posttoday

'ยุง' บินฝ่าน้ำฝนได้อย่างไร

28 กรกฎาคม 2556

ในฤดูฝนเช่นนี้ “ยุง” นับเป็นปัญหากวนใจของผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นพาหะนำโรคต่างๆ อาทิ ไข้เลือดออก มาลาเรีย ไข้สมองอักเสบ เป็นต้น

โดย...วัชราภรณ์ สนทนาสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

ในฤดูฝนเช่นนี้ “ยุง” นับเป็นปัญหากวนใจของผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นพาหะนำโรคต่างๆ อาทิ ไข้เลือดออก มาลาเรีย ไข้สมองอักเสบ เป็นต้น และดูเหมือนว่าสเปรย์ยาฆ่าแมลง หรือเทียนตะไคร้หอม ที่นิยมนำมาใช้กำจัดยุงนั้น แทบไม่สามารถขัดขวางการดูดเลือดของพวกมันได้เลย แล้วถ้าเป็นน้ำฝน ยุงจะบินฝ่าน้ำฝนมากัดเราได้หรือไม่?

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบระหว่างยุงกับหยดน้ำฝนแล้ว จะเห็นว่าหยดน้ำฝนทำอันตรายต่อยุงได้สบายๆ เพราะน้ำฝนมีขนาดใหญ่กว่า มีมวลมากกว่ายุงถึง 50 เท่า และหยดน้ำฝนยังตกลงมาด้วยความเร็วเริ่มต้นที่มากกว่ายุงบินเฉลี่ย 59 เท่าเลยทีเดียว ทว่าผลการศึกษาล่าสุดของนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย (Georgia Institute of Technology) ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าหยดน้ำฝนไม่ใช่อุปสรรคที่กีดขวางวายร้ายอย่างยุงได้เลย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เดวิด ฮู (David Hu) และนายแอนดรูว์ ดิกเกอร์สัน (Andrew Dickerson) นักศึกษาปริญญาเอก จากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล สถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย ได้ร่วมกันทำงานวิจัยเพื่อค้นหาคำตอบว่ายุงบินท่ามกลางสายฝนได้อย่างไร โดยพวกเขาสร้างกรงอะครีลิกใสที่ถูกปิดด้วยตาข่าย จากนั้นปล่อยยุงลงไปในกล่อง พร้อมทั้งปล่อยหยดน้ำลงไปเพื่อจำลองเหตุการณ์ฝนตก และใช้กล้องวิดีโอความไวสูง ซึ่งสามารถจับภาพได้ 4,000 เฟรมต่อวินาที (กล้องปกติจะจับภาพได้ 24 เฟรมต่อวินาที) บันทึกภาพการเคลื่อนไหวของยุงและหยดน้ำ

ผลการศึกษาพบว่า หยดน้ำฝนจะปะทะกับยุงได้ 2 แบบ คือ 1.หยดน้ำฝนตกลงโดนบางส่วนของตัวยุง ยุงจะสูญเสียการทรงตัวเล็กน้อย และจะปรับสมดุลกลับมาบินต่อได้เหมือนเดิม และ 2.หยดน้ำฝนตกลงบนตัวยุง ยุงจะปล่อยตัวให้ลอยต่ำลงมาพร้อมกับหยดน้ำ และบินแยกออกไปก่อนที่หยดน้ำฝนจะตกลงพื้น ซึ่งในการทดลองยุงทุกตัวปลอดภัย แม้ว่าอันตรายจากแรงปะทะของหยดน้ำฝนที่ตกลงโดนยุงจะเทียบได้กับความแรงของรถที่กำลังวิ่งมาชนคนก็ตาม

