posttoday

คนสเปนแห่ลงชื่อร้องขอความเป็นธรรมให้"ยู่ยี่"

20 มิถุนายน 2557

คนสเปนกว่าแสนแห่ลงชื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ยู่ยี่ผ่าน Change.org ข้องใจการสอบสวนไม่โปร่งใส เปลี่ยนข้อหาและสารเสพติดเพิ่ม

คนสเปนกว่าแสนแห่ลงชื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ยู่ยี่ผ่าน  Change.org   ข้องใจการสอบสวนไม่โปร่งใส  เปลี่ยนข้อหาและสารเสพติดเพิ่ม

จากกรณีที่  “ยู่ยี่”  อลิสา อินทุสุมิต หรือนางชัชชญา เควสต้า รามอส วัย 41 ปี  อดีตนักร้อง-นางแบบชื่อดัง และ ภรรยา นายแฟรงค์-ฟรานซิสโก เกวสต้า  พิธีกรรายการสารคดีอนุรักษ์สัตว์ชื่อดังชาวสเปน ที่ถูกศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุกรวม 15 ปี 3 เดือน ปรับ 1.5 ล้านบาท ฐานลักลอบนำยาเสพติดให้โทษโคคาอีน(โคเคน)  จำนวน 251 มิลลิกรัม เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต  ซึ่งถือว่าเป็นโทษที่หนักมาก และกลายเป็นประเด็นร้อนที่ประเทศสเปนในขณะนี้   โดยมีประชาชนชาวสเปนรณรงค์ให้มีการเรียกร้องให้มีการคืนความเป็นธรรมให้ยู่ยี่ ผ่าน www.change.org/justice4yuyee
  และ www.change.org/freeyuyee  โดยมีผู้ลงชื่อกว่า 100,000 คน

นายเอเดรียน เฟอนันเดซ หนึ่งในผู้รณรงค์  ระบุว่า  การตัดสินลงโทษจำคุก 15 ปี  กรณีนำเข้ายาเสพติดจำนวน 251  มิลลิกรัม ยังมีข้อสงสัยที่ต้องการคำตอบเป็นอย่างมาก เพราะเหมือนเรื่องดังกล่าวถูกจัดฉากขึ้นมา โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของจำนวนสารเสพติด  โดยที่ในช่วงทีมีการจับกุมเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2555 พบโคเคนแค่  5 มิลลิกรัม (0.005 กรัม) เท่านั้น และเป็นแค่ข้อหามีสารเสพติดไว้ในครอบครอง  แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2556 อัยการได้สั่งให้ตำรวจเพิ่มข้อหานำเข้าสารเสพติด ซึ่งทำให้มีโทษสูงถึง 20 ปี  และเมื่อสิ้นสุดการพิจารณาคดีในชั้นศาลกลับพบว่ามีสารเสพติด 251 มิลลิกรัม  (0.251
 กรัม) ทั้งหมดเหล่านี้ทำให้มีคำถามมากมายว่ากระบวนการสอบสวนมีความเป็นธรรมและโปร่งใส หรือไม่อย่างไร 

“ยาเสพติดแค่  5 มิลลิกรัม ถือว่าน้อยมากแล้วจะแจ้งว่าเป็นการลักลอบได้อย่างไร เพราะมันไม่ถึง1กรัมด้วยซ้ำ แล้วจะนำไปขายให้ใครได้  ถือว่าเป็นข้อหาที่ไม่มีเหตุผล และอยู่ๆกลับพบว่ามีโคเคนเพิ่มขึ้นเป็น  251 มิลลิกรัมได้อย่างไร  สารเสพติดเพิ่มมาจากไหนอีก 50เท่า  เรื่องเหล่านี้ต้องมีคำตอบ ไม่เช่นนั้นจะถือว่ากระบวนการสอบสวนและคำตัดสินดังกล่าวถือว่าไม่เป็นธรรม”   นายเอเดรียน กล่าว

นายเอเดรียน ระบุต่อว่า ที่ผ่านมานายแฟรงค์และภรรยาได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศอย่างมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ต่างๆ รวมถึงในรายการยังได้มีการถ่ายทอดเรื่องราวสถานที่สวยงามต่างๆในประเทศไทยไปสู่สายตาชาวโลก แต่ทำไมประเทศไทยถึงได้ทำกับครอบครัวเขาแบบนี้  ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันลงชื่อถึงสถานทูตไทยประจำประเทศสเปน และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย พิจารณาเรื่องนี้และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันให้เกิดกระบวนการสอบสวนที่เป็นธรรมและปล่อยตัวยู่ยี่โดยเร็วที่สุดต่อไป 

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี