ศาลชี้น้องอีซาตายจากกระสุนจนท.
ศาลอาญา มีคำสั่ง น้องอีซา วัย14ปี เสียชีวิต จากกระสุนปืนเจ้าหน้าที่ ขณะปฏิบัติหน้าที่สลายม็อบเสื้อแดงปี53ตามคำสั่งศอฉ.
ศาลอาญา มีคำสั่ง น้องอีซา วัย14ปี เสียชีวิต จากกระสุนปืนเจ้าหน้าที่ ขณะปฏิบัติหน้าที่สลายม็อบเสื้อแดงปี53ตามคำสั่งศอฉ.
เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลอาญานัดฟังคำสั่งผลไต่สวนชันสูตรศพด.ช.คุณากร หรือ "อีซา" ศรีสุวรรณ อายุ 14 ปี ซึ่งถูกยิงที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ หน้าโรงภาพยนตร์โอเอ ถนนราชปรารภ โดยศาลอาญาระบุด.ช.คุณากรเสียชีวิตวันที่ 15 พ.ค.2553 โดยถูกกระสุนปืนเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าตามคำสั่งศอฉ.ดูแลพื้นที่ถนนราชปรารภ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยิงสกัดรถตู้ฝ่ามาในพื้นที่
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 15 พ.ค.53 เวลาประมาณ 00.10 น. นายสมร ไหมทอง ขับรถตู้ทะเบียน ฮค 8561 กรุงเทพมหานคร ไปตามถนนราชปรารภมุ่งหน้าแยกมักกะสัน ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมของเจ้าหน้าที่กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 31 และกองพันทหารราบที่ 3 วางกำลังอยู่บริเวณบังเกอร์ริมถนนราชปรารภใต้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ทั้งสองด้าน
เจ้าหน้าที่ทหารใช้เครื่องขยายเสียงประกาศเตือนนายสมร ให้ออกจากพื้นที่ แต่นายสมรยังคงขับรถตู้แล่นไปในพื้นที่ควบคุม เจ้าหน้าที่ทหารจึงใช้อาวุธปืนยิงรถตู้หลายนัด กระสุนถูกรถตู้ได้รับความเสียหายและนายสมร บาดเจ็บที่ลำตัว และด.ช.คุณากร ถึงแก่ความตาย อันเป็นการตายที่เกิดจากการกระทำของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า สาเหตุที่ผู้ตายถูกยิงนั้น ได้ความจากนายสมร ไหมทอง ผู้ขับรถตู้คันเกิดเหตุว่า เมื่อนายสมร ขับเลี้ยวขวาออกจากซอยได้ประมาณ 30 เมตร มีเสียงปืนดังขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ทหารทั้งสองฝั่งระดมยิงมาที่รถตู้ของพยาน อีกทั้งพยานผู้ร้องเป็นเจ้าหน้าที่ทหารประจำอยู่บริเวณที่เกิดเหตุต่างเบิกความตรงกันสรุปได้ว่า เจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 31 มีหน้าที่รับผิดชอบตั้งแต่ 4 แยกมักกะสัน ไปจนถึงซอยราชปรารภ 6 ฝั่งซ้ายมุ่งหน้าที่ 4 แยกประตูน้ำ แบ่ง กำลังคุมพื้นที่ 4 แห่ง แต่ละแห่งมีเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 6 คน โดยก่อนเกิดเหตุพยานแต่ละคนได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ทหารประกาศผ่านเครื่อง ขยายเสียง ห้ามไม่ให้รถตู้นายสมรแล่นผ่านเข้าไปยังสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ แต่รถตู้ยังแล่นต่อไป จากนั้นมีเสียงปืนดังหลายนัดมาจากหลายทิศทาง
อีกทั้งพล.อ.ต.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม แพทย์ผู้ตรวจศพผู้ตายเบิกความรับรองว่าพบโลหะชิ้นเล็กที่บาดแผลของผู้ตาย สันนิษฐานว่าเป็นโลหะจากหัวกระสุนปืนความเร็วสูง เป็นปืนที่ใช้ในราชการสงคราม ประเภท เอ็ม 16 หรืออาก้า เมื่อพิจารณาคำเบิกความของพยานผู้ร้องและภาพที่ปรากฏในแผ่นดีวีดีหลักฐาน จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการบริเวณที่เกิดเหตุหลายคนมีอาวุธปืนเอ็ม 16 อยู่ด้วย ข้อเท็จจริงจึงไม่อาจรับฟังเป็นประการอื่นได้
คดีรับฟังได้ว่า คืนเกิดเหตุขณะที่นายสมร ขับรถตู้เข้าไปในถนนราชปรารภมุ่งหน้าสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เป็นพื้นที่ควบคุมตามประกาศของ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารประจำการอยู่ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงห้ามไม่ให้เข้าไปในพื้นที่แล้ว นายสมร ยังขับรถตู้ต่อไป เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถตู้ของนายสมร เป็นเหตุให้ลูกกระสุนปืนไปถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย
จึงมีคำสั่งว่าผู้ตายคือ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ ตายระหว่างถูกนำส่งโรงพยาบาลพญาไท 1 ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม. เมื่อวันที่ 15 พ.ค.53 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง เหตุและพฤติการณ์ที่ตายคือถูกลูกกระสุนปืนยิงจากอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่
ภายหลังนายสมศักดิ์ วันแอเลาะห์ เจ้าหน้าที่องค์กรสงเคราะห์มุสลิมนานาชาติ แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ด.ช.คุณากร เป็นเด็กพิเศษ หลังเสียชีวิตทางองค์กรได้แจ้งให้พี่ชายของ ด.ช.คุณากร ซึ่งเป็นเด็กพิเศษเช่นกัน อายุ 15 ปี ได้ทราบแล้ว ตั้งแต่เกิดเหตุมา 2 ปี องค์กรยังไม่เคยได้รับเยียวยาเงินจากรัฐบาลหรือหน่วยงานใด ก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือไปที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอรับเงินเยียวยา กระทั่งได้รับแจ้งจากสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์