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะคุณสมบัติ 2 ข้อของยุง คือ ยุงมีโครงสร้างภายนอกที่แข็งแรงมาก และมีมวลที่ต่ำมาก หากหยดน้ำตกลงบนปีกของขนนก หยดน้ำจะแตกกระจายออก เพราะได้รับแรงกระทบที่สูงมาก แต่ด้วยยุงมีน้ำหนักที่เบามาก เมื่อน้ำหยดลงมาปะทะที่ตัวยุง โมเมนตัมของหยดน้ำจะถูกถ่ายทอดไปที่ตัวยุงน้อยมาก หยดน้ำฝนจึงยังคงรูปของหยดน้ำได้เหมือนเดิม

นอกจากนี้ ในการทดลองนักวิจัยยังนำเม็ดโฟมมาทดสอบแทนตัวยุง พบว่าน้ำฝนที่ตกลงมาโดนตัวยุงนั้นจะสูญเสียความเร็วไปเพียง 117% ต่อการชนยุงหนึ่งตัวเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมที่ชนด้วย ดังนั้นยิ่งวัตถุที่ปะทะกับน้ำฝนมีขนาดเล็กมากเท่าใดก็จะได้รับผลกระทบน้อยลงไปด้วย

จากผลงานวิจัยดังกล่าว เห็นทีว่าสุภาษิต ยุงร้ายกว่าเสือ นั้นอาจจะจริงไม่น้อย เพราะนอกจากยุงจะฝ่าน้ำฝนมากัดคนได้สบายๆ แล้ว ทุกวันนี้จำนวนผู้เสียชีวิตจากยุงมีมากกว่าเสือเสียด้วยซ้ำ โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า ยุงเป็นพาหะนำโรคหลายชนิดที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ เช่น ยุงลายเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก ยุงก้นปล่องเป็นพาหะนำโรคมาลาเรีย ขณะที่ยุงรำคาญเป็นพาหะนำโรคไข้สมองอักเสบ โรคเท้าช้าง และโรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัข เป็นต้น โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2556 พบจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออก 73,902 ราย เสียชีวิตแล้ว 73 ราย และอาการหนักอีกจำนวนมาก

ทั้งนี้ การควบคุมยุงที่ผ่านมามักใช้สารเคมี หรือหมอกควันไล่ยุง ซึ่งอาจกำจัดยุงได้ไม่มากนัก ดังนั้นการควบคุมประชากรยุงจึงน่าจะควบคุมที่ระยะลูกน้ำควบคู่กันไปด้วย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล วิจัยพัฒนา “ผลิตภัณฑ์ชีวภาพควบคุมลูกน้ำยุง” เป็นการใช้แบคทีเรีย ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bacillus sphaericus เรียกโดยย่อว่า Bs และ Bacillus thuringiensis subsp. israelensis หรือ Bti มากำจัดลูกน้ำยุงแทนสารเคมี เนื่องจากมีความปลอดภัย และต้นทุนต่ำ

โดยแบคทีเรียทั้งสองชนิดนี้สามารถสร้างโปรตีนที่จะเข้าไปทำลายเซลล์ของลำไส้ยุง ทำให้ลูกน้ำยุงตายในที่สุด โดยแบคทีเรีย Bs ออกฤทธิ์ฆ่าลูกน้ำยุงรำคาญและยุงก้นปล่องได้ดี โดยไม่เป็นอันตรายต่อคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ส่วนลูกน้ำยุงลาย จะใช้แบคทีเรีย Bti ซึ่งมีประสิทธิภาพดีและมีความปลอดภัยสูงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ชีวภาพควบคุมลูกน้ำยุงได้เริ่มมีการนำไปใช้จริงในหลายพื้นที่ โดยในปี 2555 ได้แจกจ่ายให้ชุมชน และประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และพื้นที่ยุงชุมอื่นๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหายุงรบกวน โดยผลิตภัณฑ์ชีวภาพนี้สามารถลดประชากรยุงในพื้นที่น้ำท่วมขังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าวล่าสุด

CardX มอบเงินบริจาคห้าแสนบาทแก่สภากาชาดไทยเพื่อเร่งฟื้นฟูเยียวยาและช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัย