posttoday

อย่าตกเป็นเหยื่อวาทกรรมการเมือง

26 ธันวาคม 2556

เวลานี้ มี “วาทกรรมการเมือง” จากฝรั่งและคนไทยทั้งที่ถามอย่างบริสุทธิ์ใจ และประเภทที่รับจ๊อบมาถาม เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลและทำลายความน่าเชื่อถือของมวลมหาประชาชน ดังนั้น ประชาชนต้องทำความเข้าใจและไม่ตกเป็นเหยื่อของวาทกรรมดังกล่าวที่ฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลได้จัดทำขึ้นและพยายามสร้างกระแสทั้งในและนอกประเทศเพื่อกดดันประชาชนฝ่ายต่อต้าน วาทกรรมเหล่านี้ มีอาทิ

เวลานี้ มี “วาทกรรมการเมือง” จากฝรั่งและคนไทยทั้งที่ถามอย่างบริสุทธิ์ใจ และประเภทที่รับจ๊อบมาถาม เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลและทำลายความน่าเชื่อถือของมวลมหาประชาชน ดังนั้น ประชาชนต้องทำความเข้าใจและไม่ตกเป็นเหยื่อของวาทกรรมดังกล่าวที่ฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลได้จัดทำขึ้นและพยายามสร้างกระแสทั้งในและนอกประเทศเพื่อกดดันประชาชนฝ่ายต่อต้าน วาทกรรมเหล่านี้ มีอาทิ

ทำไม กปปส.และประชาชนจึงออกมาล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง? เป็นคำถามซื่อๆ จากฝรั่งที่การเลือกตั้งในบ้านเขาไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีกลยุทธ์สกปรกอย่างในเมืองไทย ดังนั้น การเลือกตั้งจึงเป็นการสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนได้ชัดเจน แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว การเลือกตั้งในไทยเต็มไปด้วยการทุจริตทุกรูปแบบเท่าที่จะสรรหามาได้ ทั้งการซื้อสิทธิขายเสียง ฯลฯ ไม่ได้ “ฟรี แอนด์ แฟร์” อย่างที่ฝรั่งว่าไว้ เป็นวิธีการเข้าสู่อำนาจแบบสกปรก เพื่อใช้อำนาจนั้นไปทุจริตคอร์รัปชั่นหาทุนคืนพร้อมกำไรและดอกเบี้ย นี่คือ “ความจริง” ที่เกิดขึ้นในไทย

รัฐบาลจากการเลือกตั้งใช่ว่าจะทำอะไรก็ได้ตามใจตนเอง โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน

รัฐบาลจากการเลือกตั้งต้องทำตามสัญญาประชาคมที่ตกลงกับประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยไว้ หากทำไม่ได้ หรือทำล้มเหลว ประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยสามารถล้มรัฐบาลได้ ดังที่ปราชญ์ฝรั่งทางรัฐศาสตร์ระบุไว้ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแบบนี้ไม่ได้สะท้อนเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชน

เมื่อรัฐบาลยุบสภา ให้มีการเลือกตั้งใหม่ ทำไมประชาชนไม่หยุด? เพราะประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวนั้น มองว่า การยุบสภาไม่ใช่คำตอบต่อโจทย์ของประเทศ ปัญหาคงดำรงอยู่ต่อไป หลังยุบสภาประชาชนต้องการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งเพื่อหาทางแก้ปัญหาของประเทศ ประชาชนก้าวไปไกลกว่าแค่การยุบสภาเท่านั้น แต่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพื่อผ่าทางตันและมีการตั้งสภาประชาชนทำการปฏิรูปประเทศก่อน แล้วค่อยเลือกตั้ง

ทำไมประชาชนต่อต้านการเลือกตั้ง? การปกครองระบอบประชาธิปไตย ไม่มีใครหนีการเลือกตั้งพ้น แต่เราต้องการหลักประกันว่าการเลือกตั้งต้องเป็นธรรม บริสุทธิ์ ไม่เช่นนั้นก็กลับเข้าวังวนเดิมๆ ทำให้ประเทศชาติเดินไปไม่ถึงไหน

