เนื้อหมูพิษณุโลกพุ่งกก.150บ.

เนื้อหมูเมืองพิษณุโลกราคาพุ่งกก.ละ150บาทเหตุหน้าฟาร์มราคาขับรับตรุษจีน ขณะที่ผักราคาลดลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้ลงพื้นที่สำรวจตลาดสดในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก พบว่า เขียงหมูมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสาเหตุมาจากหมูเป็นมีการปรับราคาสูงขึ้นกิโลกรัม 69-70 บาท  ทำให้เขียงหมูมีการปรับราคาสูงขึ้นตามไปด้วย โดยจำหน่ายกิโลกรัม 120-150 บาท ซึ่งแตกต่างกันไปแต่ละตลาด โดยเฉพาะตลาดร่วมใจและตลาดบ้านคลอง เนื้อหมูราคาสูงกิโลกรัมละ 150 บาท จากปกติราคาอยู่ที่ 110 บาท เท่านั้น
 
นางประเทือง ศรีเจริญจิตร์  แม่ค้าหมูสด เจ้าของเขียงโกยี-เจ๊เทือง หมูสด ตลาดเทศบาล 1 ตลาดใต้ กล่าวว่า บรรยากาศขายเนื้อหมูค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากมีการปรับราคาเนื้อหมูจากฟาร์มสูงขึ้น โดยหมูเป็นอยู่ที่ตัวละ 6,000-7,000 บาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 74  บาท จากปกติหมูเป็นหน้าฟาร์มจะอยู่ที่ 63 บาท ซึ่งการปรับราคาที่สูงขึ้น ส่งผลทำให้ช่วงนี้เขียงหมูตามท้องตลาดได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
 
ทั้งนี้จำหน่ายเนื้อสันกิโลกรัมละ 130 บาท หมูสามชั้น หมูช่วง กิโลกรัมละ 120 บาท สำหรับราคาเนื้อหมูที่ตลาดใต้มีอยู่ด้วยกันหลายเขียง ซึ่งราคาก็ไม่เท่ากันบางร้านปรับราคาสูงขึ้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 140-150 บาท  ซึ่งราคานี้เท่ากับราคาเขียงหมู่ที่ตลาดบ้านคลอง ตลาดร่วมใจและตลาดโคกมะตูม  ส่วนในช่วงเทศกาลตรุษจีน ตลาดใต้นับว่ามีคนไทยเชื้อสายจีนมาจับจ่ายซื้อเครื่องเซ่นไหว้มากที่สุด เชื่อว่า ราคาเนื้อหมูอาจมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยสำหรับตนก็คาดว่าจะอยู่ที่ราคา 140-150 บาทเท่านั้น จะไม่เกินกว่านี้ ส่วนเขียงอื่นอาจปรับเพิ่มขึ้นอีกเฉลี่ยกิโลกรัมละ 20-30 บาทเช่นกัน
 
ด้านนางคิม  แซ่ตั้ง แม่ค้าขายผักตลาดเทศบาล 1 ตลาดใต้ กล่าวว่า ช่วงตรุษจีนปีนี้ราคาผักไม่สูงมากนักเนื่องจากเป็นช่วงที่ผักออกสู่ท้องตลาดปริมาณมาก  ทำให้ผักหลายชนิดมีการปรับราคาต่ำลงมาก เช่นผักขึ้นฉ่าย เดือนที่ผ่านมาสูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาท ช่วงนี้ปรับลดลงเหลือกิโลกรัมละ 70 บาท และมีแนวโน้มอาจเหลือกิโลกรัมละ 50 บาทเท่านั้น ส่วนต้นกระเทียม กิโลกรัมละ 80-100 บาท ปรับราคาลดลงเหลือ 60 บาท ต้นหอมผักชี จากกิโลกรัม 150 บาท ปรับลดลงเหลือกิโลกรัมละ 50 บาท ส่วนผักชนิดอื่น ๆ ได้ปรับราคาลดลงกว่าครึ่ง  ขณะที่ต้นกุยฉ่ายราคาคงที่กิโลกรัมละ 50 บาท
 
อย่างไรก็ตามการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าสูงเกินจริงนั้นในส่วนของจังหวัดพิษณุโลก เกิดขึ้นน้อยมากเนื่องจากสำนักงานการค้าภายใน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินสำรวจตลาดป้องกันปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง