posttoday

ยุทธศักดิ์รับเขมรสร้างวัดแก้วฯล้ำแดนไทย

18 กรกฎาคม 2555

“ยุทธศักดิ์”รับเขมรสร้างวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ล้ำดินแดนไทยแต่ทำอะไรไม่ได้ แจงประท้วงไปแล้วหลายครั้ง แฉ คนไทยขายบ้านให้เขาเข้ามา ยอมรับปรับกำลังเพราะงบกองทัพโดนหั่น

“ยุทธศักดิ์”รับเขมรสร้างวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ล้ำดินแดนไทยแต่ทำอะไรไม่ได้ แจงประท้วงไปแล้วหลายครั้ง แฉ คนไทยขายบ้านให้เขาเข้ามา ยอมรับปรับกำลังเพราะงบกองทัพโดนหั่น

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เรื่องการปรับกำลังทหารบริเวณพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารยังไม่มีการรายงานให้ตนทราบ วันนี้พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พร้อมทั้งพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และพล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม คงจะดำเนินการเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายกำลังเข้าพื้นที่ ทุกอย่างคงเป็นไปตามขั้นตอนและแผนที่ประสานกันไว้ก่อนที่จะดำเนินการในวันนี้ ส่วนจะใช้กำลังตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.)แทนทหารทั้งหมดหรือไม่นั้นตามที่แจ้งไว้เราก็จะเอาตชด.เข้าไปทดแทนกำลังทหารในพื้นที่ของเราทุกจุดที่มีทหารอยู่ ทั้งหลุมบุคคล สถานที่ต่างๆ ตชด.จะเข้าไป และตำรวจในท้องที่ด้วยหากตชด.ไม่พอ แต่ทั้งนี้ก็ต้องค่อยๆทำไปไม่ใช่ยกเข้าไปทันทีเพราะต้องมีการปรับพื้นที่และเข้าไปทดแทนในพื้นที่ แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นของการปรับกำลังอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงการที่กัมพูชาสร้างสิ่งก่อสร้าง อาทิ วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ล้ำเข้ามาจะทำอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า ที่วัดก็ต้องมีการเจรจากันต่อไปที่จะให้คนที่อยู่ในวัดออกไปเพราะเราก็รู้ว่าประชาชนเขารุกเข้ามาไม่ถูกต้อง

“เราได้ประท้วงและชี้แจงเขาหลายครั้งแล้วว่าการเข้ามาอย่างนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่เพื่อความสัมพันธไมตรีที่ดีก็ขอให้เขาจัดพลเรือนของเขาให้ถูกต้องในการที่รุกล้ำเข้ามา และคนของเขาก็ไม่ได้เข้ามาเอง เขาก็เข้ามาซื้อบ้านไทย เราเป็นเจ้าของบ้านด้วยก็มาขอซื้อบ้านอยู่”รองนายกฯ กล่าว

ส่วนบทบาทหน้าที่ของกองกำลังสุรนารีต่อจากนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า หน้าที่ก็คือการป้องกันชายแดนที่ยังรักษาต่อไป ผบ.กองกำลังก็ดูแลใกล้ชิด ทั้งนี้งานปรับกำลังเป็นหน้าที่ของแม่ทัพภาคที่2 อย่างไรก็ตามการปรับกำลังจะปรับแนวเดียวก่อนในพื้นที่4.6ตารางกิโลเมตรเท่านั้นที่ศาลโลกเขาให้ข้อสังเกตที่ให้เราปฏิบัติ สำหรับกรณีที่คนกลางจากอินโดนีเซียจะเข้ามาสังเกตการณ์นั้นเท่าที่ทราบเราต้องเขียนทีโออาร์ ว่าเมื่อเขาเข้ามาแล้วจะต้องอยู่ตรงไหนทำอะไร มีหน้าที่แค่ไหน มีอำนาจแค่ไหน และการเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ต่างๆเขาทำได้แค่ไหน จะต้องมีข้อตกลงของทางไทยกับกัมพูชาในการที่จะให้กับผู้สังเกตการจากอินโดฯ ซึ่งตนทราบว่าคณะทำงานร่วมของทั้งสองประเทศกำลังเขียนทีโออาร์อยู่

