กปปส.บุกหน้าสตช.ทวงถามคดียิงนศ.รามฯ
ถาวรนำพ่อแม่นศ.รามฯถูกยิงเสียชีวิตขึ้นเวทีเคลื่อนที่หน้าสตช.วอนหาตัวคนผิดมารับโทษ รองผบ.ตร.ยันไม่มีมวยล้ม
ถาวรนำพ่อแม่นศ.รามฯถูกยิงเสียชีวิตขึ้นเวทีเคลื่อนที่หน้าสตช.วอนหาตัวคนผิดมารับโทษ รองผบ.ตร.ยันไม่มีมวยล้ม
วันนี้ (18ธ.ค.) เมื่อเวลา10.35 น. กลุ่มมวลชนผู้ชุมนุมกปปส. ราว 300 คน นำโดยนายถาวร เสนเนียม กรรมการกปปส. เดินเท้าพร้อมรถขยายเสียงอีก 4 คัน มาถึงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีที่นายธีรศํกดิ์ โพธิ์แก้ว นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ถูกยิงเสียชีวิตจากเหตุการณ์ทางการเมืองเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา
นายถาวร ขึ้นรถขยายเสียงกล่าวโจมตีการทำงานของตำรวจ โดยระบุว่า ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นธรรมต่อเหตุการณ์เสียชีวิตของนักศึกษารามฯ ที่ผ่านมาได้ให้เวลาตำรวจได้สอบสวนหาตัวคนร้ายซึ่งเป็นคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมและเกิดการปะทะกันกับนักศึกษารามฯ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ก็ล่วงเลยมาเกือบเดือนแล้ว ส่วนคดีที่คนร้ายเผารถบัสของคนเสื้อแดง ตำรวจกลับติดตามคดีและจับกุมคนร้ายได้โดยใช้เวลาไม่นาน แต่คดีฆ่านักศึกษารามฯกลับยังไม่มีความคืบหน้า
"ผมจึงต้องมายื่นหนังสือทวงถามอีกครั้ง หากยังไม่มีความคืบหน้าอีก ก็จะมีมาตรการต่อไปทันที" นายถาวร กล่าว
พร้อมกันนี้ นายถาวร ยังพานายราเมศวร์ ธีระรังสกุล และนางสุรีย์ ธีระรังสิกุล พ่อแม่ของนายธีรศํกดิ์ โพธิ์แก้ว นักศึกษาที่เสียชีวิต ขึ้นรถขยายเสียงเพื่อทวงถามคดีดังกล่าว โดยนายราเมศวร์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้สูญเสียลูกชาย ก็อยากให้ตำรวจเร่งรัดคดีตามกฎหมาย ส่วนคดีจะออกมารูปแบบไหนก็รับได้ เพราะที่ผ่านมาก็สูญเสียมากพอแล้ว
ด้านนางสุรีย์ แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า อยากให้นำตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ และหากการเสียชีวิตของลูกชายสามารถทำให้คนไทยสามัคคีกันได้ ตนก็จะยินดีมาก
ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. ได้เชิญนายถาวร เข้ามายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือตามความประสงค์ โดยในหนังสือ ระบุว่า
"ตามหนังสือที่อ้างถึงผบ.ตร. ได้ขอให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้ภายในวันที่ 4 ธ.ค.2556 กรณีการเสียชีวิตของสนักศึกษารามฯ ในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่เวลาล่วงเลยครบกำหนดนานแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ หรือมีการแจ้งความคืบหน้าของคดีให้กปปส.ได้รับทราบ แตกต่างจากกรณีเผารถบันขนเสื้อแดงมาชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ตำรวจจับกุมคนร้ายได้ทันที
กปปส.ได้ตั้งขอสงสัยถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่มีมาตรฐานแตกต่างกัน โดยพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตก็ห่วงใยและสอบถามความคืบหน้าของคดีมายังกปปส. ดังนั้น จึงขอทราบความคืบหน้าของคดีต่อผบ.ตร. หากยังเพิกเฉย ละเลย หรือเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรร กปปส.จะได้มีมาตรการต่อสำกนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป"
โดยหลังจากพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. ในฐานะตัวแทนผบ.ตร.รับหนังสือ ได้เชิญนายถาวร พร้อมด้วยพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตเข้าไปยังสำนักงาน โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงเสร็จสิ้น
ต่อมานายถาวร ได้ออกมาขึ้นเวทีรถขยายเสียง กล่าวถึงความคืบหน้าหลังได้พูดคุยกับตำรวจให้มวลชนได้รับทราบว่า ทางตำรวจยืนยันว่าคดีนี้กำลังเร่งรัดสืบสวนสอบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอยู่ และยืนยันว่าไม่มีมวยล้มหรือปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นธรรมอย่างแน่นอน แต่ในส่วนของคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจะทำให้คนร้ายไหวตัวทัน ซึ่งก็เป็นที่พอใจของกปปส.
"ตำรวจยืนยันว่าจะเอาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพียงเท่านั้นเราก็พอใจแล้ว แต่เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ตำรวจเองว่าทำจริงอย่างที่พูดหรือไม่" นายถาวร กล่าว และประกาศให้มวลชนกลับที่ตั้งยังที่ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในเวลา 11.30 น.


