posttoday

พงศ์เทพ เทพกาญจนาลูกไม้ที่หล่นไกลต้น?

11 เมษายน 2553

เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงยกขบวนมาอยู่บริเวณสี่แยกราชประสงค์เพื่อกดดันให้รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยุบสภานั้น ว่ากันว่าโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งในย่านนั้น แม้จะได้รับผลกระทบกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ถึงขนาดแขกที่เข้าไปพักในโรงแรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติจะพากันย้ายออกจากโรงแรม หนีผู้ชุมนุมออกไปอยู่ที่อื่น และห้องอาหารของโรงแรมที่เป็นส่วนซึ่งทำรายได้เป็นอย่างมากมาให้แก่โรงแรมแห่งนั้น ก็มีอันต้องสั่งปิดบริการ แต่โรงแรมแห่งนั้นก็ยังได้กลายเป็นที่พักพิงอันสุขสบายของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงพร้อมกับเป็นสถานที่ในการประชุมวางแผนการเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอีกด้วย

โรงแรมใหญ่ในย่านนั้นมีสายสัมพันธ์อย่างไรกับกลุ่มคนเสื้อแดงเราก็น่าจะมาดูความเป็นไปเป็นมาของหนุ่มหน้าใสที่ได้ชื่อว่าเป็นเขยขวัญของตระกูลเศรษฐี ที่ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ทำมาหากินอย่างมีความสุข มีหน้ามีตาในสังคมไทยที่เป็นหุ้นใหญ่ในโรงแรมแห่งนั้นดู

หนุ่มหน้าใสที่ว่านี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ พงศ์เทพ เทพกาญจนา มหาไพร่ในสังกัดมูลนายของ ทักษิณ ชินวัตร อีกคน

พงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นคนมหาชัย เกิดเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2499 เป็นบุตรหัวแก้วหัวแหวนของ สุรินทร์ และวรารัตน์ เทพกาญจนา คหบดีผู้เป็นที่นับหน้าถือตาของมหาชัย เมื่อเรียนจบการศึกษาชั้นต้นแล้วก็ไปต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของปรางทิพย์ นพรัมภา ภรรยาของธีรพล นพรัมภา อดีตเลขานุการคนสนิทของสมัคร สุนทรเวช จากนั้นก็เข้าศึกษาต่อที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สอบได้เนติบัณฑิตไทย และได้ปริญญาโท Master of Comparative of Law จากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา

ด้วยเหตุที่สุรินทร์ เทพกาญจนา ผู้เป็นบิดาซึ่งสืบเชื้อสายชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่อพยพเข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย มีต้นตระกูลเดิมเป็นคนแซ่เฮ้ง เมื่อสามารถทำมาหากินตั้งเนื้อตั้งตัวสืบทอดมาถึงลูกหลาน จนกลายเป็นคนมีหน้ามีตาเป็นที่ยอมรับนับถือของผู้คนในท้องถิ่น สุรินทร์ เทพกาญจนา นอกจากจะได้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสาครแล้ว ยังก้าวเข้าสู่การเมืองระดับชาติด้วยการเข้าเป็นสมาชิกพรรคสหประชาไทยของจอมพลถนอม กิตติขจร และเข้าเป็นสมาชิกพรรคกิจสังคม ในสมัยที่ พล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นหัวหน้าพรรค เป็นนักการเมืองรุ่นใหญ่รุ่นเดียวกันกับ บุญเท่ง ทองสวัสดิ์ และทองหยด จิตตะวีระ ทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สมุทรสาคร หลายสมัยในสังกัดพรรคกิจสังคม ทำให้บ้านซอยสวนพลูของ พล.ต.ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช มีโอกาสได้ต้อนรับสุรินทร์และวรารัตน์ เทพกาญจนา คหบดีสองสามีภรรยา ที่นำอาหารการกินอันอุดมสมบูรณ์จากเมืองสมุทรสาครมากราบเยี่ยม พล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อยู่เสมอ ซึ่งนอกจากสุรินทร์และวรารัตน์จะเป็นคู่สามีภรรยาผู้น่ารักแล้ว วัตรปฏิบัติของคนทั้งคู่ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นคนไทยในสังคมเดิม ยึดมั่นอยู่ในวัฒนธรรมเก่า ที่ตั้งตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหา กษัตริย์อย่างแท้จริง ไม่เคยยอมตนเป็นทาสของใครเพียงเพื่อจะหาประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้องเลยแม้แต่น้อย

