posttoday

ทหาร-ตำรวจเล่นบทเข้มปรามแก๊งทวงหนี้ชาวนา

31 พฤษภาคม 2557

หลังประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งห้ามเจ้าหนี้เงินกู้ใช้วิธีการข่มขู่

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

หลังประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งห้ามเจ้าหนี้เงินกู้ใช้วิธีการข่มขู่ ไม่ว่าด้วยวาจาหรือกำลังทวงหนี้จากชาวนา แต่ให้ใช้มาตรการตามกฎหมายเพื่อเรียกชำระหนี้ ทำให้ทหารและตำรวจในหลายพื้นที่ต่างออกมากวดขันปราบปรามกลุ่มเงินกู้ที่ใช้วิธีการนอกกฎหมายในการเรียกชำระหนี้จากชาวนา

พล.ต.พิเชฐ สุขพงศ์พิสิฐ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 31 (ผบ.มทบ.31) รับผิดชอบพื้นที่ จ.พิษณุโลก นครสวรรค์ ตาก และเพชรบูรณ์ พื้นที่ปลูกข้าวแหล่งใหญ่ ได้กำชับให้สมาชิกชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.นครสวรรค์ ที่มาให้กำลังใจ คอยติดตามพฤติกรรมกลุ่มทวงหนี้นอกระบบที่มาข่มขู่ชาวนาอย่างใกล้ชิด หากพบให้แจ้งเบาะแสมายังฝ่ายทหารเพื่อดำเนินการจับกุม

ด้าน พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รอง ผบช.ภ.7) ก็สั่งการให้ตำรวจภูธรในพื้นที่ภาคตะวันตกจับตาแก๊งหมวกกันน็อก ซึ่งออกข่มขู่ทวงหนี้ตามหมู่บ้านในชนบท

“แม้เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดแต่ก็ยังมีหลุดลอดไปได้ เนื่องจากการสมยอมกันระหว่างผู้กู้กับผู้ให้กู้ โดยเฉพาะชาวนาซึ่งเดือดร้อนต้องใช้เงิน จึงไปกู้เงินนอกระบบมาเพื่อนำมาเป็นทุนหมุนเวียน สำหรับแก๊งเงินกู้จะเป็นชายฉกรรจ์สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบเพื่อไปทวงเงินจากลูกหนี้ หากไม่ได้ก็จะข่มขู่ลูกหนี้ แต่หากมีการแจ้งความร้องทุกข์เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเข้าจับกุมในทันที” รอง ผบช.ภ.7 กล่าว

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า อยากฝากไปถึงกลุ่มนายทุนที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า แก๊งหมวกกันน็อก ขอให้เลิกพฤติการณ์ข่มขู่ หากถูกจับกุมจะถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหากรรโชกทรัพย์ และยังมีความผิดอื่นๆ ประกอบเข้าไปด้วย จะต้องมีระบบการทวงถามโดยถูกกฎหมาย หากระบบการทวงถามผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายต่อผู้ให้กู้อย่างเด็ดขาด และหากยังพบว่าแก๊งหมวกกันน็อกมีการข่มขู่ลูกหนี้ โดยเฉพาะเกษตรกรชาวนา ถือว่ากระทำการฝ่าฝืนคำสั่งของ คสช. ฉบับที่ 46/2557 อย่างเด็ดขาด

ขณะที่ จ.ลำปาง สารวัตรทหาร มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี เข้าพบ พ.ต.ท.สมควร เกตุเทศ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อขอข้อมูลกรณี ชวน ชัยเลิศ ชาวนา ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง แจ้งความถูกเจ้าหนี้ข่มขู่ยึดรถไถและสมุดบัญชีธนาคาร รวมทั้งรถจักรยานยนต์ มูลค่ากว่า 5 หมื่นบาท โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทั้งชวนและเจ้าหนี้ไปพบ เพื่อให้ข้อมูลกับฝ่ายทหารที่ศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย จ.ลำปาง ภายในค่ายสุรศักดิ์มนตรี

อย่างไรก็ตาม ตำรวจขอให้เจ้าหนี้นำรถจักรยานยนต์ที่ยึดไปมาเก็บไว้ที่ สภ.เมืองลำปาง ซึ่งฝ่ายเจ้าหนี้ก็ยินยอม

ขณะเดียวกัน ชวน ชาวนาที่ถูกทวงหนี้ ก็ได้เดินทางไปยังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาอาลัมภางค์ จ.ลำปาง เพื่อนำสมุดบัญชีเล่มใหม่ที่ทางธนาคารออกให้ไปเบิกเงินที่ได้รับจากโครงการรับจำนำข้าวเป็นเงิน 1.2 แสนบาท เพื่อนำไปใช้หนี้อื่นๆ ที่ยังติดค้าง

หลังการสอบถามข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย พ.อ.ชัยณรงค์ แกล้วกล้า รอง ผบ.มทบ.32 เปิดเผยว่า คู่กรณีทั้งสองฝ่ายรู้จักสนิทสนมกัน มีการกู้ยืมเงินกันโดยไม่มีดอกเบี้ย ไม่ได้เป็นกลุ่มนายทุนเงินกู้แต่อย่างใด กระทั่งเกิดหนี้ผูกพันมานานและไม่ยอมคืนเงิน ทำให้เจ้าหนี้ได้เข้ามาติดตามทวงถามมาโดยตลอด กระทั่งชวนยินยอมให้ยึดรถไถแลกหนี้ 8 หมื่นบาท

สำหรับสาเหตุล่าสุดที่เจ้าหนี้มายึดรถจักรยานยนต์ เพราะยังคงค้างเงินที่กู้ยืมไปอีกกว่า 4 หมื่นบาท ส่วนการตามยึดสมุดบัญชีธนาคารก็ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้แล้ว เจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้ด้วยรถไถที่ยึดไป และยินยอมคืนรถจักรยานยนต์ให้ จะไม่มีการเรียกร้องอีก

“กรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเป็นการกระทำด้วยอารมณ์ที่ชั่ววูบของทั้งสองฝ่าย จนเกิดข่าวการเข้าใจผิดเกิดขึ้นในพื้นที่ ทำให้ทาง คสช.มีความกังวลและเป็นห่วงต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงได้สั่งการให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด” พ.อ.ชัยณรงค์ กล่าว

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมบอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด ผลบอลสด วันอังคารที่ 23 ธ.ค. 68