posttoday

ร.ศ. 112 วิกฤตเอกราช ความขมขื่นของชาติ

14 กรกฎาคม 2556

หากการเสียกรุงศรีอยุธยาทำให้คนไทยได้กลับมาร่วมกันสร้างบ้าน สร้างเมือง ตั้งมั่นยืนหยัดเป็นปึกแผ่นขึ้นมาใหม่

โดย...อภิวัจ สุปรีชาวุฒิพงศ์

หากการเสียกรุงศรีอยุธยาทำให้คนไทยได้กลับมาร่วมกันสร้างบ้าน สร้างเมือง ตั้งมั่นยืนหยัดเป็นปึกแผ่นขึ้นมาใหม่ เหตุการณ์เรือปืนฝรั่งเศสบุกเข้ามาถึงพระนคร เมื่อ พ.ศ. 2436 วิกฤตการณ์ที่ล่อแหลมต่อเอกราชของชาติอย่างยิ่ง ก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนอันสำคัญ ที่ทำให้สยามประเทศต้องเร่งพัฒนาในทุกด้าน เพื่อรับมือกับความท้าทายจากลัทธิล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก

เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “วิกฤต ร.ศ. 112” มูลเหตุจากปัญหาพิพาทที่เมืองคำม่วน ดินแดนลาว ติดเขตแดนเวียดนาม ซึ่งขณะนั้นใน พ.ศ. 2436 หรือรัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) 112 ลาวเป็นดินแดนในอาณัติของสยาม

22 พ.ค. 2436 ทหารฝรั่งเศสในเวียดนามบุกเข้าเมืองคำม่วน พระยอดเมืองขวาง (ขำ ยอดเพชร) ข้าหลวงเจ้าเมืองนำทหารต่อสู้ ทำให้ผู้บังคับบัญชาทหารฝรั่งเศสเสียชีวิต ฝ่ายฝรั่งเศสประท้วงขอให้ไทยส่งตัวพระยอดเมืองขวางให้ฝรั่งเศส แต่ฝ่ายไทยไม่ยอม เรื่องยืดเยื้อมากระทั่งวันที่ 13 ก.ค. 2436 ฝรั่งเศสส่งเรือรบ 2 ลำ และเรือสินค้าซึ่งเป็นเรือนำร่องอีก 1 ลำ เข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา เกิดการยิงปะทะด้วยปืนใหญ่บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เรือนำร่องฝรั่งเศสจม 1 ลำ ทหารฝรั่งเศสเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 3 นาย ส่วนฝ่ายไทย เรือหลวงมกุฎราชกุมารถูกยิงเสียหาย ทหารไทยเสียชีวิต 8 นาย บาดเจ็บ 40 นาย แต่สุดท้ายเรือรบฝรั่งเศสทั้งสองลำก็แล่นผ่านเข้ามาจอดลอยลำอยู่หน้าสถานทูตฝรั่งเศส ย่านเจริญกรุง (ปัจจุบันคือบ้านพักเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ใกล้โรงแรมโอเรียนเต็ล) โดยสมทบกับเรือรบฝรั่งเศสอีก 1 ลำที่จอดลอยลำอยู่ก่อนแล้ว

เรือรบฝรั่งเศสที่เข้ามาถึงพระนคร โดยหันปากกระบอกปืนมาทางพระบรมมหาราชวัง ทำให้ชาวพระนครหวาดกลัวพากันอพยพหนีภัย ฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้ไทยตอบรับใน 48 ชั่วโมง โดยเรียกร้องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (ลาว กัมพูชา) พร้อมเงินสด 3 ล้านฟรังก์ เป็นค่าปรับที่ไทยยิงเรือฝรั่งเศส ระหว่างนั้นฝรั่งเศสเคลื่อนกำลังเข้ายึดเมืองจันทบุรี

วิกฤตการณ์ที่มีเอกราชของชาติเป็นเดิมพัน สร้างความโทมนัสให้แก่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 เป็นอย่างยิ่ง ทรงจำยอมรับเงื่อนไขเพื่อรักษาเอกราชของชาติ

สำหรับเงินค่าปรับ 3 ล้านฟรังก์นั้น แม้จะนำ “เงินถุงแดง” หรือเงินพระคลังข้างที่ ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเก็บสะสมกำไรจากการส่งสำเภาไปค้าขายกับต่างชาติเอาไว้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ต่างรวบรวมทรัพย์สินเข้าสมทบจนครบ โดย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าละม่อม กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร เสด็จอาของสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระราชมารดาในรัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงเลี้ยงดูล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เป็นพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงบริจาคสมทบมากที่สุด

เงินค่าปรับที่จ่ายให้ฝรั่งเศสนั้น เป็นเหรียญทองเม็กซิโกรวมทั้งหมด 801,282 เหรียญ ซึ่ง 1 เหรียญเท่ากับ 3.2 ฟรังก์ น้ำหนักของเงินเหรียญทั้งหมดรวมกันกว่า 23 ตัน ต้องขนกันทั้งวันทั้งคืนใส่รถออกจากประตูต้นสน พระบรมมหาราชวัง ไปลงเรือที่ท่าราชวรดิษฐ์ เพื่อให้ทันตามกำหนดที่ฝรั่งเศสยื่นคำขาด ล้อรถเที่ยวแล้วเที่ยวเล่าที่บรรทุกน้ำหนักเงินเหรียญ 23 ตันนั้น กดทับจนทำให้หินปูถนนเกิดรอยสึก

สมชาย ชัยประดิษฐรักษ์ นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรปราการ และ พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เห็นตรงกันว่า การรบที่ป้อมพระจุลจอมเกล้านั้น นายทหารผู้บัญชาการป้อมปืนและเรือรบฝ่ายไทย ล้วนเป็นฝรั่งต่างชาติทั้งสิ้น ทำให้อาจไม่มีจิตใจสู้รบปกป้องเอกราชเท่าคนไทยเจ้าของแผ่นดิน

“ไม่เพียงแต่นายทหารเรือ แต่สมัยนั้นฝรั่งต่างชาติยังเป็นผู้ดูแลกิจการต่างๆ ทั้งโทรเลข และรถไฟอีกด้วย เพราะเป็นช่วงที่กำลังเริ่มพัฒนาประเทศ หลังวิกฤตการณ์ครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงส่งพระเจ้าลูกยาเธอไปศึกษาวิชาการสมัยใหม่ทุกด้านในทวีปยุโรป เพื่อกลับมาพัฒนาประเทศ จนทำให้เรายืนหยัดได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นคง นี่คือคุณูปการสำคัญของวิกฤต ร.ศ. 112” สมชาย กล่าว

แม้จะทรงโทมนัสดังทรงมีพระราชหัตถเลขา ส่งพระราชนิพนธ์ถึงพระบรมวงศ์ใกล้ชิดตอนหนึ่งว่า

“เจ็บนานนึกหน่ายนิตย์ มนะเรื่องบำรุงกาย

ส่วนจิตบ่มีสบาย ศิระกลุ้มอุราตรึง

แม้หายก็พลันยาก จะลำบากฤทัยพึง

ตริแต่จะถูกรึง อุระรัดและอัตรา

กลัวเป็นทวิราช บตริป้องอยุธยา

เสียเมืองจะนินทา จึงจะอุดและเลยสูญฯ”

แต่พระปรีชาญาณของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ก็นำพาชาติบ้านเมืองผ่านพ้นภัยมาได้ วิกฤต ร.ศ. 112 ผ่านไปแล้ว 120 ปี ความเจ็บปวดในอดีตมิใช่เพื่อผูกแค้นสืบไป แต่ควรจะเป็นบทเรียนให้คนไทยตระหนักถึงการปรับตัวและเตรียมพร้อม เพื่อรับความท้าทายที่อาจจะเข้ามาเผชิญได้ทุกเมื่อ

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท