ห้างเปิด-ปิดตามม็อบหวั่นกระทบยาวปีหน้า
ค้าปลีกปรับตัววันต่อวันตามปัจจัยม็อบ ระบุเน้นความปลอดภัยลูกค้า ด้านผู้ค้าอัดโปรโมชั่นสู้
ค้าปลีกปรับตัววันต่อวันตามปัจจัยม็อบ ระบุเน้นความปลอดภัยลูกค้า ด้านผู้ค้าอัดโปรโมชั่นสู้
การชุมนุมทางการเมืองที่ปะทะรุนแรงขึ้น กระทบให้วันที่ 1 ธ.ค. มี 4 ศูนย์การค้า คือ เซ็นทรัลเวิลด์และเซน สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ รวมถึงสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ ต้องปิดให้บริการไป 1 วัน และวันที่ 2 ธ.ค. ต้องปิดเร็วขึ้นจาก 22.00 น. เป็น 20.00 น. เพราะถนนพระราม 1 ปิด ผู้ชุมนุมประกาศค้างคืนหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดเผยว่า กรณีที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ปิดให้บริการไป 1 วัน เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทต้องการป้องกันความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งการปิดบริการไป 1 วัน ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องผลกระทบ แต่อยากให้มองเป็นเรื่องของการรักษาความปลอดภัย
แหล่งข่าวจากบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้ประเมินผลกระทบของการปิดให้บริการโรงภาพยนตร์จำนวน 2 สาขา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา คือ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ สาขาศูนย์การค้าสยามพารากอน และโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขารามคำแหง
แหล่งข่าวจากศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล หลังปิดให้บริการไป 1 วัน เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา
นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า จากปัญหาการชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นในหลายจุด ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อภาพรวมของธุรกิจได้ เนื่องจากยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประเมินสถานการณ์ชั่วโมงต่อชั่วโมง
ทั้งนี้ จากปัจจัยลบดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าปลีกแต่ละรายต้องทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นอารมณ์ให้ผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอย และปัญหาการเมืองครั้งนี้อาจกระทบไปถึงค้าปลีกไตรมาส 12 ปี 2557 ได้ ต้องดูอย่างใกล้ชิดเช่น ล่าสุดห้างบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์จัดแคมเปญใหญ่ที่สุดแห่งปี ลดกระหน่ำสูงสุด 80% ทั้งห้าง ทั่วประเทศ กับแคมเปญ“ช้อปหยุดโลก ปี 2” เฉพาะวันเสาร์ที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมาอย่างไรก็ตาม หวังว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นในเร็ววันนี้ เพราะถ้าสถานการณ์ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเร็ว ภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจค้าปลีกก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเร็วเช่นกัน
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า จากปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ คาดว่ายังคงส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในไตรมาส 12 ของปี 2557 ยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองยังคงต้องจับตามอง เช่นเดียวกับปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งยังคงต้องเฝ้าระวังทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
“ปัจจัยลบที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคยังคงชะลอกำลังซื้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยก็มีการใช้จ่ายลดลง เนื่องจากภาครัฐหันไปให้การสนับสนุนนักท่องเที่ยวไม่มีคุณภาพ ซึ่งปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้กลุ่มสินค้าคงทนและกึ่งคงทนเติบโตลดลง เพราะกลุ่มชนชั้นกลางและบนมีการชะลอกำลังซื้อ เพราะมีความกังวลกับปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง” นายฉัตรชัยกล่าว
อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์ทุกอย่างมีแนวโน้มที่ดีขึ้นภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 น่าจะมีอัตราการเติบโตได้ถึง 10% เนื่องจากช่วงเดือน ม.ค.ก.พ. เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน ขณะที่เดือน มี.ค. เป็นช่วงปิดเทอมผู้บริโภคน่าจะออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มเด็ก ค้าปลีกจับตาม็อบใกล้ชิด พร้อมประเมินสถานการณ์ชั่วโมงต่อชั่วโมง หลังมีบางแห่งปิดให้บริการ เพื่อความปลอดภัยลูกค้า ขณะเดียวกันตบเท้าอัดแคมเปญกระตุ้นอารมณ์ลูกค้ากู้ยอดขาย


