posttoday

กู้เงิน 2 ล้านล้าน ไม่ง่ายอย่างที่คิด

26 มีนาคม 2556

ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ หรือ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท

โดย...ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย

ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ หรือ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท กลายเป็นวิวาทะการเมืองที่ร้อนที่สุดในรอบหลายวันที่ผ่านมาไม่แพ้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ

รัฐบาลพรรคเพื่อไทยหมายมั่นปั้นมือกับกฎหมายกู้เงินฉบับนี้ไว้ค่อนสูงว่าจะเป็นผลงานชิ้นโบแดง เพื่อหวังว่าหากวางไม้หมอนรถไฟความเร็วสูงได้เมื่อไหร่ จะกลายเป็นนโยบายและผลงานให้กับพรรคสำหรับหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ในอีก 2 ปีข้างหน้าทันที

เรียกได้ว่า กลบพิมพ์เขียวประเทศไทยของพรรคประชาธิปัตย์ที่เตรียมเอาไว้เป็นจุดขายเลือกตั้งใหญ่เหมือนกันไปโดยปริยาย

ด้วยความหวังที่ตั้งไว้สูงนี่เอง ทำให้พรรคเพื่อไทยถึงจะต้องกวดขันในเรื่องวินัยของ สส.รัฐบาลทุกพรรคค่อนข้างหนัก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์องค์ประชุมสภาล่มซ้ำซากเหมือนครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

มาตรการที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นำมาใช้ คือ การขอความร่วมมือ สส.งดภารกิจการเดินทางไปต่างประเทศในระยะนี้ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมไปถึงการงดประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ในบางครั้ง ถ้าไม่ใช่วาระสำคัญ

เพราะนอกจากมีภารกิจพิจารณากฎหมายกู้เงินวาระที่ 1 แล้วยังต้องลากยาวไปถึงการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระที่ 1 เช่นกัน

ทั้งนี้ วิปรัฐบาลได้คาดโทษเอาไว้ว่า ถ้า สส.คนใดขาดประชุมโดยไม่มีเหตุผลหรือไม่ได้แจ้งล่วงหน้า จะรายงานไปยังหัวหน้าพรรคของแต่ละพรรคให้รับทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าว

โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยตั้งกฎเหล็กถึงขั้นจะพิจารณาไม่ส่ง สส.ที่ขาดประชุมลงสมัครในการเลือกตั้ง

จากแนวทางทั้งหมด พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจว่ากฎหมายกู้เงินน่าจะผ่านขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎรไปได้ เช่นเดียวกับ “วุฒิสภา” พรรคเพื่อไทยก็ประเมินไม่ต่างกันว่าสภาสูงคงไม่ขัดข้องอะไรกับการกู้เงิน

รัฐบาลมีฐาน สว.ในมืออยู่ประมาณ 60 เสียง จาก สว.ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เหลือเพียงการส่งรัฐมนตรีประสานงาน สว.บางกลุ่มให้เข้าใจ

แม้ว่าอาจจะมี สว.บางกลุ่มอย่างกลุ่ม 40 สว. คอยขัดขาอยู่บ้าง แต่ถึงที่สุดแล้วน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ

อย่างไรก็ตาม เสียงในสภาอาจไม่ได้เป็นปัญหากับรัฐบาลในฐานะผู้กุมเสียงข้างมากทั้งสภาบนและสภาล่าง แต่สำหรับเสียงนอกสภายังคงเป็นเรื่องยากที่พรรคเพื่อไทยจะควบคุมได้

โดยทั้งพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่ม สว. เตรียมใช้ช่องทาง “ศาลรัฐธรรมนูญ” สกัดอภิมหาการกู้เงินของรัฐบาล

ประเด็นสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะนำมาหักล้าง คือ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงินขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 169

มาตรา 169 มีเนื้อหาพอสังเขปว่า “การจ่ายเงินแผ่นดินจะกระทำได้ก็เฉพาะที่ได้อนุญาตไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ กฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ หรือกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง เว้นแต่ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนรัฐบาลจะจ่ายไปก่อนก็ได้ แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ”

ทั้ง สว.และพรรคประชาธิปัตย์ ตีความการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ว่าไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากการใช้เงินเพื่อประโยชน์ของสาธารณะนั้นรัฐจะกระทำได้ผ่านกฎหมาย 4 ฉบับ ตามมาตรา 169 เท่านั้น

ประกอบกับสาระสำคัญของกฎหมายยังมีบทบัญญัติที่ไปจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เห็นได้ชัดจากมาตรา 14 ที่ให้อำนาจสิทธิขาดกับคณะรัฐมนตรีสามารถพิจารณาอนุมัติโครงการได้ โดยไม่ได้ให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสิน

ไม่เพียงเท่านี้ สว.กำลังเล็งยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ที่ผ่านรัฐสภาด้วย

เป็นเพราะสาระของร่าง พ.ร.บ.ร่วมทุน ไปขัดกับหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนเช่นกัน

กฎหมายร่วมทุนมีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายกู้เงิน เพราะโครงการ 2 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชนที่ต้องเข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย หากร่าง พ.ร.บ.ร่วมทุนฉบับใหม่ต้องตกม้าตาย ย่อมกระเทือนต่อรัฐบาลอย่างแน่นอน

ทุกข้อกล่าวหาไม่ได้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของพรรคเพื่อไทย โดยได้เตรียมแนวทางการชี้แจง หากศาลรัฐธรรมนูญรับคดีนี้ไว้วินิจฉัย

ด้วยการนำประเด็นในลักษณะที่ว่า “หากไม่ดำเนินการกู้เงินตามกฎหมายจะกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ”

เหมือนที่เคยยกข้อกล่าวอ้างต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อครั้งชี้ชะตา พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท จนเอาตัวรอดได้มาแล้ว

งานนี้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ยอมทุ่มสุดตัวที่การกู้เงินต้องผ่านให้ได้ เพื่อเป็นเครื่องมือรักษาอำนาจพรรคเพื่อไทยในระยะยาว

ข่าวล่าสุด

SCB WEALTH กวาด 6 รางวัลระดับโลก สะท้อนความเป็นเลิศในทุกมิติการบริหารความมั่งคั่ง