จับตำรวจเก๊ชิงทรัพย์แบงก์กสิกร
ผบช.น. แถลงจับตำรวจกำมะลอชักปืนชิงทรัพย์แบงก์กสิกรไทย สาขากัลปพฤกษ์ กว่า 4 แสนบาท อ้างหาเงินใช้หนี้
ผบช.น. แถลงจับตำรวจกำมะลอชักปืนชิงทรัพย์แบงก์กสิกรไทย สาขากัลปพฤกษ์ กว่า 4 แสนบาท อ้างหาเงินใช้หนี้
เวลา 11.00 น. วันที่ 26 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พ.ต.อ.นำชัย โชติประยูร รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.อ.พัฒนา ปรีดานันท์ ผกก.สส.บก.น.9 และ พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน ร่วมกันแถลงจับกุม นายทินกร หรือคม ทองอันตัง อายุ 34 ปี ชาว จ.สกลนคร ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนกัลปพฤกษ์ ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.149/2557 ลงวันที่ 26 ม.ค.ข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธฯ พร้อมของกลางเงินสด 406,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น เครื่องเล่นดีวีดี 1 เครื่อง รถ จยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ ทะเบียน กธร 167 กรุงเทพมหานคร หมวกสายตรวจตราโล่ 1 ใบ เสื้อคลุมสีดำปักด้านหลัง police 1 ตัว ถุงมือ 1 คู่ โดยจับกุมได้หน้าร้านหมูกระทะ ใกล้สวนอาหารคำหยาด แขวงและเขตบางแค กทม.
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 25 ก.พ.เกิดเหตุคนร้ายสวมเครื่องแบบคล้ายตำรวจในชุดครึ่งท่อน ใส่หมวกสายตรวจสีทองและใช้ผ้าปิดจมูกอำพรางใบหน้า บุกเดี่ยวทำทีเข้าไปขอแลกเงินแบงก์ย่อยกับพนักงานประจำเคาน์เตอร์ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนกัลปพฤกษ์ในเวลาใกล้ปิดทำการ ก่อนชักปืนจี้ชิงทรัพย์ข่มขู่ให้พนักงานกวาดเงินสดใส่ถุงพลาสติกกว่า 5 แสนบาท แล้วขับรถ จยย.หลบหนีไปโดยใช้เวลาลงมือแค่ 15 วินาที โดยตำรวจท้องที่ สน.บางขุนเทียน และ กก.สส.บก.น.9 ช่วยกันแกะรอยจากกล้องวงจรปิดทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายทินกร อาชีพขับรถ จยย.รับจ้างในพื้นที่ จึงช่วยกันนำกำลังติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้พร้อมเงินสดของกลางคืนเกือบทั้งหมด โดยผู้ต้องหาได้แบ่งเงินบางส่วนไปใช้จ่ายแล้ว อย่างไรก็ตามถือเป็นโชคดีที่ตำรวจตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้แบบทันควัน จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้บริหารธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารกสิกรไทย ให้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมกว่านี้ อย่าคิดว่ามีประกันแล้วเกิดเหตุจะไม่เสียหาย เนื่องจากคดีชิงทรัพย์ธนาคารเป็นคดีที่สื่อมวลชนให้ความสนใจและที่ผ่านมาตำรวจต้องใช้ความพยายามติดตามตัวคนร้ายอย่างยากเย็น
จากการสอบสวน นายทินกร ยอมรับสารภาพว่า นอกจากอาชีพขับรถ จยย.รับจ้างแล้วตนยังเป็นอาสาสมัครจราจรของ สน.ท่าพระ ปัจจุบันพักอยู่ในห้องเช่าย่านถนนบางบอน 1 ก่อนเกิดเหตุตนค้างค่างวดรถ จยย.มานาน 1 เดือน ยอดเงินประมาณ 3,000 บาท ประกอบกับเป็นหนี้เงินกู้รายวันอีกประมาณ 3,000 บาทไม่มีทางออก จึงตัดสินใจไปซื้อหมวกสายตรวจ เสื้อคลุมตำรวจ และรองเท้าหนังแก้วที่ด้านหลังกระทรวงมหาดไทย และวางแผนเข้าไปชิงทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนกัลปพฤกษ์ช่วงใกล้ปิดทำการเพื่อหาเงินไปใช้หนี้เพราะรู้ดีว่าที่สาขานี้ไม่มี รปภ.โดยเอาอาวุธปืนปลอมของเด็กเล่นเข้าไปข่มขู่พนักงานด้วย พอได้เงินมาก็ขับรถ จยย.หลบหนีนำปืนปลอมและเสื้อผ้าที่สวมใส่ไปทิ้งน้ำคลองหนองใหญ่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ก่อนจะแบ่งเงินไปซื้อสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท และดีวีดีอีก 1 เครื่อง ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค และย้อนกลับมาที่ห้องพักกระทั่งถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมโดยแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นตำรวจ และมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนายทะเบียนท้องที่ พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนของกลางอาวุธปืนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นของเด็กเล่นนั้นพนักงานสอบสวนจะประสานนักประดาน้ำไปงมหาที่คลองหนองใหญ่ ถนนบางบอน 1 เพื่อพิสูจน์ทราบตามคำให้การต่อไป


