posttoday

นพดลลั่นไม่เคยหนุนเขมรขึ้นทะเบียนพระวิหาร

06 มกราคม 2556

นพดลโต้ประชาธิปัตย์ยันไม่เคยหนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แนะหยุดบิดเบือนข้อมูลหันมาผนึกกำลังสู้คดี

นพดลโต้ประชาธิปัตย์ยันไม่เคยหนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แนะหยุดบิดเบือนข้อมูลหันมาผนึกกำลังสู้คดี

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า  รู้สึกสลดใจกับความพยายามของนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่บิดเบือนใส่ร้ายอย่างต่อเนื่อง ว่าเป็นเพราะตนไปทำคำแถลงการณ์ร่วมกับกัมพูชา จึงทำให้กัมพูชาได้สิทธิขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชาเมื่อ 50 ปี ที่แล้ว ตั้งแต่สมัย ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมทย์ เป็นรมว.ต่างประเทศ และเป็นอดีตหัวหน้าปชป.ตามที่ศาลโลกตัดสิน

"เมื่อเขาเป็นเจ้าของปราสาท เขาจึงมีสิทธิ์นำไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก โดยไม่จำเป็นต้องมีคำแถลงการณ์ร่วม แต่ที่ต้องทำแถลงการณ์ร่วมเพราะ ในปี 2549 ก่อนที่พวกผมเข้ารับตำแหน่ง กัมพูชายื่นคำขอขึ้นทะเบียน 1.ตัวปราสาทพระวิหาร 2.พื้นที่ทับซ้อนเป็นมรดกโลก แต่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และผมเป็นคนเจรจาให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนออก และขึ้นทะเบียนได้เฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น โดยกัมพูชายอมตัดพื้นที่ทับซ้อนออก ตามที่ระบุในข้อ 9 ของมติคณะกรรมการมรดกโลกที่ประชุมที่ประเทศแคนนาดา ในวันที่ 7 ก.ค. 51"นายนพดลกล่าว

อย่างไรก็ดี อยากให้พรรคการเมืองและคนไทยทุกกลุ่ม เลิกใช้ความเท็จและหันมาผนึกกำลังกันต่อสู้คดีที่อยู่ในศาลโลก น่าจะมีประโยชน์มากกว่ามาโทษกันไปมาและบิดเบือนใส่ร้ายเพื่อหวังผลการเมือง และคดีที่กำลังพิจารณาอยู่ในศาลโลกในขณะนี้ เป็นการตีความคำตัดสินของศาลโลกเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ไม่ใช่คดีใหม่ ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชามา 50 ปีแล้ว และคดีนี้เป็นคนละเรื่องกับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกที่กัมพูชาเขาขึ้นทะเบียนตัวปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกไปตั้งแต่ปี 2551 แล้ว

ทั้งนี้ กัมพูชาไม่สามารถนำคำแถลงการณ์ร่วมไปใช้ประกอบในการขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลก เพราะประการแรก ศาลปกครองได้ตัดสินว่าคำแถลงการณ์ร่วมเป็นโมฆะและไร้ผล รวมทั้งห้ามนำไปอ้างอิงใดๆ และมีการรับรองและระบุชัดเจนในข้อมติของคณะกรรมการมรดกโลกในวันที่ 7 ก.ค. 51 ข้อ 5 ว่า ให้ตัดคำแถลงการณ์ร่วมออกจากการพิจารณาว่าจะขึ้นทะเบียนตัวปราสาทหรือไม่ ตามที่ศาลปกครองไทยตัดสิน และประการที่สองไทยและกัมพูชา ก็ยอมรับว่า คำแถลงการณ์ร่วมสิ้นผลแล้ว ตามหนังสือที่นายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศในขณะนั้น ได้แจ้งไปยังกัมพูชา ดังนั้น คำแถลงการณ์ร่วมจึงไม่มีผลใดๆกับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก และไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่อยู่ในศาลโลกในปัจจุบัน

นายนพดล กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง และพิสูจน์ได้ด้วยเอกสารหลักฐาน เอกสารที่ตนนำมาอ้างเป็นของจริง เพราะตนไม่ชอบใช้เอกสารเท็จ และนายชวนนท์ก็เคยเป็นเลขานายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ และทำงานในกระทรวงต่างประเทศหลายปี  ตนจึงขอท้าให้นายชวนนท์ นำมติคณะกรรมการมรดกโลกที่ระบุว่า กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้เพราะคำแถลงการณ์ร่วมมาแสดง  ตนจะบริจาคช่วยเด็กปัญญาอ่อน 1 ล้านบาท ถ้าไม่มีเอกสารมาพิสูจน์ก็ขอให้ยุติการพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นเสียที เพราะบ้านเมืองเสียเวลากับการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยความเท็จมามากแล้ว

ข่าวล่าสุด

ผู้ว่า ธปท. ห่วงบาทแข็งเร็ว สั่งตรวจเข้มทำธุรกรรมซื้อขายดอลลาร์