ไทย-ลาวคาดปักเขตแดนบก-น้ำเสร็จรับอาเซียน

ประชุมเจบีซีไทย-ลาวคืบหน้าความสัมพันธ์ 2 ชาติ เผยปักปันเขตแดนทางบกรุดหน้า 96% คาดเสร็จรับอาเซียน ขณะที่ทางน้ำพยายามทำให้เสร็จปี 60

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ  และนายทองลุน สีสุลิด รมว.ต่างประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้ร่วมกันเป็นประธานเปิดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม (เจบีซี) ไทย – ลาว ครั้งที่ 9  ณ โรงแรมแชงกรีล่า กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้่นการประชุม นายสุรพงษ์ และนายทองลุน ได้ร่วมลงนามบันทึกผลการประชุมดังกล่าว และร่วมกันแถลงข่าว โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า การประชุมเจบีซี ไทย-ลาว ได้ว่างเว้นไปถึง 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2550 ดังนั้น การประชุมวันนี้ (15ส.ค.) ได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับลาวในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีมาก และยังสามารถปรึกษาหารือกันได้ทุกเรื่องทุกระดับ

นอกจากนี้ ตั้งแต่เริ่มการสำรวจ เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2550 จนถึงปัจจุบัน ไทยกับลาวสามารถร่วมกันปักหลักเขตแดนได้แล้ว จำนวน 204 หลัก เป็นระยะทาง 676 กิโลเมตร คิดเป็นพื้นที่ 96% ของเขตแดนทางบก สำหรับการประชุมวันนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งในภาพรวมถือว่ามีความคืบหน้าอย่างมากและกลไกต่างๆของเจบีซีมีทิศทางการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนทั้ง 2ประเทศ

“ทั้ง 2 ฝ่ายได้กำหนดเป้าหมายที่จะพยายามให้การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-ลาว ให้แล้วเสร็จในปี 2558 และทางน้ำให้แล้วเสร็จในปี 2560 อีกทั้ง ยังได้มีการรับรองการก่อสร้างหลักเขตแดนเพิ่มเติมอีกจำนวน 15 หลัก ซึ่งเป็นผลจากการปฏิบัติงานสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมกันระหว่างไทย-ลาว สำหรับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางน้ำในส่วนแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหืองนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา โดยที่ประชุมได้กำหนดแนวทางจัดการพื้นที่ชายแดนตามลำน้ำโขงในระหว่างรอการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพตามแนวชายแดนได้โดยปกติ และให้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตดั้งเดิมของประชาชนในพื้นที่น้อยที่สุด”นายสุรพงษ์ กล่าว

ขณะที่ นายทองลุน กล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้นำคณะเจบีซีของฝ่ายลาวมาร่วมประชุมครั้งนี้ ซึ่งลาวมีความเห็นพ้องกับฝ่ายไทยที่นับเป็นความคืบหน้าในความร่วมมือด้านการปักปันเขตแดน ซึ่งไทย-ลาวมีระยะทางชายแดนติดต่อกัน 1,810 กิโลเมตร โดยลาวอยากสานความสัมพันธ์กับไทยให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทั้งด้านเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม อีกทั้ง ลาวต้องการส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศตามแนวชายแดนให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ

นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคการปักปันทั้งทางบกและทางน้ำ ควรมีการพบปะกันเพื่อรับฟังและแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างทั้งการสำรวจและปักปันในพื้นที่ที่มีปัญหาอยู่ ทั้งบริเวณภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย และบริเวณภูโจ๊ะโก๊ะ จ.อุบลราชธานี ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการเจรจาเพื่อให้ความเห็นชอบในการจัดทำหลักเขตแดนกันต่อไป