posttoday

ผนึกทุกศาสนาปลุกขวัญเมืองทำบุญล้างอัปมงคล

26 พฤษภาคม 2553

“งานศาสนพิธีฟื้นฟูเมือง”เกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจระหว่าง กทม.กับประชาคมผู้ประกอบและประชาชนทั่วไปในย่านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุจลาจล

“งานศาสนพิธีฟื้นฟูเมือง”เกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจระหว่าง กทม.กับประชาคมผู้ประกอบและประชาชนทั่วไปในย่านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุจลาจล

โดย...ทีมข่าว กทม.

ผลพวงจากสถานการณ์ชุมนุมที่ร้อนระอุของกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่เพียงจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของประชาชนในวงกว้างที่ควรได้รับการเยียวยาโดยเร่งด่วน ดังเห็นได้จากการระเบิดอารมณ์อันเดือดดาลของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในหลายชุมชนได้

ผนึกทุกศาสนาปลุกขวัญเมืองทำบุญล้างอัปมงคล

จนกระทั่งเมื่อเหตุการณ์เลวร้ายยุติลง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จึงสวมบทพ่อพระ-นักบุญ ออกเดินสายแจกถุงยังชีพตามชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งมีการจัดพิธีทำบุญเมืองครั้งใหญ่ เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจของประชาชนกลับคืนมาท่ามกลางบรรยากาศละอองฝนฉ่ำเย็น

“งานศาสนพิธีฟื้นฟูเมือง” เกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจระหว่าง กทม. กับประชาคมผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ สีลม ศาลาแดง และประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์จลาจลที่ผ่านมา โดยมีการจัดพิธีกรรมทางศาสนา 5 ศาสนา ประกอบด้วย พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์ พร้อมเชิญชวนศาสนิกชนทุกหมู่เหล่ามาร่วมพิธีกรรมอันเป็นสิริมงคลครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง

ซึ่งทาง กทม.ได้จัดเต็นท์รองรับประชาชนที่นำข้าวสาร อาหารแห้ง และปัจจัยมาร่วมทำบุญตักบาตรจำนวน 10 จุด ตลอดแนวถนนราชดำริจนถึงถนนพระรามที่ 1

งานบุญเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 06.29 น. ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.6 สวนลุมพินี เริ่มจากพิธีกรรมบวงสรวงเทพยดาของศาสนาพราหมณ์ จากนั้นเป็นพิธีของศาสนาพุทธ โดยพระราชาคณะ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ พิธีตักบาตรพระสงฆ์ 1,000 รูป ต่อด้วยพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม คริสต์ และซิกข์

ผนึกทุกศาสนาปลุกขวัญเมืองทำบุญล้างอัปมงคล

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในฐานะประธานในพิธี เปิดเผยว่า การจัดพิธีทำบุญเมืองในครั้งนี้ถือเป็นวันเริ่มต้นสิ่งที่ดีงามหลังจากเกิดเหตุการณ์อันเลวร้าย เป็นการลบล้างสิ่งไม่ดีในอดีตและเป็นโอกาสในการเริ่มต้นสร้างความสมานฉันท์ในสังคมไทย ซึ่ง กทม.มีหน้าที่สำคัญในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน โดยจะเร่งฟื้นฟูเมืองให้กลับมายิ่งใหญ่ดังเดิม

“ขอให้ทุกคนลืมความเกลียดชังและความบาดหมางที่เคยมีมาในอดีต ลืมว่าเคยใส่เสื้อสีอะไร ทุกฝ่ายควรให้อภัยและหันหน้าเข้าหากัน” ผู้ว่าฯกทม. กล่าว

นอกจากนี้ภายในงาน ผู้ว่าฯกทม. ยังได้นำวัตถุมงคลเป็นพระหลวงพ่อโต เนื้อผงเกสร วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 2,000 องค์ มาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาร่วมงานด้วย

ด้านพระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าคณะพราหมณ์ กล่าวว่า งานทำบุญเมืองจัดขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลและฟื้นฟูจิตใจของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ทำให้ทุกคนเกิดความสงบสันติในจิตใจและดำเนินชีวิตในวันข้างหน้าด้วยความมั่นคง

