เนย์มาร์ โชว์! แซมบ้าฆ่าหมอผีขาดลอย 4-1 ลิ่วชน ชิลี รอบสอง บอลโลก 2014
เนย์มารฺ์ เหมาคนเดียวสองประตู ให้ บราซิล ไล่ถล่ม แคเมอรูน 4-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสองในฐานะแชมป์กลุ่ม
ฟุตบอลโลก 2014
แคเมอรูน-บราซิล
วันที่: 23 มิ.ย.57 เวลา: 03.00 น. (เช้าวันอังคารที่ 24 มิ.ย.57 ตามเวลาประเทศไทย)
สนาม: เอสตาดิโอ นาซิยงนาล, บราซิเลีย
แคเมอรูน ของกุนซือเยอรมัน โฟลเกอร์ ฟิงเค่ จะหมดสิทธิ์ใช้งานกองกลางอย่าง อเล็กซ์ ซง ในเกมนี้หลังจากดาวเตะของบาร์เซโลน่าไปศอกใส่หลังของ มาริโอ มานด์ซูคิช ในเกมก่อน นอกจากนี้ ฟิงเค่ ต้องขาก เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ แบ็คซ้าย และ ซามูเอล เอโต้ กอง
หน้ากัปตันทีมที่ไม่ฟิตลงช่วยทีมในเกมนี้ได้โดย อาบูบาการ์ จะได้ยืนหน้าแทน
ด้าน บราซิล ของ หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ได้ข่าวดีเมื่อ ฮัลค์ กองหน้าร่างยักษ์หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาเป็น 11 ตัวจริง ในส่วนของผู้เล่นที่มีใบเหลืองอยู่ 1 ใบและมีสิทธิ์จะโดนกักในเกมต่อไปได้มีอยู่ 3 รายด้วยกันประกอบไปด้วย เนย์มาร์, หลุยส์ กุสตาโว่ และ ติอาโก้ ซิลวา
คู่นี้เคยเจอกันมาแค่หนเดียวในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 1994 หนนั้น บราซิล เอาชนะ แคเมอรูน ในรอบแบ่งกลุ่มไปด้วยสกอร์ 3-0 และทีมของ คาร์ลอส อัลแบร์โต้ ปาร์ไรร่า ก้าวต่อไปสู่การเป็นแชมป์สมัยที่ 4
ด้าน แคเมอรูน หวังที่จะลบผลงานที่ไม่ดีเมื่อแพ้ติดต่อกันมา 6 เกมแล้วในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย โดยถือเป็นความพ่ายแพ้ติดต่อกันที่เยอะที่สุดของฟุตบอลโลกสำหรับชาติที่มาจากทวีปแอฟริกาอีกด้วย
แม้ว่าผลเสมออาจจะเพียงพอที่จะทำให้ บราซิล ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ แต่เชื่อว่า หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ คงเน้นให้ลูกทีมเอาชนะให้มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรมาช็อคพวกเขาได้กับการไม่ผ่านเข้ารอบ
เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 30 วินาที บราซิล มาได้ลูกฟรีคิก หลัง ฮัลค์ ไปถูก อองรี เบดิโม่ เหนี่ยว เนย์มาร์ บรรจงปั่นเข้ามาแต่ ดาวิด ลุยซ์ ขึ้นโขกไม่โดน และจังหวะต่อเนื่อง เนย์มาร์ ถวายพานเข้าไปในกรอบ แต่ เฟร็ด แปเหน่งๆ พลาดไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 9 แคเมอรูน ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะโต้กลับ และเป็น มูก็องโฌ่ ที่ลองซัดหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งไปโดน มาร์เซโล่ ออกหลังไป
นาทีที่ 11 เอย็อง เอโนห์ กลางเป้นนักเตะคนแรกที่รับใบเหลืองไป หลังไปเสียบ มาร์เซโล่ เอาซะคว่ำ
สองนาทีต่อมา ทีม "หมอผี" มีโอกาสอีกครั้งเมื่อ มักซิม ชูโป โมติง พาบอลไปถึงสุดเส้น ก่อนปาดเข้ามาตรงกลาง ยังดีที่ ดาวิด ลุยซ์ หวดทิ้งออกไปได้ทัน
นาทีที่ 15 เกิดเรื่องแปลกๆ ในสนาม หลัง อัลลัน นีย็อม ไปผลัก เนย์มาร์ จากจังหวะที่บอลออกหลังไปแล้วเอาดื้อๆ ทำเอาผู้ตัดสินต้องมาเคลียร์เรื่องกันยกใหญ่ สุดท้ายไม่มีใครโดนใบเหลือง
