ตำรวจรวบพระจีนชื่อดังเมืองศรีราชาชำเราเด็กชาย
ตำรวจชุด ปคม. บุกจับพระจีน ชื่อดังเมืองศรีราชา กระทำชำเราเด็กชาย
ตำรวจชุด ปคม. บุกจับพระจีน ชื่อดังเมืองศรีราชา กระทำชำเราเด็กชาย
พ.ต.ท.ชูศักดิ์ เคทอง หัวหน้าชุด จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์(ปคม. ) พร้อมทีมงาน ได้บุกไปที่โรงเรียนวัดโพธิทัตราชวิทยาลัย ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พร้อมหมายศาลอาญา ลงวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อควบคุม ตัวหลวงจีนธรรมนาถ ประพันธ์ ฉายา เย็นเกา หรือ ซือหู เจ้าอาวาสวัดโพธิทัตราชวิทยาลัย ขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวไปยังกองบังคับการฯที่กทม.เพื่อทำการสอบสวนขยายผลต่อไป
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องดำเนินการควบคุมตัวในครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ปกครองของสามเณร ที่เรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมปีที่ 1 ถึงมัธยมปีที่ 3 อายุตั้งแต่ 13-15 ปี ที่มาเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดดังกล่าว เข้ามาร้องเรียนที่มูลนิธิเด็กฯ และตำรวจกองปราบปรามฯ ว่า มีพระชั้นผู้ใหญ่ ได้ล่วงละเมิดทางเพศ ลูกศิษย์ ที่เรียนอยู่จำนวนหลายราย และยังทำร้ายร่างกายสามเณรด้วย ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุด ปคม. จึงได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานและพบมีมูลความจริง จึงได้ขอหมายศาลอาญา เพื่อเข้ามาควบคุมตัวดังกล่าว
ขณะที่พ.ต.ท.ชูศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในเบื้องต้นได้ตั้งข้อหา การกระทำผิดฐานในครั้งนี้ คือ 1.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ 2. กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน ที่เป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล ผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการ หรือผู้อยู่ในความปกครอง โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม 3.กระทำอนาจารแก่บุคคลที่เป็นศิษย์ ที่อยู่ในความดูแล ผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการ หรือผู้อยู่ในความปกครอง อายุ 15 ปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และ 4. กระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องควบคุมตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายเลิศพิชัย วัชระพิทักษ์กุล อดีตเจ้าหน้าที่มูลนิธิเด็ก และติดตามเรื่องนี้ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว โดยมีผู้ปกครองของสามเณรได้เข้าร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบหลายแห่ง และเจ้าหน้าที่ชุด ปคม.ด้วย นอกจากนั้นผู้ปกครองสามเณรยังเข้าแจ้งความในคดีอาญาที่ สภ.ศรีราชาด้วย
“ที่ผ่านมาคดีความยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ซึ่งในช่วงแรกนึกว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบคงไม่ติดตามคดีนี้แต่อย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่ใหญ่มากหากถูกดำเนินคดี เนื่องจากวัดแห่งนี้ ถือว่ามีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักเป็นของผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ ปคม.เข้ามาดำเนินการดังกล่าว ซึ่งแสดงได้ว่ามีข้อมูลหลักฐานจริง จึงได้ขอหมายศาลเข้ามาควบคุมตัว เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นายเลิศพิชัย กล่าว


