค.
สัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า จุดที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง จะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและมีการก่อสร้าง อาทิ ถนนโลคัลโรด เพชรเกษม โดย กทม.ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว หากฝนตกไม่เกิน 60 มิลลิเมตร จะสามารถระบายน้ำท่วมขังได้ในระยะเวลา 12 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้ทำการพร่องน้ำในคลองต่างๆ อาทิ คลองเปรมประชากร คลองลาดพร้าว คลองบางเขน คลองบางซื่อ เพื่อรองรับน้ำฝนให้ได้มากที่สุด
ภาพจากทวิตเตอร์


