อลังการ 'โขนรามเกียรติ์'
...ธเนศน์ นุ่นมัน
ค่ำคืนของงานเฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคลครบ 60 ปี แห่งพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 พ.ค. ผ่านพ้นไป พร้อมกับกิจกรรมที่ตื่นตาตื่นใจ นำมาซึ่งความปลื้มปีติของประชาชนที่มาร่วมงานอย่างมืดฟ้ามัวดิน หนึ่งในการแสดงที่ตรึงความประทับใจ คือ การแสดงโขน เรื่อง
“รามเกียรติ์” บนเวทีใหญ่ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากรอชมการแสดงชุดนี้เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ค.การุณ สุทธิภูล ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ระบุว่า การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่แสดงไปแล้วนั้น ถือเป็นสุดยอดของชุดการแสดงโขน เป็นชุดการแสดงที่เลือกถ่ายทอดช่วงการยกทัพเข้าต่อสู้กันระหว่างทัพของพระรามและทศกัณฐ์
“
จากบทเดิมราชรถของสองฝ่าย ซึ่งยกทัพมาประจันหน้ากัน เป็นฉากที่ต้องมีอุปกรณ์ประกอบฉากที่อลังการเต็มเวที แต่ปัญหาการแสดงในครั้งนี้เราไม่สามารถขนขบวนราชรถขึ้นไปแสดงบนเวทีได้ความยิ่งใหญ่ของการแสดงชุดดังกล่าว จึงถูกลดทอนลงไปบ้างอย่างน่าเสียดาย แต่จำนวนตัวแสดงก็ยังครบถ้วน การแสดงโขนนั้นไม่ว่าบทไหนก็ต้องพร้อมในการแสดง เพราะผ่านการซ้อมมาโดยตลอด การที่นักแสดงในทุกๆ บทบาทมีประสบการณ์สูง จะทำให้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ เช่น แม้ขนาดของเวทีแสดงแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน ความสามารถในการแสดงก็ยังช่วยตรึงคนดู เติมเต็มความสมบูรณ์ของการแสดงได้
” การุณ เล่า ก่อนจะบอกอีกว่า การแสดงชุดนี้ต้องเปลี่ยนชื่อจาก “ยกรบ” เป็น “ปราบมารร้ายฝ่ายลงกา” โดยเลี่ยงที่จะไม่ใช้ชื่อตอนที่เคยใช้อย่างชื่อยกรบ หรือ “พระรามรบทศกัณฐ์” เพื่อลดทอนความหมายแฝงท่ามกลางอุณหภูมิความขัดแย้งทางด้านการเมืองที่ดำรงอยู่ในขณะนี้แม้จะมีการเปลี่ยนชื่อ แต่เนื้อเรื่องก็ยังคงเดิม ซึ่งมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการทำสงครามระหว่างพระราม พระลักษมณ์ และพลวานรกับฝ่ายทศกัณฐ์ ซึ่งการรบของทั้งสองฝ่ายเต็มไปด้วยชั้นเชิงของลีลาท่าร่ายรำที่สวยงามในการแสดงโขน พระรามสามารถรับตัวนางสีดากลับกรุงอโยธยาครองเมืองต่อไป ไม่มีโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนไหนงดงามอลังการยิ่งกว่าตอนยกรบ ขณะที่บทสรุปของเนื้อหาก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า ธรรมะจะชนะอธรรมในตอนจบ และจะเป็นเช่นนั้นชั่วนิรันดร์
”หลายคนอาจพลาดการแสดงชุดดังกล่าว แต่ยังมีการแสดงโขนอีกชุดหนึ่ง ตอน
“พระบรมราชาภิเษกรามราชจักรี” โดยนักเรียนจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ชุด “พระรามครองเมือง” ในวันที่ 9 พ.ค. เวลา 18.4519.45 น. ซึ่งโขนชุดนี้จะเป็นการแสดงเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเชื่อกันว่าพระมหากษัตริย์เป็นสมมติเทพ หรือพระนารายณ์ อวตารลงมาปราบความชั่วร้ายให้โลกอยู่เย็นเป็นสุข โดยได้ดัดแปลงบทให้มีเนื้อหาเข้ากับโอกาสมหามงคลครบ 60 ปี แห่งพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างสมพระเกียรติ

