นช.เรือนจำอุบลฮือประท้วงให้ย้ายผู้คุม

นักโทษชายเรือนจำอุบลฯประท้วง ขอให้ย้ายจนท.ตงฉินออก และย้ายนักโทษสาวประเภทสองกลับแดนเดิม

นายวิชัย โชติปฏิเวชกุล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุรินทร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางอุบลราชธานี  ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางอุบลราชธานีว่า มีผู้ต้องขังกว่า 200 คน ลุกฮือประท้วง ในแดน 2 ของเรือนจำกลางอุบลราชธานี จึงได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.อภิชาติ เพรชประสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ขอกำลังตำรวจจาก สภ.เมืองอุบลราชธานี ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 กว่า 200 นายเข้าควบคุมสถานการณ์

ทั้งนี้ มีนายสุทธินันท์  บุญมี รองผวจ.อุบลราชธานี เข้าร่วมสังเกตการณ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ไม่มีการปะทะ หรือได้รับบาดเจ็บ  สำหรับการประท้วงในครั้งนี้มีนักโทษชายชนะชัย โมฬีชาติ ผู้ต้องขังเครือข่ายยาเสพติด ยังคงถูกจำคุกกว่า 25 ปี ยื่นข้อเรียกร้อง 2 ข้อ คือ ขอให้เรือนจำย้าย นายคมสัน  วิจิตรวงศ์ เจ้าพนักงานราชฑัณฑ์ชำนาญการ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ที่ซื่อตรงและสามารถจับกุมสิ่งของต้องห้ามได้อยู่เสมอออกจากแดน 2 ข้อที่สองขอให้เจ้าหน้าที่ย้ายผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นสาวประเภทสองกลับมาแดน 2 ตามเดิม  อย่างไรก็ตามจากการเจรจาเจ้าหน้าที่เรือนจำแจ้งว่าเรื่องขอเสนอทั้งสองข้อเจ้าหน้าที่จะรับเรื่องไว้แล้วให้ ผู้ใหญ่พิจารณาติดสินใจอีกครั้ง ซึ่งการเจรจาใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงผู้ต้องขังทั้งหมดจึงสลายตัว ยอมขึ้นเรือนนอนโดยไม่มีเหตุการณ์ปะทะกันกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

ด้านนายวิชัย  กล่าวอีกว่า จากการตรวจตราอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางอุบลราชธานี จึงทำให้สามารถจับโทรศัพท์มือถือ และยาเสพติดได้อยู่บ่อยครั้ง  จึงทำให้ผู้ขังที่อยู่ในเรือนจำไม่พอใจก็เป็นได้ ประกอบกับก่อนเกิดเหตุการณ์ประท้วงประมาณ 5 นาที เจ้าหน้าที่เรือนจำสามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง  และยาไอซ์ จำนวน 163 กรัม รวมมูลค่า กว่า 2 ล้านบาท จากเครือข่ายยาเสพติดที่จะใช้เครื่องยิงอัดแก๊สยิงเข้าไปในเรือนจำ แต่พลาดห่อโทรศัพท์มือถือถูกกันสาดหน้าต่างของรถยนต์ก่อนจะตกลงหน้าบ้านของเจ้าหน้าที่เรือนจำ แล้วขับขี่รถกระบะอีซูซุสีแดง คันก่อแหตุหลบหนีไปทางถนนโพธิ์ทองอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นภายหลังเหตุการณ์สงบเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางอุบลราชธานี และ เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 นาย จะเข้าตรวจสอบหาสิ่งของต้องห้ามรวมทั้ง อาวุธต่างๆที่ผู้ต้องขังจะใช้ก่อเหตุ รวมทั้งแยกแกนนำทั้งหมด 40 คน ออกไปฝากขังเรือนข้างเคียง ส่วนแกนนำหลักนายชนะชัย เจ้าหน้าที่คาดว่าจะย้ายไปเรือนจำกลางคลองใผ่ เพื่อเป็นการป้องกันการรวมตัวประท้วงอีก