posttoday

พม่ากับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

08 ตุลาคม 2555

สัปดาห์นี้ผู้เขียนขอนำเรื่องราวจากการเป็นวิทยากรและผู้ดำเนินการสัมมนาและฝึกอบรมเชิงวิชาการด้านการท่องเที่ยว ณ นครย่างกุ้ง พม่า

โดย...รวิภาส กล่ำทวี

สัปดาห์นี้ผู้เขียนขอนำเรื่องราวจากการเป็นวิทยากรและผู้ดำเนินการสัมมนาและฝึกอบรมเชิงวิชาการด้านการท่องเที่ยว ณ นครย่างกุ้ง พม่า ระหว่างวันที่ 1-4 ต.ค. เพื่อท่านผู้อ่านจะได้รับทราบสภาพแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของพม่าในปัจจุบัน รวมทั้งโอกาสของพม่าในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัวในปี 2558

พม่า ปัจจุบันมีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 60 ล้านคน (ใกล้เคียงกับไทย ซึ่งมีประมาณ 65 ล้านคน) มีขนาดพื้นที่ประเทศประมาณ 676,577 ตารางกิโลเมตร โดยนับว่ามีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน

สำหรับจุดเด่นของพม่าที่เห็นได้ชัดเจน นอกจากการมีทรัพยากรธรรมชาติทั้งพลังงาน โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน ป่าไม้ และแร่ธาตุอื่นๆ อีกมากแล้ว พม่ายังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นพิเศษกว่าแหล่งท่องเที่ยวด้านอื่นๆ

ขณะที่จุดอ่อนสำคัญที่ชัดเจนของพม่าที่จะต้องพัฒนาขนานใหญ่ ได้แก่ ศักยภาพด้านความคิดและการทำงานของคนพม่า

สาเหตุหลักที่ชาวพม่าขาดความต่อเนื่องในการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์ คงมาจากการปิดประเทศไม่ยอมคบหาสมาคมกับใครนับตั้งแต่ยุคสมัยทหารครองอำนาจเมื่อปี ค.ศ. 1962 ซึ่งทำให้เราเห็นตัวอย่างว่าประเทศที่ถูกบริหารอย่างเบ็ดเสร็จโดยทหารมักจะมีอนาคตที่ไม่สดใสเหมือนพม่า

กลับมาที่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม พม่ามีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้ดูมากมายหลายแหล่ง โดยเฉพาะสถานที่มีความเกี่ยวพันและเกี่ยวข้องกับศาสนา นอกจากนั้นแล้วพม่ายังเป็นประเทศที่มีการผสมผสานความหลากหลายทางวัฒนธรรมไว้ในตัวเองได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีชนกลุ่มน้อยมากเกิน 100 กลุ่ม อาศัยและใช้ชีวิตกระจัดกระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ สิ่งที่น่าสนใจก็คือ พม่ายังคงรักษาเอกลักษณ์ด้านการแต่งกายแบบนุ่งโสร่งสวมรองเท้าแตะไว้ได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง

แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงมากและโด่งดังไปทั่วโลก เช่น เจดีย์ชเวดากอง พระธาตุอินทร์แขวน ไม่นับรวมวัดวาอารามและโบราณสถานต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันกำลังอยู่ในกระบวนการได้รับการประเมินจากเจ้าหน้าที่ขององค์การยูเนสโกว่าจะจัดสถานที่แห่งใดให้เป็นมรดกโลกได้บ้าง และถ้าวันใดที่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของพม่าได้รับการจดทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเราๆ เห็นจะต้องเตรียมตัวอย่างหนักที่จะต้องเจอคู่แข่งด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ทางผู้ใหญ่ของกระทรวงการท่องเที่ยวพม่ายังเล่าว่า ธนาคารเอดีบี (ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย) เตรียมอนุมัติเงินมหาศาลให้ความช่วยเหลือพม่าด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยกระบวนการพิจารณาและสำรวจจะเริ่มในเดือน ต.ค.เป็นต้นไป

ความพยายามที่จะให้องค์การระหว่างประเทศอย่างยูเนสโกและเอดีบี มีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของพม่า ย่อมแสดงให้เห็นว่าพม่าเห็นความสำคัญของโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และเริ่มขยับเพื่อเตรียมความพร้อมประเทศให้ก้าวเข้าสู่ประชาคมโลกอย่างเป็นระบบและมีทิศทางที่ถูกต้องและมั่นคง

จากการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ด้านการท่องเที่ยว ผู้เขียนพบว่าชาวพม่าที่มีความรู้ (ระดับมหาวิทยาลัย) ส่วนใหญ่กระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้และเรียนรู้จากผู้ที่มีประสบการณ์และภูมิรู้จากภายนอกอย่างเต็มที่ การแสดงออกผ่านการพูดภาษาอังกฤษ (ถึงแม้ว่าจะถูกบ้างผิดบ้าง) เป็นไปด้วยความกล้าหาญและมั่นใจ การแลกเปลี่ยนทางความคิดระหว่างวิทยากรหรือผู้สัมมนากับผู้เข้าร่วมสัมมนาเป็นไปด้วยดียิ่ง และสามารถประเมินผลได้ทันทีในวันสุดท้ายของการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ประชาชนชาวพม่าแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สามารถพัฒนาเพิ่มขึ้นได้อีกอย่างมากมายมหาศาล และเมื่อใดที่ชาวพม่าระดับผู้มีความรู้สามารถขยายจำนวนเพิ่มขึ้นไปสู่ชนชั้นกลาง การเจริญเติบโตและการพัฒนาการของพม่าในด้านต่างๆ จะเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากกว่าที่หลายๆ คนคิดเสียอีก ที่น่าสนใจอีกสิ่งหนึ่งก็คือ พม่าได้รับเลือกแล้วจากคณะกรรมการของ เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (WEF) ให้เป็นสถานที่จัดประชุมผู้นำระดับสูงสุดของโลกในปีหน้า

วกกลับมาด้านการเมืองในพม่า จะเห็นว่าระยะหลังๆ นี้ผู้นำพม่าไม่ว่าจะเป็นผู้นำทางการทหารหรือผู้นำฝ่ายค้านอย่าง อองซานซูจี เริ่มให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรุ่งเรืองของประเทศมากกว่าการแย่งชิงและรักษาฐานอำนาจทางการเมืองของตนเองเหมือนนักการเมืองในไทย

สิ่งที่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในทางการเมืองพม่าก็คือ การมีจำนวนผู้บริหารประเทศระดับรัฐมนตรีที่เป็นสุภาพสตรีเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายคน ผู้เขียนประเมินว่าพม่าคงจะใช้ระบบการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างค่อยเป็นค่อยไปแบบเดียวกันกับประเทศจีน

โดยสรุปแล้ว พม่ามีทรัพยากรธรรมชาติอย่างอุดมสมบูรณ์ เพียงแต่ต้องพัฒนาระดับความคิดและการบริหารจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์ของตนเองภายในประเทศให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เนื่องจากเท่าที่ได้สัมผัส คนพม่ามีนิสัยของการใฝ่รู้และการพัฒนาตนเองมากกว่าคนไทยทั่วไปหลายเท่า

หลายคนบอกว่า พม่ายังล้าหลังไทยประมาณ 30 ปีขึ้นไป ผู้เขียนเห็นด้วยเฉพาะในมุมมองด้านกายภาพ (สิ่งที่เราเห็นได้ด้วยตา เช่น ระบบคมนาคม ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปา เป็นต้น) แต่เห็นตรงกันข้ามด้านศักยภาพของคนพม่า ซึ่งผู้เขียนมองว่าคนพม่ากับคนไทยส่วนใหญ่ปัจจุบันมีระดับการพัฒนาทางความคิดแทบจะไม่ต่างกัน

และถ้าสถานการณ์ยังคงเป็นไปแบบนี้ ผู้เขียนเชื่อว่าอีกไม่นานพม่าจะแซงหน้าไทยในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม

 

ข่าวล่าสุด

LIVE ถ่ายทอดสด บุรีรัมย์ พบ การท่าเรือ ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68