สลด!เด็กม.1เล่นน้ำโขงคลายร้อนจมดับ
สลดเด็กนักเรียนชั้นม.1 ลงเล่นน้ำโขงคลายร้อนจมดับ ชาวบ้านลืออาถรรน้ำโขงกปีจะต้องมีเด็กจมน้ำเสียชีวิต
สลดเด็กนักเรียนชั้นม.1 ลงเล่นน้ำโขงคลายร้อนจมดับ ชาวบ้านลืออาถรรน้ำโขงกปีจะต้องมีเด็กจมน้ำเสียชีวิต
พ.ต.ท.วันชัย ศรีชัยปลูก ร้อยเวร สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุเด็กนักเรียนจมน้ำ รุดไปที่หาดทรายทองศรีโคตรบูรณ์ (ท้ายเมือง) หลัง สำหนังานตำรวจท่องเที่ยว ริมฝั่งโขง อ.เมือง จึงประสานนักประดาน้ำทหารเรือ นรข. พบกลุ่มเพื่อนนักเรียนและชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ระบุถึงอาถรรของแม่น้ำโขง ห่างจากฝั่ง 200 เมตร เจ้าหน้าที่ระดมกำลังงมร่างเหยื่อเคราะห์ร้ายทราบชื่อ ด.ช.จิรภัทร แก้วกิ่ง หรือ “น้องอิ๊กคิว” อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1/7 ร.ร.ปิยะมหาราชาลัย ที่พลัดจมน้ำสูญหายไป จนท.ใช้เวลานาน 1ชั่วโมง จึงกู้ศพขึ้นมาได้ สอบสวนทราบว่า น้องอิ๊กคิว พร้อมกลุ่มเพื่อนสอบเสร็จเป็นวันสุดท้าย ก่อนปิดภาคเรียน จึงชักชวนกลุ่มเพื่อนชายหญิงร่วมห้อง 20 คน ลงเล่นน้ำก่อนพลัดตกร่องน้ำลึก ถูกกระแสน้ำพัดหายไป ส่วน ด.ช.นันทรินทร์ เพื่อนร่วมชั้นไปช่วยจมสำลักน้ำ ถูกนำตัวส่ง ร.พ.นครพนม รอดชีวิตพร้อมเพื่อนหญิงอีก 1 คน
ทั้งนี้หลังเจ้าหน้าที่กู้ร่างอุ้ม ด.ช.จิรภัทร ขึ้นฝั่ง นางจีรัญญา กิ่งแก้ว วัย 40 ปี มารดา อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.1บ้านหนองจันทร์ ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม รีบวิ่งมาสวมกอดลูกชายร้องไห้ปิ่มใจจะขาด พร้อมกับกล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุหลังบุตรชายสอบเสร็จ ได้กลับมาบ้านขอเงิน 200 บาท บอกว่าจะไปกินหมูกะทะฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนๆ ก่อนเพื่อนบ้านโทรศัพท์มาบอกว่าจมน้ำเสียชีวิตแล้ว จึงนำธูปเทียนจุด พร้อมแต่งขันห้าขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พบศพบุตรชายโดยเร็ว
ขณะที่ นายสม อายุ 56 ปี อาชีพรับจ้างเช่าห่วงยาง กล่าวว่า เห็นกลุ่มนักเรียนมาเล่นน้ำกว่า 20 คน แต่เช่าห่วงยางไม่ถึง 5 ห่วง บริเวณที่เด็กจมน้ำเป็นร่องน้ำลึกคล้ายแอ่งกะทะ ทุกปีจะมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตตรงจุดนี้ตลอดซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักเรียน บางคนร่ำลือกันว่าอาจจะเป็นอาถรรพ์ของแม่น้ำโขง ที่ทุกปีจะต้องมีเด็กจมน้ำเสียชีวิต
ด้าน พ.ต.อ.พงศ์ศิริ เพ็ชรหว้าโง๊ะ ผกก.สภ.เมืองนครพนม กล่าวว่า จากการสอบถามนักวิชาการประมงระบุว่าจุดที่เด็กจมน้ำเสียชีวิตทุกปี คาดว่าเป็นแอ่งคล้ายกะทะ สาเหตุเกิดจากตะกอนทรายไหลมาทับถมและแรงกัดเซาะโดยธรรมชาติใต้พื้นทรายมีแรงดันอากาศ เมื่อเด็กเดินไปเหยียบทรายจะบุ๋มตัวลงรวมเร็ว คล้ายถูกทรายดูด โดย จุดดังกล่าวคาดว่าจะมีปลาชนิดหนึ่ง มาคุ้ยขุดหลุมเป็นวังอาศัย เพื่อหลบกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและความเย็นสบายจึงเกิดเหตุสลดขึ้นทุกปี ซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทำสัญลักษณ์เตือนไม่ให้ลงเล่นน้ำในจุดนี้ จึงขอฝากเตือนผู้ปกครองได้ฝากบุตรหลานอย่าให้ลงเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าวเด็ดขาด


