posttoday

เฉลยความนัยมะเขือเทศตร.ไม่ใช่แดงแค่ไม่ชอบเหลือง

30 พฤษภาคม 2553

"ที่จริงตำรวจนั้นไม่ใช่เสื้อแดงหรอกครับ แต่เป็นเพราะเขาไม่ค่อยชอบเสื้อเหลือง ที่ไปกล่าวหาตำรวจมากกว่า ตำรวจในขณะนี้เป็นเหมือนเหยื่อในสถานการณ์"

"ที่จริงตำรวจนั้นไม่ใช่เสื้อแดงหรอกครับ แต่เป็นเพราะเขาไม่ค่อยชอบเสื้อเหลือง ที่ไปกล่าวหาตำรวจมากกว่า ตำรวจในขณะนี้เป็นเหมือนเหยื่อในสถานการณ์"

โดย...เจริญลักษณ์ เพชรประดับ

ภาพลักษณ์ของตำรวจตกต่ำอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองที่เกิดขึ้นจากการกระทำของคนเสื้อแดง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยส่วนหนึ่งมองว่าเป็นเพราะตำรวจ “มะเขือเทศ” ซึ่งทำหน้าที่แบบ “ใส่เกียร์ว่าง”

คล้อยหลังกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น มุกดาหาร และอุบลราชธานี พื้นที่ซึ่งถูกกลุ่มมวลชนเสื้อแดงบุกเผาศาลากลางช่วยราชการกระทรวง ไม่นานนัก สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีคำสั่งเด้งผู้บังคับการตำรวจภูธร (ผบก.ภ.) ทั้ง 4 จังหวัดเข้าไปช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วยเหตุผลเดียวกัน พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (รอง ผบช.ภ.4) รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น หนึ่งในผู้ถูกคำสั่งเด้ง ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่ในภาวะความขัดแย้งทางการเมือง

เฉลยความนัยมะเขือเทศตร.ไม่ใช่แดงแค่ไม่ชอบเหลือง พล.ต.ต.ศักดา

ถ้อยคำแรกหลังได้ฟังคำถามถึงความรู้สึกที่ถูกโยกย้าย เจ้าตัวบอกว่า “ไม่มีความเห็นครับ ไม่น้อยใจและไม่บ่น พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด ผมเป็นตำรวจอาชีพมีสีเดียวคือ สีกากี และเป็นจักรกลให้กับรัฐบาล เหมือนรถยนต์ใครที่ขึ้นมาบริหารบ้านเมืองก็จะมีกุญแจเสียบ พอสตาร์ตเราก็จะขับเคลื่อนไปตามทิศทางที่ผู้ขับขี่กำหนด”
คำถามต่อมาเปิดประเด็นทันทีด้วยสถานการณ์ในพื้นที่นับจากนี้

“ขณะนี้เราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แกนนำไม่มีและส่วนใหญ่ก็จะเก็บตัวหรือไม่ก็หลบหนีไปหมดแล้ว เราได้ติดตามจับกุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มข้น มีการเผยแพร่ภาพผู้ต้องหาผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ และติดตามจับกุมอย่างต่อเนื่อง ในทางจิตวิทยาจะมีผลมาก แกนนำคนสำคัญถูกไล่ล่า ผมเชื่อว่าคงไม่สามารถปฏิบัติการใต้ดินได้ ที่เหลือก็เป็นเพียงระดับสมาชิกทั่วไป หากจะพัฒนาขึ้นมาเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวแบบที่ผ่านมาคงจะต้องใช้เวลานานมากทีเดียว และเมื่อถึงช่วงนั้นสถานการณ์และเงื่อนไขก็น่าจะเปลี่ยนไปแล้ว”

และถึงประเด็นสำคัญ “ตำรวจมะเขือเทศ” ภาพลักษณ์ของตำรวจที่ผ่านมาทำไมจึงดูเหมือนจะเป็นฝ่าย “เสื้อแดง” เยอะมาก?

