'มาร์ค' โผล่หัวหินดอดพบลูกเมียตร.เพิ่มข้อหาแกนนำนปช.หลบหนี
หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หายหน้าหายตาไปเกือบ 1 สัปดาห์ นับตั้งแต่เกิดเหตุปะทะเมื่อวันที่ 10 เม.ย. และได้ออกมาแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยอีกครั้งในวันที่ 16 เม.ย. จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 17 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ก็ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน เดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพบกับครอบครัวที่ไปรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เข้ามาร่วมประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) รอบค่ำวันที่ 17 เม.ย. ที่เริ่มในเวลา 20.00 น. และมีรายงานด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ได้นอนพักค้างคืนอยู่กับครอบครัวที่หัวหิน และคาดว่าจะเดินทางกลับมาที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ในวันที่ 18 เม.ย.
ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น. เปิดเผยว่า ขณะนี้ฝ่ายสอบสวนกำลังดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่หลบหนีการจับกุม ซึ่งกำลังพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดในข้อหาใดบ้าง
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า กลุ่มแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่หนีรอดจากการถูกจับกุมที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค ถือว่าไม่ใช่ข้อผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ หากจับกุมไม่สำเร็จก็สามารถตามจับใหม่ได้ แต่ต้องมีการปรับปรุงการทำงานให้มีความชัดเจนมากขึ้น
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ความล้มเหลวในการบุกจับตัวแกนนำกลุ่ม นปช. มาจาก 4 เงื่อนไข คือ 1.การข่าวรั่วไหล ทำให้แกนนำไหวตัวทัน 2.ทางโรงแรมให้การช่วยเหลือผู้กระทำผิดและประวิงเวลาจนหลบหนีไปได้ 3.เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงไม่ได้ และ 4.บริษัทโทรคมนาคมแห่งหนึ่งส่งข้อความเอสเอ็มเอสให้มวลชนกลุ่มคนเสื้อแดงมาปิดล้อมโรงแรม
“
รัฐบาลมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย จะไม่ปล่อยให้ลอยนวลอย่างแน่นอน และขอให้ประชาชนมั่นใจการทำหน้าที่ของรัฐบาล แม้วันนี้อาจไม่ประสบความสำเร็จ แต่พรุ่งนี้หรือวันต่อๆ ไปอาจจะสำเร็จ เพราะวันพระที่ไม่ได้มีหนเดียว” นายเทพไท กล่าวนายเสงี่ยม บุญจันทร์ เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่เข้าไปช่วยเหลือแกนนำให้หลบหนีการจับกุมถือว่ามีความผิดอย่างชัดเจน ฐานขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากผู้กระทำผิดมีการใช้กำลังเพื่อประทุษร้ายร่วมด้วย จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ นายเสงี่ยม กล่าวว่า การปฏิบัติงานของหน่วยคอมมานโดในการล้อมจับแกนนำกลุ่ม นปช. เป็นปฏิบัติการตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจหน้าที่ในการจับกุมตัวผู้ที่กระทำความผิดได้
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า มีความห่วงใยว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงยึดและนำไปตั้งบนเวทีกลุ่มคนเสื้อแดงจะถูกหยิบฉวยไปสร้างสถานการณ์ความรุนแรง และโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่หรือคนเสื้อแดง จึงขอให้แกนนำรีบนำมาคืนโดยด่วน


