โชว์โหด! โคลอมเบีย หักดาบ ซามูไร 4-1 ชนแข้งจอมโหดรอบสอง
โคลอมเบีย โชว์โหด หลังไล่ถล่ม ญี่ปุ่นไปอย่างขาดลอย เข้าไปพบกับ อุรุกวัย ในรอบสอง
ฟุตบอลโลก 2014
ญี่ปุ่น vs โคลัมเบีย
กลุ่ม ซี
วันที่ 24 มิ.ย.57 เวลา: 03.00 น. (เช้าวันพุธที่ 25 มิ.ย.57 ตามเวลาประเทศไทย)
สนาม: อารีน่า ปันทานาล, กัวอิบา
อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ กุนซือชาวอิตาเลี่ยนของญี่ปุ่น จะต้องตัดสินใจว่าจะส่ง ชินจิ คางาวะ เป็นตัวจริงในเกมนี้หรือไม่เช่นเดียวกับรายของ ยาสึชิโตะ เอ็นโดะ ที่ทัวร์นาเมนต์นี้ไม่ได้เป็นตัวหลักให้กับทีมเหมือนเช่นเมื่อ 4 ปีก่อน
ญี่ปุ่น ต้องการชัยชนะเพื่อลุ้นเข้ารอบและยังต้องพยายามยิงประตูตุนไว้ให้มากที่สุดด้วยหากต้องมานับลูกได้เสียกันจริงๆ ซึ่งโอกาสจะเกิดกรณีแบบนั้นก็มีความเป็นไปได้สูงด้วย
โคลัมเบีย นั้นลอยลำเข้ารอบไปแล้วและต้องการเพียงแค่ผลเสมอเพื่อการันตีการคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมและเหนือความคาดหมายจริงๆสำหรับทีมของ โฮเซ่ เปร์เกมัน กุนซือชาวอาร์ไจนไตน์ เกมนี้คาดว่า โคลัมเบีย อาจจะพักตัวผู้เล่นบางคนเพื่อถนอมเอาไว้สำหรับเกมในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่อาจจะต้องเจอกับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง คอสตาริกา หรือ อุรุกวัย หรือ อิตาลี
ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาเพียงสองหนเท่านั้นในประวัติศาสตร์โดย โคลัมเบีย ทำผลงานได้ดีกว่าเมื่อไม่เคยแพ้ให้กับ ญี่ปุ่น โดยเอาชนะไปได้ 1 ครั้งและเสมอกันอีก 1 ครั้ง
โอกาสแรกในเกมนี้นั้นต้องรอถึงนาทีที่ 10 หลัง มาโกโตะ ฮาเซเบะ กัปตันทีม วางยาวให้ โยชิโตะ โอคุโบะ แต่ดาวยิงจอมเก๋าทำเสียของ ซัดบอลปลิ้นออกไป
สี่นาทีต่อมา ญี่ปุ่น ยังคงบุกอย่างต่อเนื่อง แต่ ฮาเซเบะ ยิงไปให้ ดาวิด ออสปิน่า รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
แต่สามนาทีให้หลัง กลับเป็น โคลอมเบีย ที่เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน หลัง ยาซึยูกิ คอนโนะ ไปสไลด์ใส่ อาเดรียน รามอส คว่ำในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ ฮวน กวาดราโด้ จะรับหน้าที่สังหารไม่พลอด โคลอมเบีย 1-0 ญี่ปุ่น
ผ่านไปครึ่งทางในครึ่งแรก โอกาสทองของ ญี่ปุ่น หลุดมือไปอีกครั้งหลัง ชินจิ คางาวะ รับบอลในพื้นที่อันตราย ก่อนจะแตะหนีแนวรับ โคลอมเบีย ละยิงด้วยขวา แต่ ออสปิน่า พุ่งมาปัดได้อย่างยอดเยี่ยม
ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที ตัวเต็งจากอเมริกาใต้ เกือบจะได้เม็ดที่สอง หลัง อาเดรียน รามอส โชว์เทพจ่ายบอลให้ แจ็คสัน มาร์ติเนซ หลุดเข้าไปยิง แต่เจ้าตัวซัดออกไปแบบน่าเขกกะโหลก
และแล้วความพยายามของแชมป์เอเชียก็เป็นผล หลัง เคสึเกะ ฮอนดะ เปิดบอลให้ ชินจิ โอคาซากิ ทิ้งดิ่งโขกตุงตาข่าย ตีเสมอเป็น 1-1 ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าจบเกมในครึ่งแรก
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียงแค่ 10 นาที โคลอมเบีย มาได้ประตูที่สอง จากจังหวะชุลมุนในกรอบเขตโทษ เจมส์ โรดริเกซ จ่ายถวายพานให้ แจ็คสัน มาร์ติเนซ หวดด้วยซ้าย บอลสวนตัว เออิจิ คาวาชิมะ ตุงตาข่าย โคลอมเบีย 2-1 ญี่ปุ่น
นาทีที่ 63 เฟรดี้ กัวริน รับใบเหลืองไป หลังไปเข้าหนักใส่ ชินจิ คางาวะ ดาวเตะจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อีกสองนาทีต่อมา แฟนๆ แข้งซามูไร ถึงกับออกกาการเสียดายสุดๆ เมื่อ อัตซึโตะ อูจิดะ เปิดบอลลึกมาในกรอบเขตโทษ แต่ โอคุโบะ ยังกดไม่ลง
นาทีที่ 82 โคลอมเบีย มาได้เม็ดที่สามจากจังหวะโต้กลับ เจมส์ โรดริเกซ แทงทะลุให้ แจ็คสัน มาร์ติเนซ หลุดไปในกรอบ ก่อนแตะหลบแนวรับญี่ปุ่น เข้าทางปืนด้วยซ้าย และบรรจงปั่นบอลโค้งเสียเสาตุงตาข่ายอย่างสุดยอด เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย โคลอมเบีย 3-1 ญี่ปุ่น
เปร์เกร์มัน กุนซือของ โคลอมเบีย สร้างเซอร์ไพรซ์ด้วยการส่ง ฟาริด มอนดรากอน นายทวารจอมเก๋าวัย 43 ปี ลงมาเล่นแทน
นาทีสุดท้าย โคลอมเบีย มาได้ประตูที่ 4 จากการหลุดเข้าไปชิพอย่างเหนือชั้นของ เจมส์ โรดริเกซ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าจบเกมในกลุ่ม ซี โคลอมเบีย ถล่ม แชมป์เอเชียอย่าง ญี่ปุ่น ไปอย่างขาดลอย 4-1 จบรอบแรกในฐานะแชมป์กลุ่ม มีอยู่ 9 คะแนนเต็ม ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยจะไปพบกับรองแชมป์กลุ่ม ดี อย่าง อุรุกวัย ส่วน ญี่ปุ่น ตกรอบแรกไปอย่างชอกช้ำ
ญี่ปุ่น
เออิจิ คาวาชิมะ ; ยูโตะ นางาโตโมะ, มายะ โยชิดะ, ยาซึยูกิ คอนโนะ, อัตซึโตะ อูจิดะ ; โทชิฮิโระ อาโอยามะ, มาโคโตะ ฮาเซเบะ ; ชินจิ โอคาซากิ, ชินจิ คางาวะ, เคซึเกะ ฮอนดะ - โยชิโตะ โอคุโบะ
โคลอมเบีย
ดาวิด ออสปิน่า ; ปาโบล อาร์เมโร่, ซานติอาโก้ อาเรียส, เอเดร์ บาลันต้า, การ์ลอส วัลเดส ; เฟรดี้ กวาริน, ฮวน กวาดราโด้, อเล็กซานเดร์ เมเฮีย, ฮวน กินเตโร ; อาเดรียน รามอส, แจ็คสัน มาร์ติเนซ
ผู้ตัดสิน : เปโดร โปรเอนช่า (โปรตุเกส)


