posttoday

ฟาร์มโชคชัยเป็นพี่เลี้ยงวัวมาเลย์-พม่า

05 กรกฎาคม 2557

“ฟาร์มโชคชัย” กระอักวิกฤตไทย ยอดขายตกทุกปี เบนเข็มรับเป็นพี่เลี้ยงฟาร์มวัวนมให้พม่ามาเลเซีย

“ฟาร์มโชคชัย” กระอักวิกฤตไทย ยอดขายตกทุกปี เบนเข็มรับเป็นพี่เลี้ยงฟาร์มวัวนมให้พม่ามาเลเซีย

นายโชค บูลกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ฟาร์มโชคชัย เปิดเผยว่า บริษัทเป็นบริษัทแรกๆ ที่รับผลกระทบเมื่อประเทศประสบปัญหาตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ เผาเมือง น้ำท่วม ปรับขึ้นค่าแรง และปัญหาการเมืองในปี 2556 ทำให้ยอดขายลดลงโดยเฉลี่ยอย่างน้อย 20% มาโดยตลอด บางธุรกิจลดลงถึง 25-27% และสถานการณ์ยังลากยาวจนถึงครึ่งแรกของปีนี้

“อุตสาหกรรมของเราโดนเต็มๆ เป็นมาโดยตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา อย่างขึ้นค่าแรงเราก็รับผลกระทบ เพราะมีคนในส่วนของภาคบริการท่องเที่ยวและค้าปลีก รวมถึงฟาร์มนมรวมแล้วประมาณ 1,200 คน แต่บริษัทก็ยังอยู่ได้ ไม่ได้ขาดทุน เพราะอาศัยเรื่องการบริหารจัดการต้นทุนมาช่วย แต่อนาคตจากนี้ไปเป็นเรื่องคาดเดายาก ขึ้นอยู่กับผู้ที่จะมาบริหารประเทศจะได้รับการยอมรับจากประชาชนหรือไม่ หากไม่ได้การยอมรับก็คงจะมีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทได้มองทางหนีทีไล่ไว้ ด้วยการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ” นายโชค กล่าว

สำหรับแนวทางการไปต่างประเทศของฟาร์มโชคชัยจะไม่เข้าไปในรูปแบบเทรดดิ้ง แต่จะเข้าไปเป็นที่ปรึกษาในการเลี้ยงฟาร์มนม เพราะมีความยั่งยืนในการทำธุรกิจมากกว่า ซึ่งขณะนี้ได้รับการติดต่อจากทางการของพม่าและมาเลเซีย ให้เข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวในทั้ง 2 ประเทศ

ทั้งนี้ ประเทศมาเลเซียน่าจะมีการทำข้อตกลงในเร็วๆ นี้ โดยฟาร์มโชคชัยจะเข้าไปให้ความรู้ในการทำฟาร์มวัวนม นอกจากรายได้จะมาจากค่าธรรมเนียมในการให้ความรู้แล้ว ยังจะมีรายได้จากการขายอาหารสัตว์ ยารักษาสัตว์ เพราะเป็นหนึ่งในเงื่อนไขว่าเกษตรกรที่รับการอบรมจากฟาร์มโชคชัยจะต้องใช้สินค้าจากฟาร์มโชคชัยเป็นระยะเวลา 6 ปี

อย่างไรก็ดี ขนาดของฟาร์มในมาเลเซียจะมีขนาดใหญ่ มีวัวประมาณ 500 ตัว/ฟาร์ม คาดว่าจะมีเกษตรกรเข้ารวม 80-90 ฟาร์ม ในส่วนของประเทศพม่าจะมีขนาดเล็กกว่าจำนวนวัว 20ตัว/ฟาร์ม แต่มีจำนวนฟาร์ม 120 ฟาร์ม

นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรก สถานการณ์การขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทอาจไม่ค่อยดีนัก แต่ขณะนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และน่าจะทำให้ยอดขายที่ดินในครึ่งปีหลังดีขึ้นจนมีโอกาสสร้างสถิติสูงสุดได้ ภายหลังการรัฐประหารและมีการจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ทำให้การลงทุนที่ค้างอยู่เกือบ 78 แสนล้านบาท ได้รับการพิจารณาแล้ว 23 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัท เหมราช ได้ชะลอแผนการลงทุนต่างประเทศ จากเป้าหมายที่มองไว้ที่ลิเบีย ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติ มีโอกาสแต่อาจยังมีความเสี่ยงในเรื่องของกฎหมายที่ยังไม่ได้มาตรฐานสากล ขณะที่รัฐบาลไทยไม่มีความเข้มแข็งเพียงพอจะคุ้มครองผู้ประกอบการชาวไทยในการไปลงทุนยังต่างประเทศ จึงต้องชะลอออกไปก่อน

“แต่การลงทุนส่วนตัวผมยังไปสร้างอสังหาริมทรัพย์กลางกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน เพราะสามารถรับความเสี่ยงได้ และเห็นว่าอิหร่านนั้นอุดมไปด้วยก๊าซ ถ่านหิน แร่ธาตุ ไม่เพียงแต่เหมาะจะลงทุนทางด้านอุตสาหกรรม ยังเหมาะจะลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับภาคท่องเที่ยวอีกด้วย” นายสวัสดิ์ กล่าว

ข่าวล่าสุด

คดีพลิก สหรัฐฯปลดล็อกขายชิปให้จีน แต่รัฐบาลจีนอาจไม่อยากซื้อ