posttoday

อำนาจแห่งครุฑ

15 กรกฎาคม 2555

โดย...วรธรรม

โดย...วรธรรม

วลีว่า “ไม่เชื่อ...อย่าลบหลู่” คุ้นมุขคุ้นโสต คนไทยมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ

เวลาที่มีเรื่องราว เหตุการณ์ แปลกๆ อัศจรรย์ ลึกลับ หรือสิ่งเหลือเชื่อเกิดขึ้นที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์

หรืออาจยังไม่ได้พิสูจน์ หรือพิสูจน์อะไรยังไม่ได้ หรือบางครั้งไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ก็ได้ ก็มักจะให้น้ำหนักไปที่ “อำนาจเร้นลับ” บันดาลให้เป็นอย่างที่เห็น

อย่างเรื่อง “ครุฑ” ในสังคมไทยก็เหมือนกัน...เชื่อว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยศรัทธาในพลังอำนาจของ “ครุฑ” อย่างสนิทใจด้วยการบูชาครุฑ

และมีจำนวนไม่น้อยถือคติ “ไม่เชื่อ...อย่าลบหลู่” คือ ไม่ถึงกับนับถือบูชาหรือศรัทธาอะไร แต่ก็ไม่คิดปรามาสความมีความเป็นแห่งครุฑ

ในทางพุทธศาสนา ครุฑจัดเป็นเทวดาประเภทหนึ่งแต่เป็นกึ่งเทพกึ่งนก อยู่ภายใต้การปกครองของท้าววิรุฬหก ซึ่งนายใหญ่ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาทางด้านทิศใต้

มีกำเนิด 4 แบบ คือ โอปปาติกะ เกิดแบบผุดขึ้นโตทันที ชลาพุชะ เกิดในครรภ์ อัณฑชะ เกิดในไข่ และสังเสทชะ เกิดในเถ้าไคล มีที่อยู่ตั้งแต่พื้นมนุษย์ ป่าหิมพานต์ ป่าไม้งิ้วรอบเขาพระสุเมรุ จนถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

เหตุที่ได้มาเกิดเป็นครุฑ เพราะว่าทำบุญเจือด้วยโมหะ

ครุฑชั้นสูงจะมีกำเนิดเป็นโอปปาติกะ มีขนสีทอง มีเครื่องประดับแบบเทพบุตรและเทพธิดา มีชีวิตอยู่เหมือนเทวดา มีฤทธิ์มาก แปลงกายได้ และบริโภคอาหารทิพย์เหมือนพวกเทวดา บางประเภทกินผลไม้หรือเนื้อสัตว์ บางประเภทกินนาคเป็นอาหาร

ในคติพราหมณ์ ครุฑเป็นครึ่งคนครึ่งนก และถือเป็นพญาแห่งนก เพราะมีขนาดตัวใหญ่ พละกำลังมหาศาล แข็งแรง บินได้เร็ว ทั้งเป็นสัตว์ที่เลิศในความฉลาดเฉลียว แถมมีความอ่อนน้อมซ่อนอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยเหตุนี้จึงมักเรียกว่า พญาครุฑ

ตามตำนานระบุว่า ตั้งแต่แรกเกิดครุฑจะมีรัศมีกายสว่างไสว มีฤทธิ์มากผาดโผนพิสดาร ครั้งหนึ่งครุฑเคยลองฤทธิ์กับพระนารายณ์ เรียกสนั่นไปทั้ง 3 โลก

ครุฑสามารถประมือกับพระนารายณ์ได้สบายๆ สู้กันเท่าไรก็หาผู้ชนะไม่ได้

ในที่สุดจึงยอมเสมอกัน พร้อมมีข้อตกลงร่วมกันว่า พระนารายณ์อนุญาตให้ครุฑอยู่เหนือเศียรตนได้ และครุฑก็ยินดีให้พระนารายณ์สามารถตนนำไปเป็นพาหนะยังสถานที่ต่างๆ ได้เช่นกัน

อีกตำนานระบุว่า พระอินทร์ที่ได้ชื่อว่ามีศักดิ์และอำนาจมากเหนือเทพทั้งหลาย ก็เคยได้ต่อสู้กับครุฑมาแล้ว โดยใช้สายฟ้าฟาดเปรี้ยงไปที่ครุฑ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรครุฑได้ เพราะครุฑเคลื่อนไหวเร็วมาก หลบได้ตลอด

แม้พระอินทร์จะพยายามอยู่หลายทางก็ไม่สำเร็จ จนถึงกับยอมรับในอิทธิฤทธิ์ของครุฑว่า ก็ขั้นเทพไม่แพ้กันและไม่คิดที่จะประลองฤทธิ์กับครุฑอีกต่อไป

ด้านพญาครุฑเองใช่ว่าจะแสดงอหังการในอิทธิฤทธิ์ของตนก็หาไม่ แต่ก็แสดงไมตรีนอบน้อมต่อพระอินทร์อีกด้วย โดยได้สลัดขนของตนเองออกมาหนึ่งขนให้แก่พระอินทร์เพื่อเป็นเกียรติ

ด้วยเหตุนี้ คนโบราณเชื่อว่า “ครุฑ” เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองและสัญลักษณ์แห่งอำนาจ และมีความเชื่อกันว่า หากที่ใดมีอาถรรพ์แรง ถ้านำเอาตราครุฑไปติดจะทำให้อาถรรพ์นั้นเสื่อมสลายไปในที่สุด

ตราครุฑล้างอาถรรพ์จึงถือเป็นความเชื่อถือกันมานานและได้รับการเคารพบูชาว่าเป็นของสูง

และผู้ใดมีสัญลักษณ์ครุฑ หรือรูปครุฑไว้บูชาย่อมจะเกิดผลดีต่อผู้นั้น เช่น ชีวิตจะมีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่ การงาน ยศ ตำแหน่ง ทั้งตัวเอง และครอบครัว ไม่มีวันอับจน

ทั้งยังช่วยปกป้องคุ้มครองจากภัยต่างๆ โดยเฉพาะจากสัตว์ร้ายที่มีเขี้ยวเป็นพิษทั้งหลายไม่ให้กล้ำกราย พร้อมเสริมเมตตามหานิยม นำความร่มเย็นมาให้ หรือจะทำการค้าการขายก็ดี เป็นสื่อนำโชคลาภมาให้ตลอด

เรื่องอำนาจแห่งครุฑ...ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ครับ ควรอยู่เฉยๆ เป็นดีที่สุด แต่ถ้านับถือก็จงปฏิบัติให้ดีเขาว่าจะเกิดอานิสงส์แน่นอน โดยเฉพาะอำนาจ ยศ ตำแหน่ง มักจะสมหวัง

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้