โวยโรงสีปล่อยฝุ่นฟุ้งนักเรียนเดือดร้อนหนัก
สุพรรณบุรี-โรงสีข้าวปล่อยฝุ่นละอองฟุ้งกระจายไปทั่วทำให้พระ นักเรียน และชาวบ้านเดือดร้อนหนัก
สุพรรณบุรี-โรงสีข้าวปล่อยฝุ่นละอองฟุ้งกระจายไปทั่วทำให้พระ นักเรียน และชาวบ้านเดือดร้อนหนัก
นายโสภณ ตำนานจิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดใหญ่อ่างทอง หมู่ 1 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี กล่าวว่า เด็กนักเรียนเดือดร้อนหนักจากฝุ่นละอองของโรงสีข้าวที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนปล่อยฝุ่นละอองฟ้งกระจายไปทั่ว จนต้องปิดห้องเรียนเพื่อป้องกันฝุ่น และมีเด็กนักเรียนที่เกิดอาการแพ้ คันและมีผื่นขึ้นตามตัวทั้งหมด
นายโสภณ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องปิดห้องเรียนและหน้าต่างทั้งหมดนั้นก็เพื่อป้องกันฝุ่นละอองจากโรงสีข้าวที่พัดมา และจะเป็นอย่างนี้ทุกปีในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งจะมีลมเหนือพัดลงใต้ทำให้ฝุ่นละอองข้าวปลิวมา การปิดประตู หน้าต่างห้องเรียนแม้ว่าจะกันไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็พอช่วยได้บ้าง นอกจากนี้ยังมีเด็กบางคนที่แพ้ก็จะให้ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน ส่วนพื้นห้องนั้นก็จะต้องทำการกวาดถูอยู่ตลอดเพื่อไม่ให้ฝุ่นละอองมาจับ
นายประสิทธิ์ จันทรเทิง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.อ่างทอง กล่าวว่า เป็นอย่างนี้มาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะในช่วงหน้าฤดูเก็บเกี่ยวที่ชาวนานำข้าวมาขายให้โรงสี ฝุ่นละอองข้าวที่เกิดจากการอบก็จะฟุ้งกระจายไปทั่ว คนที่แพ้ละอองข้าวก็จะเกิดอาการคัน หรือหายใจไม่ออก ใบไม้ก็เป็นสีขาวนวล ไม่ใช่สีเขียวเพราะฝุ่นละอองปลิวไปจับ และก็ได้แจ้งให้ทางโรงสีซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนเพียง 100 เมตร นั้นได้หาวิธีป้องกัน จะใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือใช้สเปรย์ดับฝุ่นก็ได้ แต่ทางโรงสียังเพิกเฉยไม่ยอมแก้ไขให้ จึงได้ไปแจ้งยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมควบคุมมลพิษ อุตสาหกรรมจังหวัด ให้มาตรวจสอบแต่เรื่องก็เงียบ ไม่ใช่เดือดร้อนเฉพาะนักเรียนกับครูเท่านั้น ยังมีพระสงฆ์และชาวบ้านที่อยู่รอบๆโรงสีก็ได้รับความเดือดร้อนหมด ตากผ้านอกบ้านไม่ได้ต้องตากในบ้าน บ้านก็ไม่สามารถเปิดประตูหน้าต่างได้ ต้องปิดตายตลอด
ขณะที่พระวิมล ฐานะวโร พระลูกวัดใหญ่อ่างทอง กล่าวว่า ต้องเก็บกวาดกุฎิวันละหลายรอบ ครั้งหนึ่งก็จะกวาดฝุ่นละอองได้เยอะมาก ประตูหน้าต่างวัดก็เปิดไม่ได้ ญาติโยมที่มาทำบุญเห็นประตูหน้าต่างวัดปิด ก็คิดว่าไม่มีพระอยู่จึงมองเหมือนจะเป็นวัดร้าง พระบางรูปที่แพ้ก็แย่เหมือนกัน ต้องเกากันทั้งวัน จึงอยากให้ทางโรงสีช่วยดำเนินการแก้ไขให้ฝุ่นละอองน้อยลงกว่านี้
ด้านนายธัญรัตน์ พรมสุทธิ์ หัวหน้าฝ่ายโรงงาน สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ราชบุรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงสีแห่งนี้ก็ถูกร้องเรียนเรื่องฝุ่นละอองที่เกิดจากห้องอบข้าวมาตลอด และทราบว่าทางอุตสาหกรรมก็ได้มาแจ้งให้กับทางโรงสีได้แก้ไขแล้ว แต่ยังไม่เรียบร้อย ซึ่งในวันนี้ได้พูดคุยกับทางเจ้าของโรงสีแล้ว ให้ทางโรงสีดำเนินการแก้ไขด้วยการขยายพื้นที่ห้องอบ นอกจากใช้เสปรย์น้ำดักไม่ให้ฝุ่นละอองฟุ้งขึ้นไปในอากาศ ซึ่งทางโรงสีของเวลา 15 วันจะทำการอบข้าวที่ค้างอยู่ในสต๊อกให้หมด หลังจากนั้นก็จะสั่งปิดไม่ให้รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาอีก เพื่อให้ทางโรงสีได้ดำเนินการแก้ไขตามที่ได้แจ้ง และจะให้ทางผู้ใหญ่บ้านร่วมกับชาวบ้านเข้ามาทำการตรวจสอบถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาตรงนี้ด้วย


