posttoday

สลายขั้วอำนาจ"ตำรวจเพื่อไทย"

26 พฤษภาคม 2557

รายชื่อลำดับที่ 2-8 ถือเป็นคำสั่งที่ให้ย้ายขาดจากต้นสังกัดเดิมทั้งหมด นับเป็นการสลายอำนาจตำรวจจากขั้วเพื่อไทยอย่างเห็นได้ชัด

โดย...ทีมข่าวการเมือง

คำสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. สั่งการให้มีการโยกย้ายนายตำรวจระดับผู้บัญชาการรวมทั้งหมด 8 นาย หลังได้เข้ายึดอำนาจ รวมถึงตัวของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ที่ถูกย้ายด้วยเช่นกัน ก็ได้สร้างแรงกระเพื่อมไปยังรั้วปทุมวันให้เป็นไปอย่างรุนแรง

โดยเฉพาะ 8 นาย ที่เป็นนายตำรวจใกล้ชิดจากฟากของพรรคเพื่อไทย และรัฐบาล ถูกแขวนเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้ย้ายขาดจากต้นสังกัดเดิม

ภาพจึงออกมาชัดเจนหากจะถอดรูปแบบการแต่งตั้งโยกย้ายในช่วงที่เกิดการรัฐประหารครั้งนี้ นายตำรวจที่มาแทนตำรวจขั้วจากเพื่อไทยก็ใช่คนอื่นไกล แต่กลับเป็นตำรวจที่อยู่ขั้วตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทย หรือเคยยิ่งใหญ่เติบโตในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์

เริ่มจาก 1.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ถูกย้ายทันทีเพราะถือเป็นนายตำรวจที่ประกาศตัวชัดเจน ว่าหากมีการเปลี่ยนรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย เขาก็จะถอดเครื่องแบบออกจากการเป็นตำรวจ และคนที่มาแทนปรากฏเป็นชื่อของ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ใกล้ชิดกับพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงก่อนหน้านี้ก็เคยอยู่ในตำแหน่ง ผบช.น. มาก่อนในช่วงที่สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบคุมตำรวจ แต่ครั้งนี้ต้องขยับลงมาจากตำแหน่งเดิมเพื่อมาคุมนครบาล

2.พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 ถูกย้ายเพราะมีความใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทย และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะที่คนมาแทนคือ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกดันให้ดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.1 ในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ต้องอกหักเพราะมีการร้องเรียนเรื่องอายุราชการที่ยังไม่เข้าเกณฑ์

3.พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.2 อีกหนึ่งนายตำรวจที่ได้ดีอยู่ในพื้นที่ทองคำด้านภาคตะวันออกในยุคของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และยังเป็นสายตรงคนเสื้อแดงรวมถึงสนิดชิดใกล้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่มาถูกย้ายออก โดยผู้ที่มาแทนที่เป็น พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบช. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ โดย พล.ต.ต.ศานิตย์ เคยเป็น ผบก.น.3 ก่อนถูกย้ายเข้ากรุเมื่อช่วงเปลี่ยนถ่ายรัฐบาล

4.พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ. 4 นายตำรวจที่ดูแลคนเสื้อแดงในพื้นที่ภาคอีสานตอนเหนือมีชื่อถูกย้ายเช่นกัน ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.อนุชัย เคยดำรงตำแหน่งรอง ผบช.น. ก่อนจะมีการผลักดันจากสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ให้ขึ้นมาเป็น ผบช.ภ.4 เนื่องจากมีความใกล้ชิดกัน และคนที่มาแทนที่ก็เป็นชื่อของ พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ผบช.สำนักงบประมาณและการเงิน ที่ใกล้ชิดกับพรรคประชาธิปัตย์

5.พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 คนใต้โตเหนือชื่อดัง ที่เคยถูกเสนอจาก ผบ.ตร. ให้มานั่งเก้าอี้ ผบช.น. แทน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เมื่อไม่นาน แต่ยังไม่ผ่านการอนุมัติจาก กกต. แต่เมื่อถูกยึดอำนาจก็เข้ากรุงเทพฯ หลังมีการโยกย้าย โดยนายตำรวจผู้นี้ใกล้ชิดกับสมชายและเยาวภา รวมถึงเป็นนายตำรวจในคาถาของ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา อดีตรอง ผบ.ตร. ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้ ส่วนคนที่มาแทนก็ยังเป็นตำรวจที่ใกล้ชิดกับพรรคประชาธิปัตย์ คือ พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.

6.พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 ใกล้ชิดทางฝั่งของ พจมาน ณ ป้อมเพชร รวมถึง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. เป็นอย่างดี ถูกย้ายเข้ากรุด้วยเช่นกัน ส่วนคนที่มาปฏิบัติหน้าที่แทน คือ พล.ต.ท.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง จเรตำรวจ สบ8

7.พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. อีกนายตำรวจที่ใกล้ชิดอย่างดีกับครอบครัวชินวัตรผ่านทางพจมาน ถึงขนาดที่เคยถูกเรียกว่าตำรวจถือกระเป๋า คุณหญิง ถูกเด้งก่อนจะเกษียณอายุราชการในปีนี้ โดยเคยถูกให้ย้ายออกจากพื้นที่นครบาลในตำแหน่งรอง ผบช.น. ในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนจะกลับเข้ามาผงาดคุมตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในยุคของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม คนมาแทนที่ คือ พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี นายตำรวจในคาถาของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.

8.พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผบช.สันติบาล ตำรวจใกล้ชิด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ถูกเด้งเข้ากรุเช่นกัน โดยผู้ที่มาแทน คือ พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รองจเรตำรวจ สบ7 ตำรวจที่ใกล้ชิดกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะกับเหตุการณ์กระชับพื้นที่กลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ชื่อของ พล.ต.ต.เรวัช โดดเด่นเพราะเป็นตำรวจนายเดียวที่ได้คุมกำลังร่วมกับทหารในการขอคืนพื้นที่ครั้งนั้นตามคำสั่งของ ศอฉ. โดยความรับผิดชอบของสุเทพ

ขั้วอำนาจสีกากีถูกสลับสับเปลี่ยนจากอำนาจเดิมมาสู่กลุ่มตรงข้าม และในรายชื่อตั้งแต่ลำดับที่ 2-8 ถือเป็นคำสั่งที่ให้ย้ายขาดจากต้นสังกัดเดิมทั้งหมด นับเป็นการสลายอำนาจตำรวจจากขั้วเพื่อไทยอย่างเห็นได้ชัด

ข่าวล่าสุด

เจาะรายละเอียด อย.ปลดล็อก ยา ‘ATMP’ ตามความเสี่ยง 3 ระดับ!