posttoday

เขมรยอมถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาทหลังปะทะเดือด

18 เมษายน 2553

ทหารไทย-กัมพูชาเจรจายุติเหตุปะทะเดือดชายแดนสุรินทร์ เขมรยอมถอนกำลังออกจากพื้นที่ ส่วนทหารพรานหายไป 1 นาย พบตัวแล้ว

ทหารไทย-กัมพูชาเจรจายุติเหตุปะทะเดือดชายแดนสุรินทร์ เขมรยอมถอนกำลังออกจากพื้นที่ ส่วนทหารพรานหายไป 1 นาย พบตัวแล้ว

พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผอ.กองกิจการพลเรือนกองทัพภาคที่ 2  กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาที่บริเวณหลักเขตแดนที่ 13-14 ช่องโชกและช่องปลิง ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ว่า วันนี้ (18 เม.ย.) พล.ต.ชวลิต ชุนประสาน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) ได้เจรจาร่วมกับ พ.อ.จุมสะไรย์ รองหัวหน้าสำนักงานกิจการชายแดนภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา เพื่อยุติการยิงต่อสู้กันของทหารทั้ง 2 ฝ่ายแล้วโดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมประชุมสรุปความเสียหาย พร้อมทั้งให้ถอนกำลังออกนอกพื้นที่พิพาท และไม่ให้ฝ่ายกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเข้ามายังเขตแดนไทย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย และทางฝ่ายกัมพูชายินดีปฏิบัติตามข้อตกลง ขณะที่ ผบ.กกล.สุรนารี ได้ย้ำให้ทหารในพื้นที่ทั้ง 2 ฝ่ายห้ามมีเหตุการณ์ปะทะกันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2

สำหรับสถานการณ์ในวันนี้ ทหารทั้ง 2 ฝ่ายก็ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ซึ่งไม่มีความตึงเครียดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ทหารไทยก็ยังคงลาดตระเวนตามพื้นที่ตามแนวชายแดนเช่นเคย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิดระหว่างกัน และจากนี้ไปเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายทำความเข้าใจกันแล้วบรรยากาศก็จะดีขึ้น

ส่วนกรณีที่ทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 2608 หายตัวไประหว่างการสู้รบกับทหารกัมพูชาจำนวน 1 นายนั้น ล่าสุดทหารไทยชุดเข้าเคลียร์พื้นที่หลังการสู้รบได้พบตัวทหารพรานคนดังกล่าวแล้ว เนื่องจากเดินทางหลงป่าขณะสู้รบอยู่ในเขตแดนไทย ด้วยสภาพร่างกายที่ปลอดภัย โดยขณะที่เกิดการปะทะกันนั้นได้หลบเพื่อหาที่ปลอดภัยจึงทำให้พลัดหลงกัน

ทั้งนี้ ผู้นำทางทหารในพื้นที่ชายแดนทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา ได้นัดเจรจาหารือและร่วมรับประทานอาหารกันอีกครั้ง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและลดความตึงเครียดตามพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมสร้างความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวต่อกัน โดยเฉพาะที่บริเวณตลาดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ต่อไป

ด้านพ.ต.ต.อนันต์ ทองสุข สารวัตรด่านชายแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า บรรยากาศบริเวณด่านชายแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ยังคงมีนักพนันและนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นปกติ โดยไม่หวาดกลัวและหวาดวิตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งการค้าขายในพื้นที่ก็ยังคงดำเนินไปตามปกติ ผิดจากทางกัมพูชาซึ่งหากมีเหตุการณ์กระทบกันระหว่างประเทศ ชาวกัมพูชาที่เข้ามาค้าขายบริเวณชายแดนไทยจะรู้ข่าวเร็วมากและจะเร่งเก็บสินค้าปิดร้านกลับเข้าประเทศทันที

ส่วนมาตรการดูแลและรักษาความปลอดภัยบริเวณด่านชายแดน ทางผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ตรวจบุคคลที่เข้าออกประเทศอย่างละเอียดและเข้มงวดมากขึ้น เพื่อควบคุมการลักลอบเข้าเมืองและการก่อเหตุไม่สงบ

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (17 เม.ย.) เกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 2608 ฐานปฏิบัติการช้างดำหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 ฝ่ายไทยกับกองกำลังทหารและตำรวจตระเวนชายแดนที่ 402 กัมพูชา ที่บริเวณหลักเขตแดนที่ 13-14 ช่องโชกและช่องปลิง ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ตรงข้ามกับหมู่บ้านจ็อมกาเจก ซึ่งเป็นหมู่บ้านกันชนชายแดนก่อตั้งใหม่ ต.โอร์เสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ขณะที่ทหารไทยนำกำลังออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และไปพบกับทหารกัมพูชารุกล้ำเขตแดนไทยและปลูกสร้างบ้านเรือนในพื้นที่ชายแดนที่ไม่มีการปักปันเขตแดนอย่างชัดเจน จนเป็นเหตุให้ปะทะกันนานเกือบชั่วโมง โดยจุดปะทะห่างจากด่านถาวรช่องจอมไปทางทิศตะวันออกเพียง 8 กิโลเมตร และต่อมาได้เกิดการปะทะกันขึ้นอีกเป็นระลอกที่ 2 นานประมาณ 15 นาที

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี