posttoday

การเรียนนักธรรม และธรรมศึกษา มีแนวโน้มลดลง ที่มีการส่งเสริมตลอด

21 ตุลาคม 2555

โดย...สมาน สุดโต

โดย...สมาน สุดโต

การศึกษานักธรรมตามหลักสูตร นักธรรมตรีโทเอก ของพระเณร และหลักสูตรธรรมศึกษาสำหรับฆราวาส มีสถิติลดลง แม้ว่าทางคณะสงฆ์ และผู้เกี่ยวข้องส่งเสริมอย่างเต็มที่ตลอดมา ล่าสุดได้จัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมดีเด่น และครูสอนพระปริยัติธรรม ทั้งแผนกธรรมและบาลีดีเด่นทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2555 โดยมีสำนักเรียน 75 แห่ง และครูดีเด่นจำนวน 200 รูป เข้ารับโล่และประกาศเกียรติคุณ

หลังจาก สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส จัดระบบการศึกษาธรรม 150 ปีมาแล้ว หรือเมื่อ พ.ศ. 2435 และระบบธรรมศึกษาของฆราวาสผ่านมา 83 ปี (โดยพระดำริของพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าวัดราชบพิธ เมื่อ พ.ศ. 2472) ได้สร้างบุคลากรทางการศึกษาธรรมที่ดีมีคุณค่ามาโดยลำดับ แม้ว่าจะมีปัญหาและอุปสรรคก็ได้รับการแก้ไขเสมอมา

สำหรับปัญหาและอุปสรรคของการศึกษาธรรมในยุคนี้ เป็นปัญหาที่ไม่มีใครคาดคิด คือมีผู้เข้ามาบรรพชาเป็นสามเณรน้อยลง เพราะภาครัฐบังคับว่าเด็กทุกคนต้องเรียนภาคบังคับในโรงเรียนเป็นเวลา 9 ปี ทำให้ผู้ปกครองไม่กล้าส่งลูกมาบรรพชา แม้ว่าการเรียนในโรงเรียนปริยัติธรรมแผนกสามัญจะอยู่ในเกณฑ์บังคับของภาครัฐก็ตาม

ในการแสดงวิสัยทัศน์เพื่อเสนอผลงาน ข้อเสนอแนะและปัญหาอุปสรรค โดยผู้แทนเจ้าสำนักเรียน เจ้าสำนักศาสนศึกษา ครูพระปริยัติธรรม และผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งแต่ละท่านเล่าเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาและสูตรเข้าสู่ความสำเร็จได้น่าติดตามยิ่ง

ยุทธศาสตร์ลูกหลานย่าโม

พระครูปริยัติสีมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสะแก พระอารามหลวง เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ก่อนที่จะเข้าเรื่องตามหัวข้อก็ได้เล่าว่า พระธรรมวรนายก เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ติดภารกิจที่จังหวัดมาไม่ได้ จึงมอบหมายให้รองเจ้าคณะจังหวัดใหม่ๆ สดๆ พระเมธีรัตโนดม เจ้าอาวาสวัดบึง พระอารามหลวงมาแทน

พร้อมกับสาธยายถึงพระเมธีรัตโนดมว่าเป็นพระเถระที่ผลงานดี ปีเดียวได้หลายเด้ง หลังจากไปเที่ยว สปป.ลาว แล้วประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย กลับมาได้รับพระบัญชาเป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดบึง และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดอีกตำแหน่งหนึ่ง

ส่วนสถิติการศึกษาธรรมบาลีนั้น สำนักเรียนจังหวัดนครราชสีมาทำสถิติน่าพอใจ จำนวนผู้สอบได้อยู่ในลำดับต้นๆ เพราะมียุทธศาสตร์ 3 อย่าง 1 ผู้นำดี เรื่องนี้ต้องยกให้พระธรรมวรนายก เจ้าคณะจังหวัดเป็นพระเถระที่เป็นผู้นำ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และลึก แค่หลักการที่ให้ว่าเป็นผู้นำต้องอ่านออก บอกได้ และจัดวางตัวเองให้ถูก ทำตามนี้ก็ประสบความสำเร็จ

ยุทธศาสตร์ที่ 2 คือ ผู้ตามดี เมื่อรับนโยบายหลวงพ่อ ต้องเอาไปทำ และเมื่อหานักเรียนเข้าสำนักได้จำนวนมากก็ต้องให้กำลังใจ กระตุ้นให้เรียน โดยบอกว่าบวชต้องรีบสึก มีเมียต้องรีบเลิก กล่าวคือรีบสึกคือรีบศึกษาเล่าเรียน เพื่อหนีคำนินทาที่เข้าใจผิดว่าพระบวชมามีพฤติกรรมเช้าเอน เพลนอน บ่ายพักผ่อน เย็นมาม่า ดึกๆ ก็จุ๊บๆ คิดถึงนะ และให้สอดคล้องกับระเบียบมหาเถรสมาคมที่ว่าภิกษุสามเณรต้องศึกษาเล่าเรียน

ที่บอกว่ามีเมียให้เลิก คือ เลิกผี 6 ตัว (อบายมุข 6) ชอบดื่มสุราเป็นอาจิณ ไม่ชอบกินข้าวปลาเป็นอาหาร ชอบเที่ยว ไม่รักบ้าน ไม่รักลูกเมียตน ชอบเล่น ไม่ยกเว้นละคร โขน คบคนชั่วมั่วกับโจร มักไม่พ้นอาญาตราแผ่นดิน ชอบเล่นม้า กีฬาบัตร และสุดท้าย เกียจคร้านการทำกิน ทั้งสิ้น 6 ผี อัปรีย์เอย

หลวงพ่อ พระธรรมวรนายกบอกหลักชัยชนะว่า ทุกสำนักต้องไปบอกชาวบ้านให้มั่นใจในสำนัก โดยเน้น 3 ช. คือ เชื่อ ชอบ และช่วย ส่วนตัวครูผู้สอนที่ดี ต้องมี 3 ส. 1 สุปฏิปันโน (ปฏิบัติดี) ส. ที่ 2 สุวิชาโน (รู้วิชาดี) และ ส. ที่ 3 สุสาสโน (สอนดี สอนเป็น)

การเรียนนักธรรม และธรรมศึกษา มีแนวโน้มลดลง ที่มีการส่งเสริมตลอด

 

ปัญหาที่ท่านนำเสนอ เหมือนปัญหาที่ทุกสำนักประสบ คือหาคนมาบวชเณรยาก การเรียนทางโลกบังคับเรียน 9 ปี ผู้ปกครองฝ่าฝืนมีโทษ ทำให้พ่อแม่ไม่กล้านำเด็กมาบวช ทางแก้คือต้องไปทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง การเรียนปริยัติสามัญก็อยู่ในเกณฑ์บังคับ 9 ปี ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนได้ไม่มีปัญหา

ปัญหาอีกข้อหนึ่งเป็นปัญหาระดับชาติ คือเด็กอ่านภาษาไทยไม่ออก ต้องเอามาสอนกันใหม่ ส่วนนิสัยการเรียนของเด็กก็เปลี่ยนไปจากอดีต ที่มีการท่องแบบ แต่สมัยนี้ไม่ท่องแบบ เมื่อสอบทำอย่างไร นอกจากลอกข้อสอบ เอาหนังสือไปกางตอบ กรรมการจับทุจริต ตามที่มีเรื่องร้องเรียนกันมาก สร้างความเสียหายต่อส่วนรวมมาก

ปัญหาสุดท้ายคือ เด็กที่บวชเรียนธรรม บาลี มักสงสัยและถามว่าเรียนไปทำไม มีเป้าหมายอะไร เพราะเทียบกับทางโลกเห็นเป้าหมายชัดเจน เรียนจบนำไปประกอบอาชีพได้

ส่วนธรรมศึกษา (การเรียนสำหรับฆราวาส) ที่เห็นปัญหา คือ สถานศึกษาไปบอกโรงเรียนต่างๆ ให้ส่งผู้เข้าสอบเยอะๆ มากๆ จะได้มีสถิติดีๆ แต่เมื่อส่งเข้าสอบแล้วผู้สอบทำข้อสอบไม่ได้ ต้องกางตำรา หรือถามกรรมการ (คุมสอบ) เพราะผู้สอบไม่ได้เรียน เรื่องนี้สำคัญมาก เมื่อหาผู้สอบเข้ามามากๆ ต้องให้เขาเรียนด้วย มิเช่นนั้นการศึกษาจะไม่ประสบความสำเร็จ

หลัก 4 ดี ของวัดธาตุขอนแก่น

ในขณะที่พระมหาพร วรภาณี ป.9 วัดธาตุ จ.ขอนแก่น ในฐานะที่เป็นครูดีเด่นแผนกบาลีที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ เล่าให้ฟังถึงแผนการจัดการเรียนการสอนบาลีที่ จ.ขอนแก่น ว่า

วัดธาตุจัดการสอนมา 69 ปี รักษามาตรฐานเอาไว้ ทุกแผนกทั้งธรรมบาลีและปริยัติธรรมแผนกสามัญ รักษาสถิติผู้สอบได้ ถึงไม่สูง แต่ก็ไม่ตกต่ำ เช่นปีที่แล้วสอบบาลีได้ 62 รูป เป็นอันดับหนึ่งของหนตะวันออก

การที่ก้าวมาสม่ำเสมอก็เพราะเจ้าสำนักเรียน ดร.พระเทพกิตติรังษี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดธาตุ และเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นอีกตำแหน่งหนึ่งใจกว้าง เสียสละ และสนับสนุนนักเรียน ครูอาจารย์เป็นเลิศ โดยกำหนด 4 ดี ให้ปฏิบัติ

1.เจ้าสำนักดี วัดธาตุมีบุญบารมีที่เจ้าอาวาสทั้งอดีตและปัจจุบันมีใจกว้างให้ภิกษุสามเณรและผู้เรียนอย่างดีได้ หากเจ้าสำนักไม่ดี การศึกษาไม่ประสบผลสำเร็จ

2.ครูดี หากครูไม่ตรงต่อเวลา ไม่มีการขวนขวายหรือบูรณาการ คิดค้นใหม่ เห็นแก่ลาภสักการะ แน่นอนว่าการศึกษาไปไม่รอด ครูดีต้องตั้งใจและอดทนโดยเฉพาะอยู่ในอีสานต้องมีความอดทนมากเป็นพิเศษ

3.นักเรียนดี ภิกษุสามเณรที่เป็นนักเรียน ต้องสนใจทำวัตรสวดมนต์ นอกจากการเรียน มิเช่นนั้นจะไม่เจริญ

4.อุปัฏฐากดี ญาติโยมเอาใจใส่ ให้การสนับสนุนดี

ท่านอาจารย์ใหญ่สำนักเรียนดีกรีประโยค 9 ศิษย์เก่าวัดบพิตรพิมุข กรุงเทพมหานคร บอกว่า ขอนแก่นจะก้าวหน้าไม่หยุดยั้ง ปีนี้เสนอเปิดสอนเปรียญเอก คือประโยค ป.ธ. 789

ส่วนปัญหา ก็เหมือนที่สำนักทั่วไปประสบ คือหาผู้บวชเณรได้ยาก ที่ได้มาก็อ่านหนังสือไม่ออก ต้องเอามาสอนกันใหม่

ส่วนสูตรนำไปสู่ความสำเร็จ คือ 1.เสริมสร้างความรู้ 2.มีครูยุคใหม่ 3.สร้างแรงจูงใจ 4.ต้องให้รางวัล 5.เอาใจใส่ไม่ขาด และ 6.มุ่งมาดตลอดไป

หากทำตามนี้ศาสนาพุทธเราไม่ขาดแคลนครูและนักเรียน การศึกษาจะก้าวหน้าต่อไป สุดท้ายท่านเรียกร้องบรรดาครูอาจารย์ทั้งหลายว่าอย่าเพิ่งสึกหาลาเพศ อยู่เพื่อสู้ และช่วยพุทธศาสนา เพราะไม่รู้ว่า พ.ศ. 2557 อะไรจะเกิดพระพุทธศาสนาในเมืองไทย