อีกสองนาทีต่อมา เนย์มาร์ ที่ยังงอนๆ ไม่หาย มายิงให้ บราซิล ขึ้นนำ แคเมอรูน 1-0 แบบง่ายๆ ถือเป็นประตูที่สามของเจ้าตัวในทัวร์นาเมนท์นี้ นอกจากนี้ยังเป็นประตูที่ 100 ในศึกฟุตบอลโลกหนนี้ และเป็นประตูที่ 100 ที่บราซิลทำได้ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกด้วย
นาทีที่ 20 เนย์มาร์ เกือบบวกสกอร์ให้กับตัวเอง และทีมได้ หลัง ฮัลค์ เปิดบอลมาให้ ก่อนจะวอลเลย์ด้วยซ้าย แต่ ชาร์ลส์ อิต็องเช่ ยังเซฟไว้ได้
ผ่านมาครึ่งทางในครึ่งแรก เอย็อง เอโนห์ ของ แคเมอรูน ได้ลองซัดหน้ากรอบ บอลเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ ติอาโก้ ซิลวา เคลียร์บอลผิดเหลี่ยมเกือบเข้าประตูตัวเอง แคเมอรูน ได้ลูกเตะมุม
และจากจังหวะลูกเตะมุมลูกนี้ แข้งหมอผีเกือบได้ลูกตีเสมอ จากลูกโหม่งของ โฌแอล มาติป แต่บอลพุ่งแฉลบไปชนคานได้ลูกเตะมุมอีกครั้ง
และแล้วความพยายามของ แคเมอรูน ก็มาเป็นผลจากจังหวะเตะมุมครั้งที่สอง นักเตะ บราซิล เคลียร์ ออกมา แคเมอรูน มาตั้งเกมกันใหม่ บอลมาถึง อัลลัน นีย็อม ก่อนที่เจ้าตัวจะแตะหนี ดาเนียล อัลเวส ไปสุดเส้นหลัง ละปาดเข้ามาในกรอบ 6 หลา ให้ โฌแอล มาติป เข้า
มาชาร์จ่อๆ แคเมอรูน ตีเสมอ บราซิล เป็น 1-1 เป็นประตูแรกของเจ้าตัวในการรับใช้ทีมชาติ และของ แคเมอรูน ในฟุตบอลโลกครั้งนี้
ยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ สำหรับขุนพล แคเมอรูน ที่ตอนนี้เป็นฝ่ายครองเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว
แต่กลับกลายเป็น บราซิล ที่มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 35 หลัง อัลลัน นียอม เปิดบอลไม่ดี บอลไหลมาเข้าทาง มาร์เซโล่ แทงให้ เนย์มาร์ เลี้ยงเข้าในแตะหนี นิโกล่าส์ เอ็นคูลู ก่อนยิงด้วยขวา บอลสวนกับทาง อิต็องเช่ เข้าไปอย่างง่ายๆ บราซิล ออกนำ 2-1
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่สองนาที บราซิล เกือบได้เม็ดที่สาม หลัง เฟร็ด ได้จังหวะพลิกบอลก่อนยิงหน้ากรอบ บอลพุ่งไปโดน อิต็องเช่ เซฟ อีกครั้ง
และจากจังหวะต่อเนื่อง เนย์มาร์ ซัดฟรีคิก แต่ยังไม่ผ่านมือ อิต็องเซ่ ที่ต้องทำงานหนักเลยทีเดียว
บราซิล มาได้เม็ดที่สาม หลัง แฟร์นันดินโญ่ ดีดบอล ให้ ดาวิด ลุยซ์ เปิดกลับมาให้ เฟร็ด ชาร์จจ่อๆ เข้าไป เป็นประตูที่ 18 ในสีเสื้อ "เซเลเซา"
หลังจากนั้นยังเป็น บราซิล ที่บุกหนัก แต่กว่าจะมาได้เม็ดที่สี่นั้นต้องรอจนถึงช่วง 5 นาทีสุดท้ายของเกม จากลูกยิงของ แฟร์นันดินโญ่ ตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาไม่นาน จบเกม บราซิล ถล่ม แคเมอรูน ไปอย่างสบายๆ 4-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม A เข้าไปพบกับ ชิลี ทีมอันดับ 2 ในกลุ่ม B
แคเมอรูน
ชาร์ลส์ อิต็องเช่ - อัลลัน นียอม, โฌแอล มาติป, นิโกล่าส์ เอ็นคูลู (กัปตันทีม), อองรี เบดิโม่ - เอย็อง เอโนห์ - ล็องดรี้ เอ็นกูเอโม่, สเตฟาน เอมเบีย, เอริก มักซิม ชูโป-โมติง, เบนฌาแม็ง มูก็องโฌ่ - แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์
บราซิล
ชูลิโอ เซซ่าร์ - ดาเนียล อัลเวส, ดาวิด ลุยซ์, ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม), มาร์เชโล่ - ลุยซ์ กุสตาโว่, เปาลินโญ่ - ออสการ์, ฮัลค์, เนย์มาร์ - เฟร็ด
ผู้ตัดสิน : โยนาส อีริคส์สัน (สวีเดน)