“ผมตอบแบบตรงไปตรงมาเลยนะครับ ที่จริงตำรวจนั้นไม่ใช่เสื้อแดงหรอกครับ แต่เป็นเพราะเขาไม่ค่อยชอบเสื้อเหลือง ที่ไปกล่าวหาตำรวจมากกว่า ตำรวจในขณะนี้เป็นเหมือนเหยื่อในสถานการณ์ มีอะไรก็มาลงที่ตำรวจหมด ตำรวจจะต้องอดทน และจะต้องเอาตัวรอดเป็นถึงจะอยู่ได้ ใครเก่งหน่อยก็จะต้องมีหลักฐานว่าทำอะไรไป อย่างไร และมีบุญเก่าที่ทำให้ผู้ใหญ่เข้าใจว่าเราเป็นอย่างไร ผมย้ำเลยนะครับว่า ตำรวจยุคนี้จะต้องเอาชีวิตรอดให้ได้

สิ่งสำคัญก็คือจะต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ให้ประชาชนเชื่อถือไว้วางใจให้ได้ ทำงานด้วยความเสมอภาค เป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นวิธีการเดียวที่ตำรวจจะทำได้ในสถานการณ์เช่นนี้ นอกจากนี้คือการปลุกจิตสำนึกการทำหน้าที่ของตำรวจอาชีพขึ้นมา เพื่อให้การเป็นตำรวจนั้นเป็นด้วยจิตวิญญาณ”

มองตำรวจกับการเมืองอย่างไร?

“มันเลี่ยงไม่ได้ เป็นความจริงที่ไม่มีใครกล้าพูดหากยังต้องรับราชการอยู่ ตำรวจจะต้องปรับตัวและยุทธวิธีในการทำงานให้สามารถอยู่รอดได้ การปรับโครงสร้างองค์การตำรวจ พูดและพยายามที่จะทำมาหลายรัฐบาลแล้วครับ แต่ยังไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง สถานการณ์อย่างนี้ผมคงพูดอะไรไม่ได้ เพราะผมยังรับราชการอยู่ แต่ผมเชื่อว่าก่อนที่ผมจะเกษียณอายุราชการ ตำรวจน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างในปัจจุบัน”

******************

พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (รอง ผบช.ภาค 4) รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น อายุ 52 ปี สำเร็จจากโรงเรียนตำรวจรุ่นที่ 34 ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นตำรวจอาชีพอย่างแท้จริง เริ่มรับราชการครั้งแรกที่ สภ.อ.เมืองขอนแก่น ในตำแหน่งรองสารวัตรสืบสวนสอบสวน เมื่อปี พ.ศ. 2524

ภาพลักษณ์ในเส้นทางของการเติบโตเป็นนายตำรวจมือปราบและทำงานครบเครื่องถึงลูกถึงคน และยังมีน้ำใจ ทำให้ “ลูกน้องรักใคร่ ถึงขนาดถวายชีวิตให้” อีกทั้งผู้บังคับบัญชาให้ความไว้วางใจมอบหมายงานสำคัญให้เสมอมา

เส้นทางการทำงานวนเวียนอยู่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น มากที่สุด ชีวิตราชการไม่เคยเป็นนายเวรให้ผู้บังคับบัญชาคนใด หรือติดตามนักการเมืองคนไหน แต่ความเป็นตำรวจอาชีพทำให้เข้ากันได้กับทุกพรรค แม้จะสนองนโยบายฝ่ายการเมืองในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ก็ไม่อิงกับขั้วไหนหรือสายใดแบบเต็มตัว เส้นทางการเติบโตจึงไม่ได้เป็นไปแบบก้าวกระโดดและยังถูกการเมืองเล่นงาน

ในปี พ.ศ. 2551 ยุครัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น ถูกเด้งออกนอกพื้นที่ไปเป็นผู้บังคับการกองตรวจราชการ 5 สำนักงานจเรตำรวจ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ เพราะถูกเพ่งเล็งว่าใกล้ชิดกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองมากเกินไป

ย้ายกลับมาภาคอีสานอีกครั้ง เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรอง ผบช.ภ.4 และพ่วงด้วยตำแหน่งรักษาราชการแทน พล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เพื่อนร่วมรุ่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกพิษกลุ่มเสื้อแดงขวางทางรถไฟมิให้ทหารเคลื่อนกำลัง เด้งไปช่วยราชการ

กระทั่งคนรักษาราชการแทนก็ถูกเด้งตามเจ้าของพื้นที่ตัวจริงไปอีกคน หลังเหตุการณ์เผาศาลากลางในวันที่ 19 พ.ค.

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี