เผยแผ่นดินไหวเชียงรายเปลี่ยนความเชื่อคนไทย
อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีชี้แผ่นดินไหวเชียงราย เปลี่ยนความเชื่อคนไทยที่เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุ ห่วงดินถล่ม 40 กม.รอบอำเภอพาน
อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีชี้แผ่นดินไหวเชียงราย เปลี่ยนความเชื่อคนไทยที่เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุ ห่วงดินถล่ม 40 กม.รอบอำเภอพาน
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. นายปราณีต ร้อยบาง อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรธรณี ได้ตรวจสอบเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา พบว่ามีจุดศูนย์กลางบริเวณ ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย โดยมีขนาด 6.3 ตามมาตราริกเตอร์ และมีความลึก 7 กิโลเมตรจากผิวโลก ห่างจากอ.แม่สรวย 18 กิโลเมตร ห่างจาก อ.แม่ลาว 15 กิโลเมตร และห่างจาก อ.เมือง จ.เชียงราย 31 กิโลเมตร โดยสาเหตุเกิดจากการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนมีพลัง กลุ่มรอยเลื่อนพะเยา ซึ่งมีความยาวประมาณ 14 กิโลเมตร เคลื่อนตัวในแนวราบแบบเหลื่อมซ้าย
นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า ขณะนี้กรมทรัพยากรธรณียังต้องเฝ้าระวังรอยเลื่อน 5 กลุ่ม รอบรอยเลื่อนพะเยาได้แก่ รอยเลื่อนแม่จัน รอยเลื่อนแม่ทา รอยเลื่อนเถิน รอยเลื่อนแม่อิง และ รอยเลื่อนปัว เนื่องจากอาจปล่อยพลังงานออกมาตามหลังรอยเลื่อนพะเยา
ทั้งนี้ รอยเลื่อนพะเยาเคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2537 ขนาด 5.3 ซึ่งรอยเลื่อนดังกล่าวจะขยับตัวทิ้งระยะห่างประมาณ 10-20 ปี
นอกจากนี้ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ยังเตือนให้เฝ้าระวังเหตุอาฟเตอร์ช็อค ขนาด 4.0-4.1 เนื่องจาก หลังเกิดแผ่นดินไหว เกิดอาฟเตอร์ช๊อคแล้วมากกว่า 80 ครั้ง และขอให้เฝ้าระวังเหตุดินถล่มในพื้นที่ 30-40 กิโลเมตร รอบรอยเลื่อนพะเยา เพราะในช่วงวันที่ 5-7 พ.ค. ได้รับรายงานว่าจะมีฝนตกหนัก ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่ลาดเชิงเขา อาจได้รับอันตรายจากดินถล่ม เนื่องจากแผ่นดินไหว ทำให้เนื้อดินไม่แน่นเช่นเดิม นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังถ้ำในเขต จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ที่ได้รับความรู้สึกสั่นไหว เนื่องจากอาจเกิดเหตุดินถล่มปิดปากถ้ำเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบควรตรวจสอบความแข็งแรง ก่อนเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ได้รับแรงสั่นสะเทือนนั้น ถือว่าน่าเป็นห่วงเช่นเดียวกัน แต่พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงมากกว่า ได้แก่ จ.สมุทรปราการ เนื่องจากชั้นดินอ่อนกว่ามาก อาจได้รับแรงสั่นสะเทือนได้ง่าย
“แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.3 ริกเตอร์เท่ากับเป็นการเปลี่ยนความเชื่อของประชาชนที่เคยเชื่อกันว่าประเทศไทยจะไม่มีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นอีกและจะรุนแรงขึ้นส่งผลกระทบต่อดินถล่มและน้ำท่วม แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไร ที่ไหน”รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณีกล่าว
สำหรับข้อปฏิบัติตนเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ถ้าอยู่ในบ้านให้ยืนหรือหมอบอยู่ในส่วนของบ้านที่มีโครงสร้างแข็งแรง ให้อยู่ห่างจากประตู ระเบียง หน้าต่าง และหลังเกิดเหตุให้รีบวิ่งออกจากอาคารให้เร็วที่สุด ห้ามใช้ลิฟต์ นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบด้วยว่ามีแก๊สรั่วบริเวณใกล้เคียงหรือไม่ และหากอยู่ในที่โล่งแจ้งให้อยู่ห่างจากเสาไฟฟ้า หากอยู่ชายหาดให้อยู่ห่างจากชายฝั่งและหากขับรถให้หยุดรถ จอดชิดขอบทางทันที
ส่วนการป้องกันเรื่องของอาคารสูงทรุดตัวนั้น รองอธิบดีกรมทรัพยากรธณณี กล่าวว่า ขณะนี้กฎหมายกำหนดให้อาคารสูงต้องมีโครงสร้างรองรับแผ่นดินไหวได้ถึงระดับ 7 แล้ว แต่ไม่ได้เป็นการบังคับอย่างเด็ดขาด โดยจะให้เจ้าของอาคารพิจารณาเองว่าควรวางรากฐานและโครงสร้างเพื่อให้รองรับแผ่นดินไหวหรือไม่เพราะโครงสร้างอาคารลักษณะนี้มีราคาสูง ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์นี้อาจต้องทบทวนกฎหมายอีกครั้ง