ในส่วนของพงศ์เทพ เทพกาญจนา ผู้เป็นบุตรชาย เมื่อสำเร็จการศึกษาทางด้านกฎหมายแล้ว ก็เข้ารับราชการเป็นผู้พิพากษาในกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดสกลนคร ผู้พิพากษาศาลจังหวัดสมุทรปราการ ผู้พิพากษาประจำกระทรวง ช่วยงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้อำนวยการกองวิชาการกระทรวงยุติธรรม รองเลขาธิการส่งเสริมงานตุลาการด้านการ เมือง โฆษกกระทรวงยุติธรรม และผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกระทรวง และช่วยงานตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดชลบุรี แผนกคดีเด็กและเยาวชน

ด้วยหน้าที่การงานอันเป็นที่น่าเชื่อถือ ทำให้หนุ่มหน้าใสผู้มีอนาคตไกล อีกทั้งยังมีฐานะครอบครัวที่มิได้น้อยหน้า มีสาวสวยมากหน้าหลายตาให้ความสนใจอยากจะมาใกล้ชิด แต่หนุ่มหน้าใสก็มิได้ตกร่องปล่องชิ้นกับสาวใด จนมาพบและถูกใจกับสาวสวย รวยทรัพย์ ที่ชื่อพนิดา วัธนเวคิน ลูกสาวของเกียรติและจรรย์สมร วัธนเวคิน เจ้าของกิจการบริษัท น้ำตาลตะวันออก อัมรินทร์พลาซ่า และโรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ พงศ์เทพ เทพกาญจนา จึงตัดสินใจสละโสด ครองชีวิตสมรสกับ พนิดา วัธนเวคิน มาด้วยดี จนกลายเป็นเขยขวัญที่ เกียรติและจรรย์สมร วัธนเวคิน รักและวางใจเป็นอย่างยิ่ง

หลังจากรับราชการเป็นผู้พิพากษามาพอสมควรแล้ว ความใฝ่ฝันที่เดินตามรอยเท้าพ่อ สุรินทร์ เทพกาญจนา เพื่อสืบทอดการเป็นนักการเมืองได้เป็นรัฐมนตรีเหมือนพ่อ พงศ์เทพ เทพกาญจนา จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังธรรมของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต 8 ถึงจะผิดหวังเพราะสอบตก แต่พงศ์เทพ เทพกาญจนา ก็มิได้ย่อท้อ ยังคงทุ่มเททำงานกับพรรคพลังธรรมอย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นนักการเมืองหนุ่มที่มีภาพลักษณ์ดี เมื่อพรรคพลังธรรมมีเหตุจะต้องสลายลงไป เพราะทักษิณ ชินวัตร ปรารถนาจะตั้งพรรคการเมืองของตนใหม่ พงศ์เทพ เทพกาญจนา ก็ตัดสินใจเข้าร่วมหัวจมท้ายกับทักษิณ ชินวัตร ช่วยก่อตั้งพรรคไทยรักไทยจนได้ดำรงตำแหน่ง

รองเลขาธิการพรรค ต่อมาเมื่อพรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล พงศ์เทพ เทพกาญจนา ได้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นที่รักและมีความใกล้ชิดกับ ทักษิณ ชินวัตร และพจมาน เป็นอย่างมาก

ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรงยุติธรรมอยู่นั้นเอง ก็เป็นที่กล่าวขวัญกันว่า พงศ์เทพ เทพกาญจนา นอกจากจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มหน้าใส รวยทรัพย์ รวยเสน่ห์แล้ว ยังมีความขยันขันแข็ง จนแบ่งเวลาไม่ถูก ทั้งยังประพฤติปฏิบัติตัวเสมือนดังคนไม่มีห่วงไม่มีภาระ จนพนิดาผู้ภริยาอดรนทนไม่ไหว ต้องออกไปแสดงตัวให้เป็นที่ประจักษ์ถึงกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้คนทั้งหลายได้เข้าใจว่า รัฐมนตรีพงศ์เทพ เทพกาญจนา มิใช่คนตัว เปล่าอย่างที่ใครๆ เข้าใจ แต่ได้มีเจ้าของอย่างถูกต้องตามกฎหมายชนิดที่ของๆ ข้าใครอย่าแตะเลยทีเดียว จนเป็นที่ฮือฮาและเล่าขานกันมาในกระทรวงยุติธรรมมาถึงทุกวันนี้

ภายหลังเมื่อพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค พงศ์เทพ เทพกาญจนา ก็ได้เป็นหนึ่งใน 111 คณะกรรมการบริหารพรรคที่ถูกพิพากษาให้เว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ทั้งยังได้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ซึ่งก่อตั้งขึ้นมา โดยไม่ค่อยจะมีกิจกรรมอะไรที่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดแก่สังคม โดยส่วนรวมเลยนอกจากจะเป็นแหล่งซ่องสุมของบรรดานักการเมืองอกหักซึ่งพยายามวางแผนหาหนทางทุกวิธีทางที่จะให้ตนและพวกพ้องได้กลับมาเสวยอำนาจใหม่

จากนักการเมืองที่มีภาพลักษณ์ที่ดี อีกทั้งยังเป็นทายาทของสุรินทร์ เทพกาญจนา นักการเมืองรุ่นเก่าผู้มีสำนึกดีต่อชาติบ้านเมืองที่ไม่เคยตกเป็นเครื่องมือของคนโกงผู้ฉ้อฉลและทรยศต่อชาติบ้านเมืองอันเป็นแผ่นดินถิ่นกำเนิด แต่วันนี้พงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตผู้พิพากษา กลับยอมตนเป็นไพร่ในสังกัดมูลนายของอัครมหาไพร่ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งศาลสถิตยุติธรรมได้พิพากษาแล้วว่าเป็นผู้ทุจริตประพฤติมิชอบต่อผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง สิ่งนี้ได้ทำลายภาพลักษณ์อันดีงามของตระกูลเทพกาญจนา ที่สุรินทร์ เทพกาญจนา ได้สั่งสมมาเป็นเวลานาน ชนิดที่ผู้คนที่รักนับถือสุรินทร์และวรารัตน์ เทพกาญจนา คาดไม่ถึง

เพราะความคาดไม่ถึงนี่เองจึงไม่น่าแปลกใจที่โรงแรมใหญ่ในย่านราชประสงค์ของคนในตระกูลมหาเศรษฐีตระกูลหนึ่ง พร้อมที่จะสูญเสียผลประโยชน์ทางธุรกิจสมยอมให้คนเสื้อแดงใช้โรงแรมแห่งนั้นเป็นกองบัญชาการ เพื่อให้บรรลุเจตนาของแดงตัวพ่อ ภายใต้การชี้นำของอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ด้วยความคาดหวังว่าเมื่อแดงทั้งแผ่นดินประสบชัยชนะ พงศ์เทพ เทพกาญจนา ก็คงจะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินตามเขาไปด้วย

ข่าวล่าสุด

ไรเดอร์ ยังมีเวลา ETDA ขยายเวลาบังคับใช้กฎหมาย DPS ถึง 31 มี.ค.69