การเรียนนักธรรม และธรรมศึกษา มีแนวโน้มลดลง ที่มีการส่งเสริมตลอด

 

วัดพระธรรมกายแจกแท็บเล็ตพระเณร

พระมหาสมบัติ อินทปัญโญ ป.ธ.9 ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่สำนักเรียนวัดพระธรรมกาย ปทุมธานี ได้มาเล่าให้ฟังถึงโครงการของวัดพระธรรมกาย ตามโครงการดำเนินงานด้านต่างๆ

สำนักเรียนตั้งมาเมื่อ พ.ศ. 2528 สอนนักธรรมและบาลีเป็นหลัก ผ่านมา 27 ปี มีผู้สอบผ่านแล้ว 1 หมื่นรูปต่อคน สำหรับปี 2554 มีผู้สอบบาลีได้ 174 รูป

สำนักเรียนเน้นให้นักเรียนต้องทำ คือ 1.เรียนปริยัติ 2.ปฏิบัติธรรม และ 3.นั่งสมาธิ การเรียนการปฏิบัติจะเริ่มตั้งแต่ตื่นนอนเวลาตี 4 โดยสวดมนต์ ทำวัตร และเรียน ฉันอาหารเวียนไปเช่นนี้ ถึง 22.00 น.เข้านอน

ท่านบอกว่ามีนักเรียนเข้ามาใหม่ 100 รูปเพื่อเรียนบาลี แต่ต้องสอนภาษาไทยกันใหม่ พระอ่อนภาษาไทยมาก ถ้าภาษาไทยไม่ดีไม่ได้มาตรฐาน การสอนธรรมบาลีก็จะมีปัญหา

เนื่องจากประเทศไทยเข้าสูประชาคมอาเซียนปี 2558 ทางวัดพระธรรมกายจึงจัดสอนภาษาต่างประเทศ 7 ภาษา ให้แก่ภิกษุสามเณร ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สเปน และเยอรมนี เพื่อให้ผู้เรียนนำความรู้ไปเผยแผ่ให้กับชาวต่างชาติสามารถถ่ายทอดให้ผู้เข้ามาในเมืองไทยได้เรียนรู้ธรรมของพระพุทธเจ้าได้ดี

เนื่องจากภาครัฐจัดหาแท็บเล็ตให้เด็กนักเรียนฟรี จึงฝากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหาแท็บเล็ตแจกพระเณรด้วยก็จะดี เพราะทางสำนักนำแท็บเล็ตและไอแพดมาทดสอบการเรียนการสอนแล้วได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงได้แจกแท็บเล็ตและไอแพดแก่ผู้เล่าเรียนไปล่วงหน้าแล้ว

การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม

เอกสารของสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่แจกจ่ายแก่ผู้เข้าประชุมเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2555 ก็พูดถึงภาระหน้าที่การจัดการเรียนการสอนธรรม ตามนโยบายของมหาเถรสมาคมในด้านต่างๆ ล้วนแต่สวยๆ งามๆ เพื่อพัฒนาส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรมให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น แต่ที่ได้ไม่เหมือนกัน เป็นเพราะการเรียนการสอนนั้นเป็นอำนาจของเจ้าสำนัก ว่าใครมีวิสัยทัศน์อย่างไร (พูดง่ายๆ ก็คือตามบุญตามกรรม) ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้การจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมของคณะสงฆ์ในแต่ละสำนักมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่แตกต่างกัน

ส่วนข้อมูลพื้นฐาน (ปีการศึกษา 2554)

สำนักเรียน/สำนักศาสนศึกษา จำนวน 10,443 แห่ง

ครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม จำนวน 3,500 รูป

พระภิกษุสามเณรผู้เรียนนักธรรม จำนวน 173,751 รูป

คฤหัสถ์ผู้เรียนธรรมศึกษา จำนวน 1,896,171 คน

ข่าวล่าสุด

อัปเดต! เลือกตั้งล่วงหน้าวิธีลงทะเบียน-ใช้สิทธิ์ 3 ช่องทาง