เสนอเพิ่มโทษจำคุกผับบาร์ไม่มีใบอนุญาต
นครบาลเสนอเพิ่มโทษจำคุกผับ-บาร์ไม่มีใบอนุญาต หลังพบสถานบริการละเลยการต่อใบอนุญาต
นครบาลเสนอเพิ่มโทษจำคุกผับ-บาร์ไม่มีใบอนุญาต หลังพบสถานบริการละเลยการต่อใบอนุญาต
พล.ต.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านการจัดระเบียบสถานบริการทำหน้าที่หัวหน้าชุดตรวจสอบการดำเนินการกิจการสถานบริการและสถานประกอบการ (ชตส.บช.น.) เปิดเผยว่า ช่วงกลางดึกต่อเนื่องวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ชุดตรวจสอบความเรียบร้อยสถานบริการ บช.น.เข้าตรวจสอบสถานบริการย่านนานา พร้อมจับกุมสถานบริการที่ไม่มาต่อใบอนุญาตประจำปี 2556 จำนวน 8 แห่ง คือ ร้านฮอลีวูดสตริป ร้านเอนเจิลวิทซ์ ร้านอับเซสซัน ร้านแคสแคต ร้านจีสปอต ร้านโลลี่ ร้านแฟนตาเซีย และร้านวูดู โดยสถานบริการทั้งหมดข้างต้นยังเปิดให้บริการตามปกติทั้งที่ใบอนุญาตหมดอายุไปแล้ว จึงดำเนินคดีข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ยังมีอีก 2 ร้านในย่านนานา ที่ไม่ได้มีการต่อใบอนุญาต คือ ร้านคารูเซล และร้านคาร์นิวาโด้ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบว่ามีการปิดกิจการไปแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนสถานบริการที่ลักลอบเปิดโดยที่ใบอนุญาตหมดอายุนั้นเป็นเพราะอัตราโทษในการดำเนินคดีทางกฎหมายต่ำเกินไป ทำให้ผู้ประกอบการไม่เกรงกลัว มีแต่ลงโทษปรับสถานเดียว ส่วนโทษจำคุกนั้นศาลพิพากษาให้รอการลงโทษไว้ก่อน เมื่อเทียบอัตราค่าปรับกับรายได้ที่เปิดร้านแล้วเป็นเพียงเงินน้อยนิดทางร้านจึงยอมให้มีการจับดำเนินคดีและเมื่อผู้จัดการคนเก่าถูกตรวจค้นจับกุมดำเนินคดีแล้วก็เปลี่ยนผู้จัดการใหม่มาทำงานแทนอยู่เรื่อยไป
กองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นว่าควรมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎกระทรวงและปรับปรุงโซนนิ่งใหม่ให้มีอัตราโทษที่หนักขึ้นเพื่อให้สถานบริการอยู่ในระเบียบข้อบังคับของกฎหมายไม่ให้เกิดปัญหาในสังคมโดยจะเสนอแก้ไขกฎหมายให้มีอัตราโทษมากขึ้นเพื่อบังคับใช้ในอนาคตอันใกล้นี้
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า ได้รวบรวมข้อมูลสถานบริการในพื้นที่ กทม. แบ่งเป็นสถานบริการที่ได้รับอนุญาตถูกต้องมีจำนวน 619 รายอยู่ในโซนนิ่ง 180 รายนอกโซน 429 ราย และสถานบริการที่เคยได้รับอนุญาตแล้ว แต่ต่อมาไม่มาต่อใบอนุญาตตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบันจำนวน 106 รายแบ่งเป็นในโซน 18 ราย นอกโซน 88 ราย นอกจากนี้ยังมีสถานบริการที่ไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้ขอใบอนุญาตแต่แอบเปิดตามสถานที่ต่างๆ จำนวน 800 กว่าราย ส่วนใหญ่พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น ทั้งเปิดเกินเวลาและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับการแก้ไขกฎหมายนั้น กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ประชุมร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องโดยมีรอง ผบก.น.แต่ละกองบังคับการ (บก.) 1-9 เข้าร่วมพร้อมเสนอโซนนิ่งในพื้นที่รับผิดชอบเห็นควรให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ. 2509 มาตรา 3 คือ นิยามของคำว่าสถานบริการจะต้องหมายรวมถึงสถานที่ที่มีอาหารสุราหรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่าย ลักษณะสถานที่เปิดโล่งหรืออยู่ในตัวอาคาร จัดให้มีดนตรีหรือการแสดงใดๆเพื่อความบันเทิง มีระดับเสียงไม่เกิน 90 เดซิเบลเอเปิดบริการไม่เกิน 24.00 น.
มาตรา 26 เสนอให้มีการเพิ่มโทษข้อหาตั้งสถานบริการไม่ได้รับอนุญาตจากเดิมระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ให้เป็นระวางโทษจำคุก 3-5 ปี ปรับตั้งแต่ 1.2 - 4 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และดำเนินการกับสถานบริการที่ถูกพักใช้บริการแต่ลักลอบเปิดหรือเปิดให้บริการผิดประเภทจากเดิมระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นโทษจำคุกตั้งแต่ 1-3 ปี ปรับ 6 หมื่น - 2 แสนหรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้จะเสนอโทษข้อหาเปิดสถานบริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนดคือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท และเสนอสถานบริการทุกประเภทปิดในเวลา 01.00 น. ทั้งในโซนและนอกโซน โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้เสนอเรื่องปรับปรุงแก้ไขดังกล่าวไปยังกระทรวงมหาดไทยผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจรณาและรอการอนุมัติบังคับใช้แก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวต่อไป
รองผบช.น. กล่าวว่า ต่างประเทศมีกฎหมายเรื่องสถานบริการค่อนข้างหนัก จับกุมดำเนินคดีจริงจัง แต่กฎหมายของเรายังถือว่าอ่อนจึงต้องปรับปรุง หากเปิดให้บริการแล้วไม่มีใบอนุญาตมีความผิด 3-5 ปี ก็คงไม่มีใครกล้าเปิดและอาจต้องดำเนินคดีกับเจ้าของหรือกรรมการผู้จัดการด้วย ต่อไปจะวิ่งเข้ามาขอใบอนุญาต ต้องทำให้ถูกกฎหมาย รัฐบาลก็จะได้เงินจากค่าภาษีเพิ่มเติมด้วย ส่วนสถานบริการที่มีวงเล็บ บางประเภทเปิดได้ถึงเวลา 24.00 หรือ 01.00 น. หรือ 02.00 น. แต่บางประเภทเปิดได้ตั้งแต่เวลา 12.00 น.นั้นต้องปรับเวลาให้เหมือนกันเพื่อให้เกิดความชัดเจน