เมื่อถามว่าข้อพิพาทในพื้นที่ของทั้งสองประเทศเราจะแสดงจุดยืนยังไงว่าเราไม่ได้เสียดินแดนให้เขา รองนายกฯ กล่าวว่า เรายืนยันว่าทุกจุดที่เรายังยึดครองอยู่เรายังดูแลทุกจุด ไม่มีจุดไหนที่เราได้ปรับกำลังออกหรือถอนกำลังออก นอกจากจุดบริเวณวัดแก้วฯเท่านั้นที่เราเตือนเขาว่าเขาจะต้องวางแผนที่จะปรับคนของเขาออกจากพื้นที่เพราะประชาชนเขารุกล้ำเข้ามา ส่วนที่มีการตัดถนนเข้ามาในฝั่งไทยนั้นรองนายกฯ กล่าวว่า เขาตัดถนนเข้ามาจริงแต่ไม่ได้เข้ามาในพื้นที่ของเรา เขาจะอยู่บริเวณเขตชายแดน

“เราก็ประท้วงเขาอยู่ตลอดทั้งหน่วยกองทัพภาคที่สองก็ประท้วงในพื้นที่อยู่ตลอดว่าอย่าตัดถนนเข้ามาชิดเขตแดนเกินไปนัก แต่มันก็ไม่ฟังนะครับ พูดยาก ส่วนในพื้นที่4.6 ตร.กม.กัมพูชาจะต้องถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปหรือไม่นั้นเขาก็ต้องถอนในส่วนที่ล้ำเข้ามา แต่ในส่วนที่เขายังยึดครองอยู่เขาก็ต้องอยู่ แต่มันอยู่ไม่ได้ เพราะถ้าไปมองในภูมิประเทศจริงๆใน4.6ตร.กม. เราอยู่บนสันเขา เขาอยู่ในหุบเขา เขาอยู่ข้างล่าง มันนอนไม่ได้หรอกเพราะมันเอียง มันอยู่ไม่ได้ จะปรับยังไงก็อยู่ไม่ได้ เราจะปล่อยให้เขามายึดสันเขาไมได้ เพราะเราอยู่ของเราอยู่แล้ว เพราะไม่ใช่พื้นราบ มันเป็นสันเขาพอดีและบนสันเขาในพื้นที่เราอยู่ ถ้าหุบลงไปเขาอยู่ เขาก็อยากได้ที่สันเขา แต่คงทำไม่ได้หรอก เรายอมไม่ได้เด็ดขาด"พล.อ.ยุทธศัีกดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าท่าทีกัมพูชายังจะดันเรื่องคดีศาลโลกต่อไปหรือจะถอนฟ้องหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องเจรจากัน ตอนนี้ต้องคุยกัน แต่เขาคงจะถอนยาก เพราะการถอนของเขาต้องแจ้งให้ประชาชนทราบว่าเพราะอะไรด้วยเหตุผลอะไรถึงจะต้องถอนฟ้องเขา ซึ่งเป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศเขาด้วยเพราะฉะนั้นเราต้องเข้าใจเขา แล้วเราก็ต้องมีเหตุผลที่มากๆพอแล้วก็ดีพอ ละเอียดอ่อนในการเข้าไปแก้ข้อกล่าวหาต่างๆ

“ผมคิดว่าการทำงานต่างๆเกี่ยวกับทางนี้ เมื่อทำไปแล้วก็ควรจะแจ้งให้สภาได้ทราบด้วยและขอความคิดร่วมกันของพวกเรา และงานนี้ควรเป็นของคนไทยทั้งประเทศไม่ใช่รัฐบาลเท่านั้น ทุกคนน่าจะมีความคิดร่วมกันทั้งหมด ฉะนั้นเรื่องนี้ผมคิดว่าในอนาคตต่อไปคงจะต้องแจ้งให้รัฐสภาทราบ”รองนายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่าการปรับลดกำลังทหารเพราะงบประมาณลดลงด้วยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวยอมรับว่า “ก็มีส่วน เพื่อจะได้พอใช้”

 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา