posttoday

ความสันโดษแด่คนหนุ่ม

27 เมษายน 2557

เมื่อแรกเกิดมาบนโลก คนเราอาจไม่ต่างจากวัตถุทรงกลมที่กลิ้งไปได้ทุกที่ตามแต่ผู้อื่นจะผลักพาไป

เมื่อแรกเกิดมาบนโลก คนเราอาจไม่ต่างจากวัตถุทรงกลมที่กลิ้งไปได้ทุกที่ตามแต่ผู้อื่นจะผลักพาไป

ใครจะอุ้มไปวางที่ไหนก็ทำได้ง่ายไม่ขัดขืน

ที่สำคัญเราต่างมีรูปทรงเหมือนกันหมด

แม้จะมีขนาดใหญ่เล็กต่างกันบ้าง แต่สุดท้ายสิ่งที่ถูกมองเห็นโดยสายตาของผู้อื่นก็ล้วนแต่เป็นทรงกลมคล้ายกันไปหมด

จวบจนกระทั่งโมงยามผ่านไป กาลเวลา และสิ่งแวดล้อม ก็จะเริ่มสลักเสลาวัตถุทรงกลมเหล่านั้นให้เป็นรูปเป็นร่างแตกต่างกันไป

กระทั่งในช่วงอายุสัก 50 ปี ที่ว่ากันว่า เป็นช่วงที่ชีวิตจะตกผลึกอย่างเต็มที่และมีบุคลิกที่เป็นตัวตนอย่างชัดเจน วัตถุทรงกลมที่เคยถูกมองว่าเหมือนกันในสายตาผู้อื่นนั้น ก็จะมีรูปร่างต่างกันอย่างเป็นเอกลักษณ์

ความสันโดษแด่คนหนุ่ม

 

จะมีเหลี่ยมมุม กี่แง่ กี่คม ก็มองเห็นชัดเจนกันที่ตอนนั้น เรียกได้ว่านิสัยใจคอ ลักษณะจิตใจ ความคิดความอ่านเป็นอย่างไรก็ต่อเมื่อถูกกาลเวลาและเส้นทางชีวิต สลักกัดเซาะมาเป็นเวลาครึ่งร้อยปี

เมื่อเติบใหญ่คนเราจึงแตกต่างกันอย่างชัดเจน...

ระหว่างถูกกาลเวลากัดเซาะรูปทรงของชีวิตนั้น หนึ่งในเครื่องมือแกะสลักที่คอยขูด เซาะให้ชีวิตเป็นรูปทรงที่สมดุล ไม่บิดเบี้ยวเกินเหตุจนเอียงไปในทางใดทางหนึ่งก็คือ หนังสือบางเล่มและคำพูดบางคำจากใครบางคน

สำหรับผม หนังสือ “ผู้ชายในทัศนะคนญี่ปุ่น” ผลงานการเขียนของ “ซูซูกิ เคนจิ” ผู้สื่อข่าวทั้งในและต่างประเทศของสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ที่คร่ำหวอดในวงการโทรทัศน์มาค่อนชีวิต คือหนึ่งในนั้น

เคนจิเขียนบทนำในหนังสือของเขาไว้ว่า “คุณใช้ชีวิตวัยหนุ่มอย่างไร จะเป็นตัวกำหนดนิสัยใจคอของคุณชั่วชีวิต แม้วัยหนุ่มจะเป็นวัยที่น่าหาความสุขใส่ตัว แต่จงอย่าลืมว่า วัยหนุ่มก็เป็นช่วงสุดท้ายที่คุณจะตระเตรียมปลูกฝังนิสัยใจคอของตัวเองด้วย คนที่ใช้ชีวิตวัยหนุ่มได้ดีงามและมีจิตใจงามเท่านั้น ที่จะใช้ชีวิตได้อย่างดีงามไปชั่วชีวิต”

หนังสือของเคนจิว่าด้วยการใช้ชีวิตของผู้ชายในทัศนะของคนญี่ปุ่นที่ผ่านยุคแห่งสงครามโลกมาเช่นเขาตั้งแต่ก้าวสู่วัยรุ่น วัยฉกรรจ์ ไปจนถึงวัยที่เป็นผู้ใหญ่เต็มที่

เขาอธิบายสิ่งต่างๆ ที่ประกอบขึ้นมาเป็นชีวิตของผู้ชายหนึ่งคนเอาไว้อย่างน่าสนใจตั้งแต่การใช้ชีวิตในวัยรุ่น การเรียน การเล่น วิธีการทำงาน ความสัมพันธ์กับผู้คน ไปจนถึงเรื่องความรัก การแต่งงาน และการสร้างครอบครัวกับใครสักคน

หนึ่งในบทที่ผมชื่นชอบมากที่สุดก็คือ บทที่ว่าด้วย “ความสันโดษ”

เคนจิอธิบายถึงความสันโดษไว้อย่างน่าสนใจว่า ความสันโดษคืออภิสิทธิ์ของผู้ชาย และหมายถึง การที่ผู้ชายถูกทิ้งให้อยู่ในโลกนี้คนเดียวอย่างเดียวดาย เปรียบได้กับการเที่ยวระเหเร่ร่อนไปทุกหนแห่งอย่างโดดเดี่ยวอย่างไร้จุดหมายปลายทาง ท่ามกลางทะเลทรายอันเปล่าเปลี่ยวเวิ้งว้าง

เขาระบุว่า ความสันโดษเป็นสิ่งเดียวที่ผู้ชายผูกขาดแสวงหาได้ และผู้ชายควรหาความสำราญจากความสันโดษให้เต็มที่ในช่วงวัยหนุ่ม

“หากคุณตั้งปณิธานว่า จะไต่เขาเอเวอเรสต์ หรือพายเรือข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกโดยลำพังคนเดียว คุณจึงจะซาบซึ้งถึงความสำราญอันเกิดจากความสันโดษได้ และมีแต่ความสันโดษเท่านั้นที่จะเข้าถึงดินแดนอันเปี่ยมด้วยอิสรเสรีแห่งการเคลื่อนไหวและการสงบนิ่ง”

เคนจิ ปิดท้ายว่า เมื่อเอ่ยถึงผู้ชายที่ถือสันโดษ บางทีคุณอาจนึกไปถึงผู้ชายที่มีสีหน้าหม่นหมอง แต่ถ้าคุณเปิดชีวประวัติของเหล่าวีรบุรุษอ่าน คุณก็จะทราบได้ว่า นับแต่โบราณมาแล้ว คนที่ถูกเรียกขานเป็นวีรบุรุษ ผู้ยิ่งใหญ่ หรือคนที่สามารถชักจูงใจมวลชนนับหมื่นนับแสนได้ ดูภายนอกแล้วพวกเขาดูเหมือนจะมีความสุขกันมาก แต่พวกเขากลับซ่อนข่มความในใจไว้ได้ลึกมากตลอดเวลา

แม้หนังสือเล่มนี้จะถูกพิมพ์ออกมาตั้งแต่ปี 2533 จวบจนปัจจุบันเวลาก็ผ่านมากว่ายี่สิบปี แต่เนื้อหาหลายๆ บทในหนังสือก็ดูจะไม่ล้าสมัย แถมยังหยิบมาใช้ได้เสมอ

อย่างเรื่องความสันโดษ ผมคิดว่าในยุคที่เทคโนโลยีนำความสะดวกด้านการสื่อสารให้ติดตัวเราไปทุกที่ทุกเวลาเช่นนี้ การที่คนหนุ่มสักคนจะมีช่วงเวลาที่จะได้อยู่อย่างสันโดษกลับกลายเป็นเรื่องหาได้ยาก

ที่สำคัญ มีจำนวนไม่น้อยที่อาจไม่สามารถอยู่ในภาวะสันโดษได้แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ตาม

หลายคนเลือกใช้โทรศัพท์มือถือ หรือไม่ก็คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตขนาดกะทัดรัด เป็นเครื่องมือคลายความเงียบในยามที่ต้องอยู่คนเดียว และนั่นทำให้เราพลาดโอกาสที่จะได้ทดลองอยู่ในภาวะสันโดษอย่างน่าเสียดาย

จริงอยู่ที่การมีเพื่อนฝูงมากมายนั้นน่าจะเป็นเรื่องดีมากกว่าไม่ดี แต่บางครั้งการได้อยู่ลำพัง ถือสันโดษท่ามกลางความเงียบงันนั้น ก็น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราจะสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้หลายเรื่อง

อย่างน้อยในภาวะสันโดษ เราก็มีโอกาสที่จะได้ยินเสียงของตัวเองชัดเจนมากขึ้น มองเห็นความคิดของตัวเองชัดเจนมากขึ้น เป็นช่วงเวลาที่จะได้ไตร่ตรองเรื่องที่ค้างคาใจ หรือไม่ก็เรื่องที่ยังไม่ตกผลึก ให้แจ่มแจ้งมากขึ้น

ขณะที่ชีวิตถูกกาลเวลาและสิ่งแวดล้อมขัดเกลาให้เป็นรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเรานั้น ช่วงเวลาแห่งความสันโดษก็น่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะช่วยให้รูปทรงชีวิตของเราชัดเจนมากยิ่งขึ้น

เมื่อมีโอกาสอย่าลืมที่แสวงหาความสันโดษดูบ้าง เพราะการอยู่ลำพังย่อมหมายถึงช่วงเวลาสำคัญที่จะได้รู้จักตัวเองอย่างเต็มที่

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี