posttoday

เจ้าจอมมารดาเที่ยง ในรัชกาลที่ 4 (2)

02 กุมภาพันธ์ 2557

เมื่อพระองค์เจ้าหญิงโสมาวดีเชิญพระกระแสออกมาทูลกรมหลวงวงศาฯ

“เมื่อพระองค์เจ้าหญิงโสมาวดีเชิญพระกระแสออกมาทูลกรมหลวงวงศาฯ และเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ ท่านทั้งสองนั้นจึงเชิญสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนบำราบปรปักษ์มาปรึกษาอีกพระองค์หนึ่ง แล้วสั่งให้เข้าไปกราบบังคมทูลฯ ว่าได้ปรึกษาเห็นพร้อมกันว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอฯ สมควรจะรับราชสมบัติสืบสนองพระองค์ราชการบ้านเมืองจึงจะเรียบร้อยเป็นปกติ ข้อซึ่งทรงพระปริวิตกว่ายังทรงพระเยาว์นั้น สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนบำราบปรปักษ์ รับจะสนองพระเดชพระคุณช่วยดูแลประคับประคองในส่วนพระองค์มิให้เสื่อมเสียได้ เมื่อพระองค์เจ้าหญิงโสมาวดีนำความเข้าไปกราบบังคมทูลฯ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระปริวิตกอีกว่า พระองค์เจ้าหญิงโสมาวดีจะเชิญกระแสรับสั่งออกไปแจ้งไม่ถูกถ้วนตามพระราชประสงค์...”

...ครั้นรุ่งขึ้น ณ วันพุธ เดือน 11 ขึ้น 7 ค่ำ จึงดำรัสสั่งให้พระศรีสุนทรโวหาร เขียนกระแสรับสั่งพระราชทานให้พระองค์เจ้าหญิงโสมาวดีเชิญออกมายังที่ประชุมพระราชวงศ์และเสนาบดี ว่าผู้ซึ่งจะครองราชสมบัติสืบพระบรมราชวงศ์ต่อไปนั้น ให้ท่านผู้หลักผู้ใหญ่ปรึกษาหารือกันแล้วแต่จะเห็นว่าเจ้านายพระองค์ใด จะเป็นพระเจ้าน้องยาเธอก็ดี พระเจ้าลูกยาเธอก็ดี พระเจ้าหลานเธอก็ดี สมควรจะเป็นผู้ใหญ่ เมื่อพร้อมกันเห็นว่าจะเป็นพระองค์ใดจะปกครองรักษาแผ่นดินได้ ก็ให้ถวายราชสมบัติแก่พระองค์นั้นสืบสนองพระองค์ต่อไปกระแสรับสั่ง ซึ่งโปรดฯ ให้เขียนออกไปอ่านในที่ประชุมเสนาบดีนี้ ไม่ปรากฏว่าคำที่ประชุมตอบประการใด

ในระหว่างนั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระปริวิตกถึงสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอฯ ยิ่งขึ้น ด้วยเมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอฯ ประชวรพระอาการมากอยู่นั้น ไม่ได้กราบบังคมทูลฯ ให้ทรงทราบ เพราะเกรงกันว่าถ้าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบ ก็จะทรงพระปริวิตกวุ่นวาย พระอาการจะทรุดหนักไปจึงปิดความเสีย ครั้น ณ วันพุธ เดือน 11 ขึ้น 14 ค่ำ จึงโปรดฯ ให้พระองค์เจ้าหญิงโสมาวดีถวายปฏิญาณก่อนแล้ว จึงดำรัสถามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอฯ กรมขุนพินิตประชานาถ ซึ่งรับสั่งเรียกว่า “พ่อใหญ่” นั้น สิ้นพระชนม์เสียแล้วหรือยังมีพระชนม์อยู่ ขอให้กราบทูลแต่โดยสัตย์จริงถ้าสิ้นประชนม์เสียแล้วก็จะได้หมดห่วง พระองค์เจ้าหญิงโสมาวดีกราบบังคมทูลฯ ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอฯ นั้นเดิมประชวรไข้ ครั้นไข้ค่อยคลายเกิดพระยอดมีพิษที่พระศอพระอาการมากอยู่คราวหนึ่ง แต่เดี๋ยวนี้ค่อยคลายขึ้นแล้วเป็นความสัตย์จริงดังนี้

เมื่อได้ฟังคำเป็นสัตย์จากพระองค์เจ้าหญิงโสมาวดีดังนั้นแล้ว

“...มีพระดำรัสว่า ถ้าเช่นนั้นให้ไปทูลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯ ว่า ถ้าพระอาการค่อยคลายพอจะมาเฝ้าได้ ให้เสด็จมาเสียก่อนวันขึ้น 15 ค่ำ ถ้ารอไปจนถึงแรมค่ำ 1 ก็จะได้แต่สรงพระบรมศพไม่ทันสั่งเสียอันใด พระองค์เจ้าหญิงโสมาวดีเชิญพระกระแสออกมาทูลกรมหลวงวงศาฯ และเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ ท่านทั้งสองปรึกษาเห็นกันว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอฯ พละกำลังยังอ่อนนัก ถ้าเชิญเสด็จเข้าไปเฝ้าในเวลานั้นคงจะทรงพระโศกาดูรแรงกล้าน่ากลัวพระโรคจะกลับกำเริบขึ้น เห็นควรจะระวังรักษาอย่าให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอฯ มีภัยอันตรายจะดีกว่า จึงพร้อมกันห้ามเสียไม่ให้ไปทูลให้ทราบพระราชประสงค์และให้กราบทูลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่พระกำลังยังน้อยนักเสนาบดีปรึกษากันเห็นว่ายังจะเชิญเสด็จมาเฝ้าไม่ได้...”

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าโสมาวดีทรงเป็นอธิบดีบังคับบัญชาการรักษาพระราชวังฝ่ายใน และทรงดูแลกรมโขลน อีกทั้งยังทรงรับเลี้ยง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ดูแลรักษากุญแจพระบรมมหาราชวังชั้นในมาตลอดรัชกาล

ในจดหมายเหตุรายวันของสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ได้กล่าวถึงพระองค์เจ้าโสมาวดีในฐานะพระอภิบาล เมื่อคราวที่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญทิวงคต เมื่อปี 2428 ความว่า

“วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม ปี 2428 เราตื่นนอนเช้าลงมากินข้าว ป้าโสมบอกเราว่าวังหน้าสิ้นพระชนม์เสียแล้วแต่เมื่อคืนนี้ ป้าโสมจะลาเราไปสรงน้ำ บ่ายเราไปเรียนหนังสือ ทูลหม่อมบนเสด็จไปสรงน้ำพระศพวังหน้า พระยาศรีสุนทรไม่อยู่ ไปตามเสด็จด้วย เราไม่ได้อ่าน ต้องกลับมาเรือนฟ้าป้าโสมเล่าถึงวังหน้า ว่าเจ้านายน้องๆ ไม่ได้โกนหัว โกนแต่ลูกๆ ลูกมีทั้งใหญ่ทั้งเล็ก รวม 21...ทิวงคตเวลาห้าทุ่มครึ่ง...”

ในพระราชพิธีฉัตรมงคล ปี 2446 ซึ่งเป็นวาระที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวดำรงสิริราชครบสองเท่าของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์มีพระราชดำริที่จะยกย่องพระราชธิดาพระองค์ใดพระองค์หนึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขึ้นเป็นเจ้าต่างกรมเพื่อเป็นการระลึกถึงพระเดชพระคุณ จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนา พระเจ้าพี่นางเจ้าเธอ พระองค์เจ้าโสมาวดี ศรีรัตนราชธิดา ขึ้นเป็นพระเจ้าต่างกรมฝ่ายใน มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าพี่นางเธอ กรมหลวงสมร รัตนสิริเชษฐ ในปีนั้นเอง

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสมรรัตนสิริเชษฐ์ สิ้นพระชนม์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันอังคาร เดือน 6 แรม 4 ค่ำ ปีมะแม ตรีศก จุลศักราช 1293 ตรงกับวันที่ 4 พ.ค. ปี 2474 พระชนมายุ 80 ปี

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา