จับแม่เล้าเขมรค้ากามเด็ก11ขวบให้ฝรั่ง
ปคม.ช่วยเหลือเด็กหญิง 11 ปีถูกแม่เล้าชาวกัมพูชาส่งค้าบริการทางเพศให้ฝรั่งย่านซอยคาวบอย
ปคม.ช่วยเหลือเด็กหญิง 11 ปีถูกแม่เล้าชาวกัมพูชาส่งค้าบริการทางเพศให้ฝรั่งย่านซอยคาวบอย
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม.สั่งการพ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม.นำกำลังจับกุมนางเปา ไม่ทราบนามสกุล อายุ 32 ปี สัญชาติกัมพูชา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 308/2556 และ น.ส.ฉัตร์ศิริ หรือสุดา ทองดี อายุ 46 ปี ชาว จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 309/2556 ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปซึ่งบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น ใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้าย ข่มขืนใจด้วยประการใด และพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นางเปา ได้ที่ซอยคาวบอย ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กทม.ส่วน น.ส.ฉัตร์ศิริ จับกุมได้ที่ห้องเลขที่ 210 เอสเอ็มอพาร์ทเม้นท์ ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.
พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LRPNF) ประสานข้อมูลมายัง บก.ปคม.ว่า นางเปา กับพวก มีพฤติการณ์ลักลอบพาเด็กหญิงไปค้าประเวณีให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งพบว่า นางเปา ได้พา ด.ญ.อ้อ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี สัญชาติกัมพูชา ไปค้าประเวณีให้กับนายโจเก้น อายุ 65 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติสวีเดน โดยมี น.ส.ฉัตร์ศิริ คอยทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษา เหตุเกิดที่โรงแรมร่วมจิต ซอยคาวบอย ถนนสุขุมวิท ซอย 13 เขตวัฒนา กทม.เมื่อวันที่ 2-5 ก.พ. ต่อเนื่องกัน จากนั้นชุดสืบสวนจึงขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง รวมทั้งนายโจเก้น ผู้ซื้อบริการเด็กในครั้งนี้ด้วย
สอบสวนนางเปา ให้การว่า ไม่ได้หลอกลวง ด.ญ.อ้อ เพียงแต่ นางซาเวือน แก้ว สัญชาติกัมพูชา แม่ของเด็ก ได้ฝาก ด.ญ.อ้อ ไว้ เนื่องจากต้องเดินทางกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด ต่อมานักท่องเที่ยวคนดังกล่าวจึงมาติดต่อซื้อบริการดังกล่าว ซึ่งไม่ได้เรียกเก็บเงินกับเด็กแต่อย่างใด
ขณะที่ น.ส.ฉัตรศิริ ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ทำงานในย่านซอยคาวบอย โดยเป็นล่ามแปลภาษาให้นายโจเก้น ได้เงินค่าตอบแทน 3,000 บาท โดยทางนายโจเก้น ได้เปิดห้องพักไว้ที่โรงแรมร่วมจิต 2 ห้อง แต่ไม่ทราบว่ามีการซื้อบริการทางเพศเด็ก ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป
สำหรับนายโจเก้น ตามแนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่ทราบว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศไทยไปแล้ว โดยพบประวัติผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมชอบซื้อบริการทางเพศกับเด็ก และมีการถ่ายวีดีโอ เอาไว้สำหรับนำไปเผยแพร่ในต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหาย ได้ประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับตัวไปฟื้นฟูสภาพจิตใจและช่วยเหลือเรื่องที่พักอาศัยชั่วคราวต่อไป


