แนะรัฐบาลไม่ควรรับอำนาจศาลโลก
"สว." แนะ รบ.ไม่ต้องรับอำนาจศาลโลกหลังขาดปฏิญญารับอำนาจศาลขาดอายุ
"สว." แนะ รบ.ไม่ต้องรับอำนาจศาลโลกหลังขาดปฏิญญารับอำนาจศาลขาดอายุ
นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.สรรหา หารือถึงคดีปราสาทพระวิหารระหว่างไทยและกัมพูชา ว่า ข้อเท็จจริงว่าประเทศไทยได้ประกาศปฏิญญารับรองเขตอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2492 โดยการประกาศรับรองแต่ละครั้งมีอายุ 10 ปี เพราะฉะนั้นการรับรองเขตอำนาจศาลโลกของไทยหมดลงไปแล้วเมื่อปลายปี 2502 หลังจากกัมพูชายื่นฟ้องคดีปราสาทพระวิหารภาค 1 ไม่กี่เดือน
อย่างไรก็ดี ไทยได้ยื่นข้อสงวนต่อเลขาธิการสหประชาชาติเมื่อวันที่ 6 ก.ค.2505 ว่า รัฐบาลของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรารถนาจะตั้งขอสงวนอย่างชัดเจน เพื่อสงวนไว้ซึ่งสิทธิที่ประเทศไทยมีหรือพึงมีในอนาคตที่จะเรียกคืนปราสาทเขาพระวิหารโดยวิถีทางที่ชอบด้วยกฎหมาย ที่มีอยู่ในปัจจุบันหรือในอนาคต และยืนยันการคัดค้านคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กล่าวคือ แม้ว่าจะปฏิบัติตามไทยก็ไม่เห็นด้วยและตั้งข้อสงวนไว้
นายคำนูณ กล่าวว่า ดังนั้นเมื่อการประกาศเขตรับอำนาจศาลของประเทศไทยหมดลงกว่า 50 ปี ประเทศไทยจึงไม่มีความผูกพันใด ๆต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลโลกในคดีภาค 2 ที่กัมพูชายื่นคำร้องเมื่อเดือนเม.ย. 2554 ทั้งนี้การไปศาลแต่ละครั้งก็ไปเพื่อประกาศว่าประเทศไทยไม่รับเขตอำนาจศาลด้วยเหตุผลอย่างน้อย 3 ประกาศ คือ 1. ปฎิญญารับเขตอำนาจศาลขาดอายุ 2. ไม่ใช่เป็นการตีความคำพิพากษาเดิม แต่เสมือนเป็นคดีใหม่ อุทธรณ์คดีเดิม 3. ไทยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาเดิมของศาลทุกประการแล้ว และกัมพูชาก็ไม่ได้คัดค้านกว่า 50 ปี
นายคำนูณ กล่าวว่า ในการแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลกเมื่อวันที่ 15-19 เม.ย. 2556 นี้ ขอให้รัฐบาลมีนโยบายให้คณะต่อสู้คดีของไทยแถลงให้ชัดเจน ดังนี้ 1. ศาลไม่มีอำนาจพิจารณาโดยเด็ดขาด 2. ไทยไม่รับเขตอำนาจศาลโดยเด็ดขาด 3.ยืนยันให้ชัดเจนว่าประเทศไทยจะไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินใดๆที่จะกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของประเทศไทยโดยเด็ดขาด
ด้าน น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ สว.เพชรบุรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรรับอำนาจศาลโลก เพราะไทยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาเรียบร้อยแล้วในปี 2505 ซึ่งตนไม่เคยเห็นคดีใดๆในโลกที่เป็นนคดีเดียวกัน ขึ้นศาลเดียวกันถึง 2 ครั้ง เหตุใดไทยต้องยอมรับ ทั้งๆ ที่คดีสิ้นสุดไปแล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเร่งผลักดันชุมนุมชาวกัมพูชาไปจากพื้นที่ของไทย ทุกรัฐบาลที่ผ่านมายอมให้ชุมชนกัมพูชาตั้งถิ่นฐาน หรือสร้างถาวรวัตถุไม่ว่าจะเป็นวัด ชุมนุม ในพื้นที่เขตของไทย
นอกจากนี้ รมว.ต่างประเทศ ต้องระวังคำพูด ที่ระบุว่าคดีเขาพระวิหารไทยมีแต่แพ้และเสมอตัว เพราะศาลโลกยังไมได้วินิจฉัยจะพูดได้อย่างไร อีกทั้ง คำคัดค้านที่คนไทยหลายกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย รัฐบาลอย่าคอยพูดแต่ว่าเป็นกลุ่มที่จ้องจะล้มรัฐบาล แต่ควรรับฟังเพราะจะได้ข้อมูลใหม่ๆในการพิทักษ์รักษาแผ่นดิน หากไม่ยอมรับฟังบ้างจะบอกว่ารัฐบาลจะเป็นผู้เสียใจที่สุด


