posttoday

เจาะลึก"ตึกถล่ม"อุบัติเหตุจากความสะเพร่า?

15 สิงหาคม 2557

สิ่งปลูกสร้างที่ถูกกฎหมาย 100% เมืองไทยหาได้น้อยมาก โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครทำผิดกฎหมายเยอะที่สุด

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล

ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงแผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วทั้งเมือง หลังเกิดเหตุอาคาร 6 ชั้นพังถล่ม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

คำถามดังๆจากสังคมจึงเกิดขึ้นตามมาว่า แล้วตึกรามบ้านช่องที่เราอาศัยใช้ชีวิตอยู่ในทุกวันนี้มีความปลอดภัยจริงหรือ?

ศ.ดร.เอกสิทธิ์ ลิ้มสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะอุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และอนุกรรมการมาตรฐานวิชาชีพสภาวิศวกร อธิบายว่าตึกถล่มมาจาก 2 สาเหตุหลักคือ การออกแบบที่ผิดหลักวิชาการ และการก่อสร้างไม่เป็นไปตามขั้นตอน

ขั้นตอนการทำโครงการปลูกสิ่งก่อสร้าง (Building Process) เริ่มจาก 1.วางโครงการ เช่น จะสร้างตึกกี่หลัง สูงกี่ชั้น ทางเข้า-ออก ติดถนนแค่ไหนอย่างไร 2.ขออนุญาตแบบก่อสร้าง ต้องผ่านกรุงเทพมหานคร ขณะที่ต่างจังหวัดต้องผ่านเทศบาล หรือโยธาธิการจังหวัดหรืออำเภอ วิศวกรผู้ออกแบบต้องคำนวณให้เป็นไปตามหลักวิชาการ ตามขั้นตอน ส่วนนี้มีโอกาสเกิดวิบัติมากที่สุด ถ้าได้คนเขียนแบบแย่ๆก็จบเห่

3.หาบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน ดูแลตั้งแต่ถมดิน ตอกเข็ม ทำฐานราก ขึ้นเสา ทำพื้น คาน หลังคา ถ้าจะให้แน่ใจ ทุกกระบวนการต้องมีวิศวกรโครงสร้างมาเป็นผู้คุมงานด้วย คอยดูหน้างาน สั่งการ และตรวจสอบให้เป็นไปอย่างถูกต้องเนื่องจากผู้รับเหมาบางคนต้องการทำให้เสร็จไวๆ อาจประมาทเลินเล่อเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย  

ต่อมา ติดตั้งระบบงานไฟฟ้า ประปา เครื่องปรับอากาศ สปริงเกอร์อะไรต่างๆก็มีอีกฝ่ายทำหน้าที่ติดตั้ง ทดสอบ และตรวจสอบ  เมื่อตรวจรับงานแล้วเรียบร้อยทั้งโครงสร้าง สถาปัตยกรรม และงานวางระบบ ก็จะเริ่มขออนุญาตใช้สอยอาคาร ขอทะเบียนบ้าน พร้อมส่งมอบให้แก่ลูกค้า สุดท้ายหลังเข้าไปอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นตึกแถว คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร ทาวน์เฮาส์ ก็ยังต้องมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง"

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ตึกถล่มสามารถเกิดได้ในทุกขั้นตอนที่กล่าวมา !!!

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ หากจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่ว่าแบบหรือขั้นใดๆ ต้องระบุเป็นหนังสือชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการดำเนินการ "ข้ามขั้นตอน" โดยไม่มีผู้รับผิดชอบหรือกำกับดูแลอย่างละเอียด

ศ.ดร.เอกสิทธิ์ แนะนำว่าหากประสงค์จะซื้ออาคาร บ้าน หรือคอนโดมิเนียม ควรเลือกโครงการของบริษัทที่ไว้ใจได้ มีชื่อเสียงในเรื่องความรับผิดชอบต่อลูกค้า ต่อสาธารณะ มีการควบคุมคุณภาพให้ได้ตามมาตรฐานทางวิชาชีพและเป็นไปตามกฎหมายทุกขั้นตอน

"อย่าลืมว่าคุณภาพกับปริมาณมันมักจะสวนทางกันเสมอ อยากได้ของถูกมักได้ของไม่ดี ไม่มีคุณภาพ ยกตัวอย่างเช่น พวกบริษัทเล็กๆโนเนมที่หาซื้อที่ดินสักแปลง แล้วยัดเงินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ให้อนุญาตดำเนินการก่อสร้างโดยไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ ทำออกมาเยอะๆเน้นปริมาณ ขายได้กำไรก็เอามาสร้างเฟสต่อไป แบบนี้ไม่น่าไว้ใจ"

ปัญหาน่าเป็นห่วงในขณะนี้คือวิศวกรไม่มาดูหน้างาน...

"ผู้รับเหมา หรือเจ้าของโครงการเขาจะประหยัดงบทุกวิถีทาง เช่น ได้แบบก่อสร้างมาอันนึง ประกอบด้วยตึก 4-5 หลัง ปรากฏว่าจ่ายค่าแบบแค่หลังเดียว แล้วพอก่อสร้างเสร็จก็ทำหลังต่อๆไป โดยไม่จ่ายค่าออกแบบหลังอื่นๆ เขาเลือกที่จะไปมุบมิบจ่ายใต้โต๊ะเจ้าหน้าที่ให้ได้ใบอนุญาตมา กระบวนการไม่ตรงไปตรงมาอย่างนี้ วิศวกรเขียนแบบก่อสร้างเสร็จแล้วเขาก็ไม่มาดูหรอก เพราะคิดว่าจ่ายค่าแบบแค่หลังเดียว การแก้ไขแบบหรือจะตกแต่งเพิ่มเติมอย่างไรจึงเป็นงานของผู้รับเหมาทำกันเอง โดยไม่แจ้งให้วิศวกรทราบ

สิ่งปลูกสร้างที่ถูกกฎหมาย 100% เป๊ะ เมืองไทยหาได้น้อยมาก ผมว่ากรุงเทพมหานครนี่แหละทำผิดกฎหมายเยอะที่สุด ทุกคนอยากจะหลีกเลี่ยงกฎหมายทั้งนั้น เนื่องจากที่ดินราคาแพง เจ้าของโครงการก็อยากจะลดต้นทุนก็คิดว่าทำผิดนิดๆหน่อยๆคงไม่เป็นไร เลยเอาเงินไปยัดเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การก่อสร้างราบรื่นเป็นไปตามความต้องการ"

จากข้อมูลของสภาวิศวกรพบว่า แต่ละปีมีวิศวกรที่มีความผิดร้ายแรงถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตตลอดชีพไม่เกิน 20 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นความผิดที่ชัดเจนจากการละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต

อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ยืนยันว่าเน้นปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ดีกว่าแก้ไขปัญหาด้วยการเพิกถอนใบอนุญาต

"เพิกถอนใบอนุญาตตลอดชีพมันเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ สู้ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นด้วยการเน้นสร้างคุณธรรมจริยธรรมให้วิศวกรคำนึงถึงความถูกต้องมากกว่าผลประโยชน์ ไม่เซ็นเด็ดขาด หากไม่การดำเนินการก่อสร้างตามหลักวิชาการ"

ข่าวล่าสุด

กองหลังผลัดกันรั่ว ! แมนยู เสมอเดือด บอร์นมัธ 4-4 ผลบอลพรีเมียร์ลีก