posttoday

กฏหมายปิดทางฆาตกรรมรับมรดก

09 เมษายน 2557

เหตุการณ์ที่เขย่าขวัญ เมื่อลูกชายคนเล็กของครอบครัวจ้างวานมือปืนฆ่าพ่อแม่และพี่ชายของตัวเอง 3 ศพ

โดย...ทีมข่าวในประเทศ

เหตุการณ์ที่เขย่าขวัญ เมื่อลูกชายคนเล็กของครอบครัวจ้างวานมือปืนฆ่าพ่อแม่และพี่ชายของตัวเอง 3 ศพ และอีกเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่พี่ชายคนโตหยิบปืนมายิงพ่อ แม่ และน้องชาย ดับคาบ้านพักย่านปทุมธานี

น่าสนใจว่านอกจากความเหี้ยมที่กล้าฆ่าถึงบุพการีและคนในครอบครัว ทั้งสองผู้ต้องหามีจุดประสงค์เดียวกัน คือ หวังฮุบสมบัติของครอบครัว

ด้วยความคิดว่าหากคนในครอบครัวตายไปหมด มรดกจะมาตกกับผู้ที่สืบสายเลือด แม้เขาผู้นั้นจะเป็นฆาตกรหรือไม่ก็ตาม ทั้งสองคนอาจจะคิดเช่นนี้ แต่เมื่อมาดูที่ข้อตัวบทกฎหมายแล้วกลับไม่ใช่เช่นนั้น

ด้วยความผิดอาญามาตรา 289 (1) ระบุชัดแจ้งว่า ผู้ใดฆ่าบุพการีต้องระวางโทษสูงสุด คือ ประหารชีวิต และทรัพย์สมบัติที่ต้องการหวังฮุบไว้มาครอบครองแต่เพียงผู้เดียว แม้คิดว่าเมื่อรับโทษจำคุกแล้วออกมาจะได้ทรัพย์สินถือว่าผิดถนัด เพราะจะถูกกำจัดออกจากกองมรดกทรัพย์สินของบุพการีทันที

เดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายสภาทนายความขยายความว่า หากบุตรไปกระทำร้ายต่อพ่อแม่ที่เป็นบุพการีและมีการดำเนินคดีจนรู้แจ้งว่าผิดจริง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1606 จะถือให้เป็นผู้ที่ต้องถูกกำจัดมิให้รับมรดก ฐานเป็นผู้ที่ไม่สมควร หากจำแนกให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นกับบุคคลที่ไม่สมควรได้รับมรดก คือ 1.ผู้ที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าได้เจตนากระทำหรือ พยายามกระทำให้เจ้ามรดก หรือผู้มีสิทธิได้รับมรดกก่อนตนถึงแก่ความตาย โดยมิชอบด้วยกฎหมาย 2.ผู้ที่ได้ฟ้องเจ้ามรดก หาว่าทำความผิดโทษประหารชีวิตและตนเองกลับต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีความผิดฐานฟ้องเท็จ หรือ ทำพยานเท็จ 3.ผู้ที่รู้แล้วว่าเจ้ามรดกถูกฆ่าโดยเจตนา แต่มิได้นำข้อความนั้น ขึ้นร้องเรียน เพื่อเป็นทางที่จะเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่ข้อนี้มิให้ใช้บังคับ ถ้าบุคคลนั้นมีอายุยังไม่ครบ 16 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นคนวิกลจริต ไม่สามารถรู้ผิดชอบ หรือถ้าผู้ที่ฆ่านั้นเป็นสามี ภริยา หรือผู้บุพการี หรือผู้สืบสันดานของตนโดยตรง

4.ผู้ที่ฉ้อฉลหรือข่มขู่ให้เจ้ามรดกทำ หรือเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมแต่บางส่วนหรือทั้งหมด ซึ่งเกี่ยวกับทรัพย์มรดกหรือไม่ให้กระทำการดังกล่าวนั้น 5.ผู้ที่ปลอม ทำลาย หรือปิดบังพินัยกรรมแต่บางส่วนหรือทั้งหมดเจ้ามรดกอาจถอนข้อกำจัดฐานเป็นผู้ไม่สมควรเสียก็ได้ โดยให้อภัยไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

