posttoday

เจ้าจอมก๊กออในรัชกาลที่ 5 (5)

14 กรกฎาคม 2556

ธิดาคนที่ 4 และ 5 ของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) และท่านผู้หญิงอู่ ที่ได้ถวายตัวเป็นข้าราชสำนักฝ่ายในสนองพระเดชพระคุณใต้เบื้องพระยุคลบาท

ธิดาคนที่ 4 และ 5 ของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) และท่านผู้หญิงอู่ ที่ได้ถวายตัวเป็นข้าราชสำนักฝ่ายในสนองพระเดชพระคุณใต้เบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ เจ้าจอมอาบ และเจ้าจอมเอื้อน

เจ้าจอมอาบเกิดที่ จ.เพชรบุรี เมื่อวันจันทร์ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 20 ก.พ. 2424 ได้รับการศึกษาชั้นต้นเยี่ยงกุลสตรี ลูกหลานขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยนั้นเป็นอย่างดี

เมื่อเจ้าจอมอาบอายุได้ 10 ขวบ ได้เข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมขบวนแห่โสกันต์ของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ เมื่อปี 2434 และเข้าถวายตัวรับราชการฝ่ายในเมื่อปี 2438 เมื่ออายุได้ 14 ปี มีหน้าที่ถวายงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร่วมกับเจ้าจอมเอิบและเจ้าจอมเอี่ยมผู้เป็นพี่สาว มีโอกาสได้รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้ร่วมขบวนเสด็จพระราชดำเนินไปตามที่ต่างๆ ที่เจ้าจอมก๊กออได้ตามเสด็จอย่างสม่ำเสมอ เจ้าจอมอาบเป็นผู้ที่สนองพระเดชพระคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วยความซื่อสัตย์สุจริตจงรักภักดี ตราบจนพระบรมราชสวามีเสด็จสวรรคต เจ้าจอมอาบจึงย้ายจากพระบรมมหาราชวังไปพำนักอยู่ในตำหนักวังสวนสุนันทา จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 เจ้าจอมอาบจึงย้ายออกจากตำหนักวังสวนสุนันทาไปสร้างเรือนใหม่ริมคลองสามเสน บนที่ดินที่พระราชทานเป็นสัดส่วนแก่เจ้าจอมก๊กออ ที่สวนนอก ริมถนนสุโขทัย ซึ่งปัจจุบันนี้คือที่ทำการของสำนักเลขาธิการสภาการศึกษา

เนื่องจากเจ้าจอมอาบต้องอัธยาศัยกับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทรทิพยนิภา หรือเสด็จพระองค์อาทรฯ ซึ่งเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาชุ่ม (ไกรฤกษ์) เจ้าจอมอาบจึงย้ายไปพำนักอยู่กับเสด็จพระองค์อาทรฯ ณ ตำหนักสวนทิพย์เป็นการถาวร ส่วนเรือนของเจ้าจอมอาบเองที่ได้สร้างไว้ใกล้ๆ กับเรือนของพี่น้องเจ้าจอมก๊กออนั้น ท่านก็ได้ยกให้แก่หลานของท่านที่ท่านได้อุปการะเลี้ยงดูมา

เจ้าจอมอาบได้อยู่เป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากของเสด็จพระองค์อาทรฯ มาจนกระทั่งปี 2501 เสด็จพระองค์อาทรฯ ก็สิ้นพระชนม์ เจ้าจอมอาบได้มีส่วนสำคัญในการเป็นธุระจัดการงานพระศพของเสด็จพระองค์อาทรฯ จนเป็นที่เรียบร้อย และคงพำนักอยู่ในตำหนักสวนทิพย์ต่อมาด้วยการเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดีจากครอบครัวของนายพูนเพิ่ม ไกรฤกษ์ อดีตเลขาธิการสำนักพระราชวัง และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ผู้เป็นหลานรักของเสด็จพระองค์อาทรฯ ซึ่งเคารพยกย่องเจ้าจอมอาบประดุจ “บุพการีพิเศษ” จนกระทั่งเจ้าจอมอาบถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2504 ด้วยอาการหัวใจวาย ณ โรงพยาบาลศิริราช สิริอายุได้ 80 ปี

ส่วนเจ้าจอมเอื้อนผู้เป็นน้องนุขสุดท้องที่เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์นำเข้าไปถวายตัวให้รับราชการเป็นข้าราชสำนักฝ่ายในเมื่อปี 2447 นั้น เกิดที่ จ.เพชรบุรี ในปี 2430 ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดจากบิดามารดา

เนื่องจากเจ้าจอมเอื้อนเป็นธิดาคนสุดท้อง เป็นที่รักใคร่ของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์และท่านผู้หญิงอู่ ซึ่งตั้งใจจะเลี้ยงดูไว้ใกล้ตัวไม่ถวายตัวเข้าวังเช่นเดียวกับพี่ๆ แต่แล้วเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ร.ศ.123 (ปี 2447) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประพาสเมืองเพชรบุรีทางชลมารค และเสด็จไปยังจวนของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ และทรงพบกับเจ้าจอมเอื้อน ซึ่งขณะนั้นอายุได้ 17 ปี ทรงพอพระทัยในรูปโฉมที่งามพิลาสของสาวน้อย เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ ท่านบิดาจึงได้นำตัวธิดาคนสุดท้องที่ตั้งใจจะให้อยู่ใกล้ชิด เข้าถวายตัวรับราชการฝ่ายใน เป็นที่โปรดปรานในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าจอมเอื้อนเป็นผู้ที่มีฝีมือในการถ่ายภาพและมีความสามารถในการล้างรูปเช่นเดียวกับเจ้าจอมเอิบผู้เป็นพี่ อีกทั้งยังมีความสามารถในทางดนตรีและสีไวโอลินได้เป็นอย่างดี เจ้าจอมเอื้อนออกจากบ้านมารับราชการฝ่ายในภายในราชสำนักได้เพียง 2 ปี เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ผู้บิดาและท่านผู้หญิงอู่ผู้เป็นมารดา ก็ถึงแก่อสัญกรรมในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าจอมเอื้อนจึงได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากพี่น้องเจ้าจอมก๊กออ ได้ร่วมขบวนเสด็จพระราชดำเนินไปในทุกหนแห่งที่เจ้าจอมก๊กออได้ตามเสด็จด้วย และเป็นที่โปรดปรานในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากพระราชหัตถเลขาที่ทรงแสดงความห่วงใยในอนาคตของเจ้าจอมก๊กออในยามที่ไม่มีพระองค์แล้ว จึงทรงมีพระราชดำริที่จะไปสร้างบ้านต้นที่ จ.เพชรบุรีแล้วพระราชทานให้เป็นที่พำนักของเจ้าจอมก๊กออต่อไปในอนาคต แต่ในที่สุดก็ตัดสินพระทัยพระราชทานที่ดินบริเวณริมคลองสามเสนที่เรียกกันว่า“สวนนอก” ซึ่งแบ่งสัดส่วนให้แต่ละคนอย่างเหมาะสมจากนั้นพระองค์จึงทรงมีพระราชดำริให้สร้างพระที่นั่งศรเพชรปราสาท ขึ้นที่ จ.เพชรบุรีอันเป็นบ้านเกิดของเจ้าจอมก๊กออที่ทรงโปรดปราน หมายจะให้เป็นพระราชวังนอกพระนครที่จะสามารถประทับค้างแรมได้สะดวก

เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้ว เจ้าจอมเอื้อนในขณะนั้นมีอายุเพียง 23 ปี ได้ย้ายออกจากพระบรมมหาราชวังไปพำนักอยู่ในตำหนักวังสวนสุนันทาซึ่งปัจจุบันนี้ อาคารนี้มีชื่อว่า “ตึกเอื้อนอาชว์แถมถวัลย์” ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ต่อมาได้ย้ายออกจากตำหนักวังสวนสุนันทา ไปอยู่ที่เรือนสร้างใหม่ริมคลองสามเสน บนที่ดินพระราชทานเจ้าจอมก๊กออร่วมกับบรรดาพี่ๆ เจ้าจอมเอื้อนถึงแก่อสัญกรรมด้วยอาการลิ้นหัวใจรั่ว ในปี 2470 สิริอายุได้ 40 ปี

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา