พบลายนิ้วมือสาวลาวกำเหล็กก่อนตกตึก
ตำรวจพบลายนิ้วมือสาวลาวกำเหล็กชัดเจนก่อนพลัดตกตึก ขณะที่ญาติผู้ตายยังคาใจ เชื่อมีคนสั่งให้ทำ
ตำรวจพบลายนิ้วมือสาวลาวกำเหล็กชัดเจนก่อนพลัดตกตึก ขณะที่ญาติผู้ตายยังคาใจ เชื่อมีคนสั่งให้ทำ
เมื่อวันที่9ส.ค.57 ที่สน.ห้วยขวาง พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) พ.ต.อ.สุนทร คงกล่ำ รองผบก.น.1 พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ แสงสว่าง ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ.นพ.พัฒนา กิจไกรลาศ หัวหน้ากลุ่มงานตรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับบุคคลพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ร่วมชี้แจงกรณีการเสียชีวิตของน.ส.ต่าย ดาวเฮือง อายุ 20 ปี สัญชาติลาว ที่พลัดตกจากชั้น8 ของอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง พื้นที่สน.ห้วยขวาง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายทานตะวัน ไทรวงสา นางพอน ชุมพลภักดี และนางสาวเวียงสมร ชุมพลภักดี พ่อแม่และพี่สาวของน.ส.ต่าย ร่วมรับฟังการชี้แจง
พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า จากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์พบลายนิ้วมือตรงระเบียงเหล็กหลังห้องที่เกิดเหตุ 2 จุด สันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะปีนออกไปแอบหลบที่ด้านหลังระเบียง โดยจุดแรกเป็นที่ราวระเบียงซึ่งเป็นเหล็กกลม พบลายนิ้วมือผู้ตายชัดเจนมีรอยกำเหล็กไว้ชัดเจน คืออาจจะกำเหล็กเพื่อข้ามระเบียงไปหลบ ส่วนจุดที่ 2 อยู่ที่ขอบปูนตรงระเบียงพบรอยนิ้วมือ สี่นิ้วทั้งสองข้างอย่างชัดเจน คาดว่าไปเกาะห้อยหลบแล้วมือรับน้ำหนักไม่ไหวจนตกจากมากระแทกกับพื้น ซึ่งหากมีคนผลักผู้ตายลงมาหรือผู้ตายตั้งใจกระโดดเอง จะมีแรงส่งทำให้ศพกระเด็นไปไกลกว่านี้ แต่คดีนี้พบว่า ผู้ตายตกมาในแนวดิ่งคล้ายกับพลัดตกเองอส่วนรอยช้ำที่แขนของผู้ตาย คาดว่าจะกระแทกกับขอบบัวของตึกใกล้เคียง จากจุดที่พบศพมีเศษปูนตกอยู่ใกล้เคียง อย่างไรก็ดีหากญาติติดใจตนจะทำการสอบปากคำพยานทั้งหมดใหม่อีกครั้ง และจะเรียกสอบเพื่อนร่วมงานผู้ตายว่าก่อนเกิดเหตุมีทะเลาะวิวาทมีปากเสียงกันหรือไม่ เพราะทางญาติยังติดใจรอยช้ำที่แขนอยู่ ซึ่งก็จะสอบสอนหาข้อเท็จจริงต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.นพ.พัฒนา กล่าวว่า จากการพิสูจน์บาดแผลพบว่าลักษณะการหล่นลงมา ทำให้กระดูกหน้าอกชิ้นหัก รวมทั้งกระดูกริมสันหลังเสียหาย มีเลือดออกที่ปอดและเยื่อสมองเล็กน้อย ซึ่งจากบาดแผลลักษณะนี้บ่งชี้ว่าเป็นการตกกระแทกแนวดิ่ง ส่วนที่แขนที่มีรอยฟกช้ำซึ่งญาติติดใจว่าเกิดจากการฉุดกระชากไปที่ระเบียงนั้น ตนวินิจฉัยว่าหลังจากที่น.ส.ต่ายเสียชีวิตไปแล้ว เลือดตกตะกอนในเส้นเลือดส่งผลให้เกิดรอยฟกช้ำขึ้นมา
ขณะที่ น.ส.เวียงสมร พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า ตนเชื่อผลตรวจจากตำรวจแค่ครึ่งเดียว เนื่องจากตนรู้นิสัยของน้องสาวตนดีและคิดว่าไม่น่าจะไปหลบซ่อนที่ระเบียงและตกลงมาเอง เนื่องจากน้องสาวเป็นคนกลัวความสูง หรือไม่ก็อาจจะถูกบังคับให้ไปหลบจนตกลงมา นอกจากนี้ตนทราบจากเพื่อนที่อยู่ห้องข้าง ๆ พบว่าห้องเกิดเหตุมีเสียงทะเลาะวิวาทก่อนที่น้องสาวตนจะตกลงมา เชื่อว่ามีคนสั่งให้น้องไปหลบจนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำแพทย์นิติเวชเจ้าของคดีถึงเรื่องบาดแผลทั้งหมดอีกครั้ง พร้อมเรียกแฟนหนุ่มของผู้ตายมาสอบปากคำเพิ่มเติมโดยละเอียดเพื่อดูความสอดคล้องของหลักฐานที่พบเพิ่มเติมหรือไม่เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป


