'คนเมือง'ชวน'ซาไก'ลงจากภูร่วมเล่นสงกรานต์

โดย...อัศวิน ภฆวรรณ

แม้จะแตกต่างกันด้วยเชื้อสายเผ่าพันธุ์ วัฒนธรรม วิถีชีวิต แต่ที่ ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง พื้นที่ซึ่งกลุ่มชาติพันธุ์ซาไก หรือเงาะป่า ตั้งชุมชนอยู่ การอยู่ร่วมกันของผู้คนสองเผ่าพันธุ์กลับเอื้อเฟื้อเปี่ยมด้วยน้ำใจ

ที่วัดโหล๊ะหาร ณรงค์ สงไข่ ประธานท่องเที่ยวชุมชนอำเภอป่าบอน ได้นำเพื่อนเงาะป่าซาไก 5 ครอบครัว จำนวน 17 คน เดินทางลงมาจากป่าเขาภูบรรทัด เพื่อร่วมกิจกรรมของชุมชนในโอกาสเทศกาลสงกรานต์

เมื่อมาถึงชาวบ้านเอ่ยปากชวนเพื่อนชาวซาไก ร่วมเล่นสาดน้ำสงกรานต์ แม้เงาะป่าซาไกจะไม่ชอบน้ำ แต่บรรยากาศ มิตรไมตรีของเพื่อนสองเผ่าพันธุ์ก็เป็นไปอย่างอบอุ่นสนุกสนาน

สุธิดา อึ้งบริบูรณ์ไพศาล หัวหน้างานประสานงานสำนักงานภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะนักท่องเที่ยวที่ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กับเงาะป่าซาไก บอกว่า จ.พัทลุง ยังมีของดีอีกมากมาย โดยเฉพาะทุนเดิมทางธรรมชาติที่รอการถ่ายทอดสู่โลกภายนอก ในขณะที่เงาะป่าซาไก ซึ่งเป็นชนเผ่าดั้งเดิม กลุ่มชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทอดทิ้ง หากแต่กลับให้ความสำคัญเป็นกรณีพิเศษ และในวันนี้นอกจากร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ ร่วมรับประทานอาหารด้วยกันแล้ว ชาวบ้านยังได้รวบรวมข้าวสารอาหารแห้งมอบให้เพื่อนชาวซาไกนำกลับไปเป็นเสบียงยังถิ่นฐานกลางป่าเขาอีกด้วย

“เห็นแล้วรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากที่ชาวบ้านกับเงาะป่าสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างกลมกลืน”

หัวหน้างานประสานงานสำนักงานภาคใต้ ททท. บอกอีกว่า ททท.ภาคใต้กำลังสำรวจพื้นที่ด้านการท่องเที่ยว เพื่อผลักดันให้ จ.พัทลุง ส่งผลงานเข้าชิงรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Thailand Tourism Awards) โดยเตรียมนำร่องสวนสละลุงถัน ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน และกิจกรรมล่องแก่งหนานมดแดง ในพื้นที่ ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม เข้าร่วมชิงรางวัลด้านการท่องเที่ยวดังกล่าว เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของ จ.พัทลุง ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น

สำหรับกลุ่มเงาะป่าซาไก แม้จะยังดำรงชีวิตตามวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิม โดยไม่รวมอยู่ในชุมชนกับชาวบ้านส่วนใหญ่ แต่ก็กล่าวได้ว่าพวกเขามีสิทธิขั้นพื้นฐานเท่าเทียมกับคนเมืองทุกประการ เพราะส่วนใหญ่ต่างได้รับบัตรประจำตัวประชาชนเรียบร้อยแล้ว จำนวน 10 คน ออกให้โดยที่ว่าการอำเภอป่าบอน เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดใช้นามสกุล “รักษ์ป่าบอน”

กิจกรรมเสร็จสิ้นลง เพื่อนซาไกทยอยขึ้นรถกระบะพร้อมของฝากจากเพื่อนคนเมือง ต่างฝ่ายต่างส่งรอยยิ้ม กล่าวคำลา และต่างเชื้อเชิญให้ไปมาหาสู่กันอีกให้บ่อยขึ้น