พระครูวามเทพมุนี กล่าวว่า ตามพิธีพราหมณ์ได้มีการบวงสรวงเทพเทวาที่ปกครองประเทศและอุทิศบุญกุศลแก่ผู้ที่ล่วงลับ ส่วนความขัดแย้งที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องของอกุศลจิต คือความไม่สบายใจ ความไม่สงบ ดังนั้นการจะแก้ไขต้องให้พรตนเอง ทำจิตใจของตนเองให้เบิกบาน ไม่ตกอยู่ในความโลภ โกรธ หลง

ผนึกทุกศาสนาปลุกขวัญเมืองทำบุญล้างอัปมงคล

“หากดูตามดวงเมืองหลังจากนี้คนไทยทุกคนจะต้องร่วมจิตร่วมใจกันเพื่อให้บ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤต ต้องมีความอดทนให้มากทุกอย่างอยู่ที่มนุษย์เราว่าจะร่วมมือร่วมใจกันมากน้อยแค่ไหน” พระราชครูฯ กล่าว

ทั้งนี้ พระราชครูวามเทพมุนี เชื่อว่า หลังจากนี้บรรยากาศบ้านเมืองจะดีขึ้น จึงขอให้ทุกคนหมั่นทำกุศลจิตอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้จะเป็นพรอันประเสริฐให้ชนะตัวเองได้

ขณะที่ น.ส.นพรัตน์ ทิพยพรอนันต์ วัย 45 ปี ครูสอนศาสนากลุ่มคริสจักรยุคพระคุณ กล่าวว่า หลังทราบข่าวว่าจะมีการจัดงานบุญใหญ่ 5 ศาสนา ชาวคริสเตียนจึงได้มีการส่งเอสเอ็มเอสบอกกล่าวไปยังสมาชิกคริสจักรมาร่วมงานกว่า 1,000 คน เพื่อร่วมกันอธิษฐานจิตและทำกิจกรรมร้องเพลงขอพรจากพระเจ้าให้ช่วยปกป้องคุ้มครองประเทศไทยให้รอดพ้นจากวิกฤต

ชาวคริสเตียนเชื่อว่าวิกฤตการณ์ในประเทศไทยเกิดจากความมุ่งร้ายของมารซาตานที่ยุยงให้คนไทยแตกแยก สร้างความเกลียดชัง ทำร้ายกันเอง และเวรกรรมส่วนหนึ่งก็เกิดขึ้นจากการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นเนื้อร้ายที่เกาะกินสังคมไทยมาโดยตลอด มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่มองเห็นและพระองค์จะเป็นผู้เปิดดวงตาให้คนไทยได้เห็นความจริง” เธอกล่าว

น.ส.นพรัตน์ กล่าวว่า ในช่วงที่เหตุการณ์บ้านเมืองอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เครือข่ายชาวคริสเตียนได้รวมตัวกันเข้าโบสถ์ทุกๆ 2 สัปดาห์ เพื่อสวดอธิษฐานขอให้มารซาตานหยุดทำร้ายประเทศไทย ขณะที่บางรายมีการปฏิบัติตนขั้นสูงด้วยการอดอาหารเป็นเวลานานกว่า 40 วัน และจะปฏิบัติต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ต.ค. เนื่องจากยังไม่ไว้ใจในสถานการณ์บ้านเมือง

ผนึกทุกศาสนาปลุกขวัญเมืองทำบุญล้างอัปมงคล

ขณะเดียวกัน ในกลุ่มผู้นับถือศาสนาฮินดูได้มีการทำพิธียัชญะบูชา (บูชาไฟ) เพื่อขอพรจากเทพเจ้าให้บันดาลความสันติสุขแก่ประเทศไทย โดยนายราเกช กุมารเมตตาคุณ เลขาธิการสมาคมฮินดูสมาช กล่าวว่า พิธีบูชาไฟถือเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อที่สืบทอดกันมาของชาวฮินดู โดยใช้ไฟเป็นสื่อนำเครื่องสังเวยขี้นไปถวายทวยเทพบนสวรรค์

นายราเกช กล่าวว่า ในศาสนาฮินดูยังเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในพิธีได้โดยไม่มีการปิดกั้น ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่มีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้ได้มีการแจกพระพิฆเณศให้ประชาชนนำกลับไปบูชาอีกด้วย

“ตามคติความเชื่อของชาวฮินดูถือว่า ทุกคนต้องปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่เบียดเบียนผู้อื่น และต้องไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เมื่อนั้นพระเจ้าก็จะอยู่กับทุกคน” นายราเกช กล่าว

ข่าวล่าสุด

พลังงานคุมเข้มแท่นขุดเจาะอ่าวไทย สกัดโดรนป่วน ไม่กระทบการผลิต