ตร.เปลี่ยนแฟลต-บ้านเป็นโรงพักชั่วคราว

ตร.อ่วมพิษพีซีซีเปลี่ยนแฟลต/บ้านพักเป็นโรงพักชั่วคราว ใช้รถบรรทุกเป็นที่ขังผู้ต้องหา หวั่นเลิกสัญญาค่าก่อสร้างพุ่ง กมธ.จี้ฟ้องค่าเสียหายย้อนหลัง  

เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาฯ พิจารณาเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการก่อสร้างที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลังวงเงินงบประมาณ 5,848 ล้านบาทของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ส่อเค้าทุจริตโดยเชิญตัวแทนจากตำรวจภูธรภาค 3 และภาค 4 เข้าชี้แจง

พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชาญพนา ผบก.อก.ภ.3 เปิดเผยว่า กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัดมีการก่อสร้างที่ทำการสถานีตำรวจอยู่ในโครงการถึง 61 หลัง แบ่งเป็นขนาดใหญ่ 7 หลัง ขนาดกลาง 16 หลังและขนาดเล็ก 38 หลังโดยทั้งหมดล้วนก่อสร้างไม่แล้วเสร็จทันระยะเวลาที่กำหนด ที่ผ่านมายอมรับว่าโครงการก่อสร้างที่ทำการตำรวจไม่เคยมีการประมูลรวมจากส่วนกลางมาก่อน หากแบ่งประมูลรายกองบัญชาการ 1-9 ตามเดิมเชื่อว่าสามารถสร้างได้แล้วเสร็จตามโครงการ

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในจำนวนที่ทำการตำรวจ 61 หลังมี 18 หลังที่เป็นโครงการแบบรื้อถอน ส่งผลให้ช่วงที่การก่อสร้างที่ทำการแห่งใหม่ไม่แล้วเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการดัดแปลงบ้านพักหรือแฟลตตำรวจเป็นที่ทำการชั่วคราวส่งผลให้เกิดความแออัดคับแคบแก่ผู้ที่เดินทางมาร้องทุกข์

ขณะเดียวกันในส่วนห้องขังนั้นทางเจ้าหน้าที่ต้องนำผู้ต้องหาขังในรถบรรทุกตลอด 24 ชม.เมื่อผู้ต้องหาอยากเข้าห้องน้ำต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยนำไป สร้างความลำบากอย่างยิ่ง

ด้านพล.ต.ต.พนมพร อิทธิประเสริฐ ผบก.อก.ภ.4 กล่าวว่า ในพื้นที่ภาค 4 มีโครงการก่อสร้างที่ทำการตำรวจ 9 หลังโดยขณะนี้ไม่เสร็จแม้แต่หลังเดียว ทั้งนี้ในจำนวน 99 หลังมีทั้งสิ้น 44 หลังที่ถูกรื้อถอนก่อสร้างใหม่ หลายจังหวัดจึงต้องอาศัยบ้านพักของผู้กำกับการ อาคารของมหาวิทยาลัย หรืออาคารของสำนักงานที่ดินจังหวัดเป็นที่ทำการชั่วคราว ถือเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่เจ้าหน้าที่พนักงานเนื่องจากเป็นความผิดของคู่สัญญาที่ไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จทัน ดังนั้นจึงมีการเสนอว่าควรยกเลิกสัญญา แต่เกรงว่าด้วยค่าสินค้าและค่าแรงที่ขึ้นราคาในขณะนี้อาจส่งผลให้ค่าก่อสร้างของโครงการเพิ่มสูงขึ้น 30%

พ.ต.อ.บุญลือ กงแล ผกก.ฝ่ายโยธาธิการ 1 กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง กล่าวว่า การที่บริษัทคู่สัญญา คือ พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ เเอนด์ คอนสตรัคชัน จำกัดก่อสร้างที่ทำการสถานีตำรวจไม่แล้วเสร็จทันเวลานั้นทางบริษัทต้องจ่ายค่าปรับโดยผู้เสียหายสามารถให้อัยการฟ้องร้องคิดค่าเสียหายได้ โดยให้นิติกรประสานงานกับทางอัยการเพื่อหารือถึงค่าเสียหายที่คู่สัญญาต้องจ่ายได้

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน กมธ. กล่าวว่า นอกจากค่าปรับที่ทางคู่สัญญาต้องจ่ายแล้ว ต้องการทราบว่าทางสถานีตำรวจแต่ละแห่งใช้งบประมาณส่วนใดในการปรับปรุงบ้านหรืออาคารอื่นเป็นโรงพักชั่วคราว เพราะเชื่อว่าไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางส่งไปให้ โดยงบส่วนนี้ควรเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทคู่สัญญา อีกทั้งค่าเสียหายจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องประสบความเดือดร้อนจากความแออัดในสถานที่และไม่สะดวกในการควบคุมผู้ต้องหาตามที่กล่าวมานั้น สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ทั้งหมด