เดชอุดม อธิบายอีกว่า ดังนั้น เมื่อทายาทคนสุดท้องที่ถือเป็นผู้สืบสันดานตามภาษาของกฎหมายถูกกำจัดออกไป ในสิทธิของการรับมรดกในลำดับที่ 1 ลำดับถัดมาที่จะได้รับมอบมรดก คือ 2.บิดามารดา 3.พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 4.พี่น้องร่วมบิดา หรือร่วมมารดาเดียวกัน 5.ปู่ย่า ตายาย และ 6.ลุง ป้า น้า อา

หากเป็นเช่นนั้นแล้ว เมื่อทายาทที่ฆ่าบุพการีไม่มีสิทธิในมรดก ซ้ำคดีล่าสุดที่เกิดขึ้นทายาทคนสุดท้ายกระทำการลงมือเองด้วยแล้ว มรดกจะไปตกอยู่กับใคร

เดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความแห่งประเทศไทย ไขแจ้งถึงข้อสงสัยว่า ในความเห็นถึงคดีล่าสุดที่เกิดขึ้น คือ พ่อ แม่ และพี่ชาย ถูกน้องชายคนเล็กจ้างวานฆ่าเสียชีวิตนั้น คือ พ.อ.วิชัย หอมชง นางวนิดา หอมชง มารดา และ ร.ต.ท.ธรรมนัฐ หอมชง ทรัพย์สินมรดกตามข่าวที่ปรากฏคือที่ดินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และมีเงินในธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง ก็จะไม่มีทายาทรับเพราะถูกกำจัดออกไป ทรัพย์สินก็จะแบ่งไปยังพ่อแม่ของ พ.อ.วิชัย และนางวนิดาในอัตราเท่ากัน เพราะถือเป็นสินสมรสร่วมกันมา หากไม่มีพ่อแม่รับก็ต้องไปสู่ผู้รับมอบมรดกลำดับถัดไปคือพี่น้องร่วมบิดามารดา

“ที่ผ่านมาการฆ่าเพื่อหวังฮุบสมบัติเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แต่หากพบว่าไปกระทำความผิดจริง มีการพิสูจน์ทราบ ศาลก็มักจะตัดสินให้กำจัดออกจากกองมรดก เรียกว่าหมดสิทธิทันทีในทรัพย์สินนั้นๆ อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีที่มีการแบ่งทรัพย์สมบัติบางส่วนไปแล้วนั้น แต่ทายาทกลับคิดร้าย ทำร้าย หรือฆาตกรรมบุพการี ผู้จัดการกองมรดกสามารถบังคับใช้กฎหมายเรียกทรัพย์สินนั้นกลับคืนมาได้” เดชอุดม อธิบาย

ขณะที่ นิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ ให้ความเห็นในกรณีที่ไม่มีใครรับมรดกนั้น ทั้งญาติพี่น้องหรือบุคคลตามลำดับที่ต้องรับทรัพย์สินไม่มี มรดกจะไปอยู่ที่ไหน โดยระบุว่า

หากเป็นกรณีที่ไม่มีทายาทเลยจริงๆ ตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 1753 ระบุว่า เมื่อบุคคลใดถึงแก่ความตายโดยไม่มีทายาทหรือผู้รับพินัยกรรม มรดกของบุคคลนั้นตกทอดให้เป็นของแผ่นดิน อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของทางฝ่ายญาติที่จะต้องพิสูจน์ว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมเอาไว้หรือไม่ และทายาทลำดับใดที่จะได้รับมรดกดังกล่าว โดยจะต้องยื่นเรื่องต่อศาลแพ่งเพื่อให้ศาลมีคำสั่งต่อไป”

นิวัติ อธิบายอีกกรณีด้วยว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 1603 ระบุว่า กองมรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทโดยสิทธิตามกฎหมายหรือโดยพินัยกรรม ซึ่งหมายความว่านอกจากมรดกจะตกแก่ทายาทแล้ว หากเจ้าของมรดกทำพินัยกรรมเอาไว้และยกมรดกให้บุคคลใดก็ตาม บุคคลนั้นก็ย่อมมีสิทธิได้รับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมด้วย

ข่าวล่าสุด

ตำรวจไซเบอร์-ทหาร ถกเข้มชายแดนสระแก้ว เตรียมรับคนไทยจากกัมพูชากลับบ้าน!