posttoday

ยกเลิกเก็บค่าสัมปทานเพิ่มจำนวนแท็กซี่สนามบินภูเก็ต

06 พฤษภาคม 2553

ทอท.ยอมให้ลีมูซีนสนามบินภูเก็ตเพิ่มทั้งส่วนของบริษัท และสหกรณ์ฝ่าย ละ 30 คัน โดยไม่เก็บค่าสัมปทานเพิ่ม

ทอท.ยอมให้ลีมูซีนสนามบินภูเก็ตเพิ่มทั้งส่วนของบริษัท และสหกรณ์ฝ่าย ละ 30 คัน โดยไม่เก็บค่าสัมปทานเพิ่ม

นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการคมนามคม ได้ร่วมกับนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม  นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) และนายวิชัย ไพรสงบ ผวจ.ภูเก็ต ประชุมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะและรถลีมูซีนในท่าอากาศยานภูเก็ต  ผลจากการหารือได้ข้อสรุปว่า ทอท. ยินยอมให้ทั้งสองฝ่ายเพิ่มรถ โดยบริษัท ภูเก็ต ไม้ขาว สาคู จำกัด เพิ่มรถยนต์เก๋งจำนวน 30 คัน ส่วนของสหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจภูเก็ต จำกัด เพิ่มรถยนต์ตู้ จำนวน 30 คัน โดยจะไม่มีการเรียกเก็บค่าสัมปทานเพิ่มจนกว่าจะหมดสัมปทาน หลังจากนั้นจึงมาวางกรอบข้อตกลง ในเงื่อนไขสัมปทานใหม่ในประมาณปี 2555

นายเกชา กล่าวภายหลังการประชุม ว่า การประชุมร่วมกันครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาของรถซึ่งได้รับสัมปทานจากท่าอากาศยานไทยในการให้บริการผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานภูเก็ต จากกรณีที่สหกรณ์ บริการรถยนต์บริการธุรกิจภูเก็ต จำกัด ไม่เห็นด้วยกับการที่ทางบริษัท ภูเก็ต ไม้ขาวสาคู จำกัด ขอเพิ่มรถยนต์ให้บริการอีก 30 คัน เนื่องจากมองว่ารถที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบันมีเพียงพออยู่แล้ว และได้ให้มีการศึกษาความเพียงพอของรถที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน

ขณะที่นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) กล่าวว่า ทาง เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทอท.ได้เสนอทางออกในปัญหาที่เกิดขึ้น โดยยินยอมให้ทั้ง 2 ฝ่ายเพิ่มรถฝ่ายละ 30 คัน ซึ่งส่วนของบริษัทภูเก็ต ไม้ขาว สาคู จำกัด เพิ่มรถยนต์เก๋ง 30 คัน ในขณะที่สหกรณ์ฯ เพิ่มรถยนต์ตู้ 30 คัน และจะไม่เก็บค่าสัมปทานในส่วนที่เพิ่มขึ้นใหม่จนกว่าจะหมดสัมปทาน

ทั้งนี้ บริษัทภูเก็ตไม้ขาวฯ จะหมดสัมปทานในเดือนมกราคม 2554 และจะมีการขยายให้เท่ากับสหกรณ์ฯ ซึ่งจะหมดสัมปทานในเดือนกันยายน 2555 หลังจากนั้นก็จะได้มีการมากำหนดกรอบกติกาในการบริหารกันใหม่ แต่คงจะไม่ใช่รูปแบบเดียวกับสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากมีลักษณะที่แตกต่างกัน แต่อาจจะนำมาปรับใช้ให้เหมาะสม ซึ่งต้องมาพิจารณากันอีกครั้งในช่วง 6 เดือนก่อนที่จะหมดระยะเวลาของสัมปทาน

ด้านนายชูเกียรติ ปัญญาไวย์ รองประธาน สหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจภูเก็ต จำกัด หรือ รถลีมูซีนสนามบินภูเก็ต กล่าวว่า ข้อเสนอที่ทางทอท.เสนอมานั้น ก็ยอมรับได้ในระดับหนึ่ง โดยปัจจุบันในส่วนของสหกรณ์ฯ มีรถยนต์เก๋งให้บริการอยู่ 150 คัน โดยจ่ายค่าสัมปทานให้กับการท่าฯ เดือนละประมาณ 1.1 ล้านบาท ซึ่งการได้เพิ่มรถยนต์ตู้เข้ามาอีก 30 คัน โดยไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทานเพิ่ม ก็จะทำให้สามารถเฉลี่ยค่าใช้จ่ายของสมาชิกฯ ที่ต้องนำมาจ่ายค่าสัมปทานให้กับการท่าฯ ลดน้อยลง หลังจากนี้ก็จะได้นำไปแจ้งให้กับสมาชิกฯ ทราบเพื่อนำรถมาให้บริการ

ขณะที่นายแสน เจริญจิตร์ ประธานกรรมการบริษัท ภูเก็ต ไม้ขาวสาคู จำกัด กล่าวว่า มีรถให้บริการอยู่ 80 คัน เป็นรถยนต์เก๋ง 20 คัน และรถยนต์ตู้ 60 คัน โดยจ่ายค่าสัมปทานให้กับทางการท่าฯ เดือนละ 1,004,000 บาท เหตุที่ขอเพิ่มรถยนต์เก๋งอีก 30 คัน นั้นก็เพื่อให้เพียงพอรองรับผู้ใช้บริการ และนำรายได้ส่วนหนึ่งมาช่วยรถยนต์ตู้โดยเฉพาะในช่วงหน้าโลว์ซึ่งมีผู้บริการน้อยมาก กับข้อเสนอที่ทางคณะกรรมาธิการฯ ให้นั้น แม้ว่าจะยังไม่เป็นธรรมมากนัก แต่ก็รับได้ระดับหนึ่ง และคงต้องมาว่ากันใหม่อีกครั้งในการเปิดสัมทานใหม่

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี