posttoday

ย้อน(อดีต)เพื่อนรักต่างพรรค"ทักษิณ-สุเทพ"

25 มีนาคม 2557

ความสนิทสนมของทักษิณ-สุเทพนั้น ถึงขั้นที่ทักษิณเกือบตัดสินใจเข้าพรรคประชาธิปัตย์ตามรอยสุเทพเสียด้วยซ้ำ!

โดย...ทีมข่าวการเมือง

หากใครติดตามการเมืองไทยอย่างใกล้ชิด จะรู้ดีว่าคำขวัญหนึ่งที่นักการเมืองไทยยึดถือคือ “ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร” ภาพประจำของคนที่อยู่ประจำใต้ถุนอาคารรัฐสภาคือ หลังจากการอภิปรายอย่างดุเดือดแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายก็ต่างลงมานั่งกินกาแฟอย่างชื่นมื่น

หลายคนอาจไม่รู้ว่า ตำนาน “เพื่อนรักต่างพรรค” ที่เข้มแข็งที่สุดคู่หนึ่งนั้น คนหนึ่งมีชื่อว่า “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการกปปส. ส่วนอีกคนหนึ่งชื่อว่า “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี

ย้อนกลับไป เมื่อ 10 ปีที่แล้ว คงไม่มีใครเชื่อว่า วันหนึ่ง เพื่อนที่ชื่อ สุเทพ จะเป็นผู้นำในการขับไล่น้องสาวของ ทักษิณ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และกวาดล้างระบอบทักษิณ อย่างขุดรากถอนโคนขนาดนี้

15 เม.ย.2547 หลังกำนันจรัส เทือกสุบรรณ บิดาของสุเทพ และกำนันที่อายุมากที่สุดในประเทศไทยเสียชีวิต ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยวัย 83 ปี ทักษิณ ซึ่งมีสถานะเป็นนายกรัฐมนตรีขณะนั้น อยู่ในระหว่างตรวจราชการที่ จ.ปัตตานี ได้เลื่อนกำหนดกลับกรุงเทพฯ เพื่อเดินทางมาเคารพศพกำนันจรัสทันที โดยมีสุเทพ ซึ่งขณะนั้นมีตำแหน่งเป็น สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย และเป็นผู้มากบารมีของ จ.สุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ร่วมกับ นิภา พริ้งศุลกะ และ ชุมพล กาญจนะ เพื่อนสส.ประชาธิปัตย์ สุราษฎร์ธานี

วันนั้น “ทักษิณ” ได้ช่วยเงินสดใส่ซองช่วยงานจำนวน 9.5 หมื่นบาท รวมถึงหนีบ บิ๊กเหวียง พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร รมว.กลาโหม นั่งรับประทานอาหารเย็นร่วมกับสุเทพ อย่างชื่นมื่น…

ไม่เพียงเท่านั้น สุเทพยังได้ห่อแกงไตปลา และหมูหวานสามรส ซึ่งเป็นกับข้าวในวันนั้น นำไปฝาก “คุณหญิงพจมาน ชินวัตร” ภรรยาของทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้า อีกด้วย

หลังรับประทานอาหารร่วมกับ ทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “โดยส่วนตัวมีความคุ้นเคยกับนายสุเทพ ให้ความเคารพรักซึ่งกันและกัน เพราะตอนที่เป็น รมว.ต่างประเทศ ท่านสุเทพเป็น รมช.เกษตรฯ ที่นั่งประชุมอยู่ติดกัน แต่โดยหน้าที่การเมืองต่างคนต่างก็ทำหน้าที่กันไป”

คำพูดที่ทักษิณอ้างถึงสุเทพนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2537 เมื่อวันที่ ทักษิณ ยังสังกัดพรรคพลังธรรม ขณะที่สุเทพเป็นรมช.เกษตร แต่ทั้งคู่ก็รับตำแหน่งในเวลาไม่นานนัก เนื่องจากสุเทพ ลาออกจากตำแหน่งจากปัญหา สปก.4-01 และทักษิณต้องลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากความขัดแย้งภายในพรรคพลังธรรม

ความสนิทสนมของทักษิณ-สุเทพนั้น ถึงขั้นที่ทักษิณเกือบตัดสินใจเข้าพรรคประชาธิปัตย์ตามรอยสุเทพเสียด้วยซ้ำ!

ขณะที่หลังรับประทานอาหารร่วมกันเสร็จ สุเทพได้ปฏิเสธเรื่องทักษิณชวนให้ย้ายไปพรรคไทยรักไทย โดยระบุว่าเป็นเรื่องของคนที่รู้จักและให้ความเคารพในทางการเมืองเท่านั้น โดยสุเทพยังได้กล่าวชื่นชมทักษิณว่า อาจเป็นคนที่รู้เรื่องบิดาของตัวเองดีมากที่สุด

“ผมได้ให้กำลังใจนายกฯ เกี่ยวกับการแก้ปัญหาภาคใต้ คิดว่าท่านเริ่มจับประเด็นได้ถูกต้องว่าเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่อง เล็ก ๆ ที่สามารถแก้ไขได้ในระยะสั้น ๆ คิดว่าท่านเริ่มเดินมาถูกทางแล้ว”สุเทพให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังจากกินข้าวกับทักษิณเสร็จ

ทว่า หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ก็ดูจะเป็นเส้นขนานกันมากขึ้น เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจบอยคอตเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย. 2549

หลังจากรัฐบาล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สิ้นสุดลงเพราะศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน ก็เป็นสุเทพที่เป็น “ดีลเมคเกอร”ชวนเนวิน ชิดชอบ และสส.อีกจำนวนหนึ่ง ผละออกจากอ้อมแขนของทักษิณ มาร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2552 นั้น สุเทพที่สวมหมวกของรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ถึงกับให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าทักษิณอยากเป็นประธานาธิบดี และยังย้ำกลางสภาอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 5 ก.พ.ด้วย จนทำให้ ทักษิณ ตัดสินใจฟ้องหมิ่นประมาทสุเทพในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ศาลได้ตัดสินยกฟ้องเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา 2 ปีก่อนหน้าที่สุเทพจะตัดสินใจลงสู่สนามการเมืองบนท้องถนน เพื่อเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันต่อสู้กับระบอบทักษิณ

น่าสนใจว่า หากทั้งสองได้เจอหน้ากันอีกครั้ง จะยังพูดถึงวันที่นั่งติดกันขณะประชุมครม. หรือแกงไตปลา และหมูหวานสามรส อีกหรือไม่!

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมบอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด ผลบอลสด วันอังคารที่ 23 ธ.ค. 68