ทำไมไม่เลือกตั้งก่อนปฏิรูป แล้วมาทำคำปฏิญญาว่าจะปฏิรูปหลังจากนั้น? ประชาชนไม่ไว้ใจรัฐบาล ไม่เชื่อถือในคำพูดของรัฐบาล เพราะรัฐบาลล้มละลายทางคำพูดและความน่าเชื่อถือแล้ว หากรัฐบาลมั่นใจว่าเลือกตั้งเมื่อใดก็ชนะทุกครั้ง ทำไมไม่ปฏิรูปก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง

การชุมนุมทุกวันนี้ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย 7 หมื่นล้านบาท? สองปีที่ผ่านมา รัฐบาลทำให้เศรษฐกิจของชาติเสียหายยับเยินก่อนหน้านี้แล้ว โดยเฉพาะโครงการจำนำข้าวเสียหายไปแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท ไม่รวมโครงการอื่นๆ หากรัฐบาลมีการปฏิรูป มีความโปร่งใส การทุจริตลดน้อยลง จะทำให้คนมาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้นอีก เรื่องท่องเที่ยวไม่ต้องห่วง

สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นความขัดแย้งทางชนชั้น ระหว่างคนในเมืองร่ำรวยกับคนในชนบทยากจน? สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่สงครามชนชั้นอย่างที่กลุ่มฝ่ายซ้ายของรัฐบาลพยายามนำเอาทฤษฎีมาร์กซ์เลนินมาจับ เพื่อปลุกระดมชาวไร่ชาวนาให้มาสนับสนุนรัฐบาลต่อสู้กับม็อบใน กทม. การชุมนุมของมวลมหาประชาชนมีทั้งคนในเมืองและต่างจังหวัดมาร่วม คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ศาสนา การที่ชาวนาไม่ได้มาร่วมเพราะมีภาระในการทำมาหากินและไม่ตื่นตัวทางการเมือง แต่เป็นการต่อสู้ระหว่างอำนาจรัฐที่เป็นเผด็จการ กับประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ

คนต่างชาติและคนไทยบางคนน่าจะฉุกใจคิดบ้างว่า ทำไมจึงมีคนไทยทุกเชื้อชาติ ศาสนา อาชีพ ทุกชนชั้นใน กทม.และต่างจังหวัด รวมทั้งคนไทยในต่างประเทศ ฯลฯ ออกมาต่อต้านรัฐบาลอย่างมากมายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำไมคนจึงบริจาคเงินเป็นสิบๆ ล้านบาท และทำไมยังชุมนุมอยู่ได้นาน เรียกเมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น เป็นการชุมนุมอย่างสงบ สันติ ปราศจากความรุนแรง

แสดงว่ารัฐบาลต้องทำอะไรผิดพลาดอย่างร้ายแรงจนคนทนไม่ไหวจึงต้องออกมา นี่เป็นตรรกะง่ายๆ ที่ไม่ต้องใช้สติปัญญาล้ำเลิศอะไรก็น่าจะคิดได้ หากไม่มีอคติกันจนเกินไป

สิ่งที่เกิดขึ้นในไทยเป็นไปตามธรรมชาติการเมือง ไม่มีอเมริกันหรือต่างชาติหนุนหลังเช่นการปฏิวัติสีในยุโรปตะวันออก อาหรับสปริงในตะวันออกกลาง หรือม็อบในยูเครน ที่มีอเมริกันหนุนหลัง แต่ของไทยไม่มีอเมริกันหรือต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการชุมนุมโดยบริสุทธิ์ของประชาชนไทยเองที่ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการประชาธิปไตย ที่คนไทยเดือดร้อนมาแล้ว 2 ปี จนทนไม่ไหวจึงต้องลุกขึ้นมา ดังนั้น จึงไม่ต้องใช้คำว่าไทยสปริง เรามีเอกลักษณ์ของตนเอง คือ “การปฏิวัตินกหวีด” โดยประชาชนเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ นี่คือ “พลังอันบริสุทธิ์” ของมวลมหาประชาชนอย่างแท้จริง

ข่าวล่าสุด

"อัครา" ชู “พะเยา…ฮีลใจ : Hidden Story – ฟังเสียงหัวใจ @ปางปูเลาะ” หนุนเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง