posttoday

ทส.เดินหน้าเร่งรัดฟื้นฟูป่าต้นน้ำ

27 กุมภาพันธ์ 2555

ทส.เดินหน้าเสนอแผนฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 3.5 ล้านไร่ หลังถูกบุกรุกตัดไม้ ชี้ที่ผ่านมาได้งบสนับสนุนน้อยทำให้ปลูกป่าไม่ทัน

ทส.เดินหน้าเสนอแผนฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 3.5 ล้านไร่ หลังถูกบุกรุกตัดไม้ ชี้ที่ผ่านมาได้งบสนับสนุนน้อยทำให้ปลูกป่าไม่ทัน

นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยหลังประชุมประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงครั้งที่ 2/2555 ที่กรมป่าไม้   ว่าทส.ได้เสนอแผนฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 3.5 แสนไร่ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายการบริหารจัดการน้ำของประเทศต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดูแลรับผิดชอบ

ทส.เดินหน้าเร่งรัดฟื้นฟูป่าต้นน้ำ

ทั้งนี้ แผนฟื้นฟูป่าต้นน้ำ จะเน้นการฟื้นฟูป่าในพื้นที่เสื่อมโทรมที่มีปัญหาการบุกรุก  การทำฝายชะลอน้ำ การปลูกหญ้าแฝกเพื่อลดการพังทลายของหน้าดินโดยจะทำในลุ่มน้ำสำคัญๆ โดยเฉพาะ 8 ลุ่มน้ำ อาทิ  ปิง วัง ยม น่าน สะแกกรัง ป่าสัก เจ้าพระยาลงมาทั้งนี้เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน  เพราะ ต้องยอมรับว่าสาเหตุของน้ำท่วมส่วนหนึ่งก็เป็นผลจากการตัดไม้ทำลายป่า และเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินทางภาคเหนือ  ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก จึงต้องเดินทางไปตรวจตั้งแต่ต้นน้ำลงมาจนถึงปลายน้ำ  

นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงแผนงานฟื้นฟูป่าและระบบนิเวศ ของกรมอุทยานฯว่า ตามแผนงานที่วางกรอบระยะ 5 ปี (พ.ศ.2555-2559) จะเพิ่มพื้นที่ป่ากลับมา 2 ล้านกว่า ไร่ จากพื้นที่ป่าที่มีปัญหาเสื่อมโทรม 2.7 ล้านไร่ของอุทยานฯ และของกรมป่าไม้ เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาป่าหายไปปีละ 2-3 หมื่น ไร่ แต่ที่ผ่านมาได้งบปลูกป่าเพียงปีละหมื่นไร่เท่านั้น เพราะขาดเงิน  บางปีก็ไม่ได้ปลูกป่าเพิ่ม หรือปลูกได้ไม่เกินหน่วยละ 16-20 ไร่ ทำให้ไม่ทันกับการบุกรุก 

ดังนั้นการที่รัฐบาลเห็นความสำคัญในครั้งนี้ ก็เป็นโอกาสดีที่จะทำให้แผนการฟื้นฟูป่ามีการสนับสนุนงบต่อเนื่อง ไม่ผีเข้าผีออกอย่างที่ผ่านมา   สำหรับพื้นที่เร่งด่วนที่ต้องฟื้นฟูทันทีก็คือในเขตลุ่มน้ำน่าน และปิง เพราะมีปัญหามากที่สุด สภาพภูเขาเป็นเขาหัวโล้น

อย่างไรก็ตามในภาพรวม กรมอุทยานฯตั้งเป้าว่าในปีแรกจะขอวงเงิน 2,173 ล้านบาทใน 10 โครงการ เช่น โครงการปรับปรุงระบบนิเวศ 2 แสนไร่ วงเงิน 194 ล้านบาท โครงการปลูกฟื้นฟูระบบนิเวศ 200 ต้นต่อไร่ จำนวน 2 แสนไร่ วงเงิน 760 ล้านบาท ปลูกหญ้าแฝก 80 ล้านกล้า หวาย 5 หมื่นไร่ ปลูกเสริมไม้พะยูง 2 หมื่นไร่ ไม้กฤษณา 2 หมื่นไร่ ปลูกต้นไม้เป็นแนวเขตพื้นที่อนุรักษ์ 10 ลุ่มน้ำสาขา จัดทำฝายแบบตาข่ายคลุมหินทิ้ง 8.9 หมื่นตัว วงเงิน 445 ล้านบาท จัดทำฝายกึ่งถาวร 5000 ตัว วงเงินน 125 ล้านบาท จัดทำฝายแบบถาวร 200 ตัว วงเงิน  10 ล้านบาท โครงการนาแลกป่า 290 ไร่ วงเงิน  4.35 ล้านบาท และโครงการกล้าไม้ขนาดใหญ่ 30 ล้านกล้า 222 ล้านบาท  ขณะที่ในแผน 5 ปีนั้นจะของบประมาณ 13,655 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูป่า 2.3 ล้านไร่

นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ในส่วนของแผนจัดการทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ลุ่มน้ำแบบบูรณาการ กรมป่าไม้ ได้ทำแผนรายละเอียดแล้วเสร็จในปีแรก จะของบจำนวน  1,074 ล้านบาทใน  3  แผนงานใหญ่ ได้แก่  1. การอนุรักษ์ฟื้นฟูและส่งเสริมการปลูกป่า ซึ่งใช้วงเงินทั้งหมดราว 835 ล้านบาท แบ่งเป็นปลูกป่าฟื้นฟูระบบนิเวศ 8 หมื่นไร่  และปรับปรุงระบบนิเวศ 1 แสน ไร่ ทำแก้มลิงเลียนแบบธรรมชาติ 1.1หมื่นแห่ง ทำฝายแบบตาข่ายคลุมหินทิ้ง 1.9หมื่น แห่ง  การเพาะชำกล้าไม้  50 ล้านกล้า วงเงิน 139 ล้านบาท 2.การส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน แบ่งเป็นโครงการจัดการป่าชุมชน 240 แห่ง พัฒนาเครือข่ายป่าชุมชน  24 รุ่น โครงการฝึกอบรมเครือข่ายอาสาสมัครรพิทักษ์ป่า 60 รุ่นวงเงิน 15 ล้านบาท ฝึกอบรมเยาวชนพืทักษ์ป่า 30 รุ่น วงเงิน 6 ล้านบาท และ 3.การบริหารโครงการ เพื่อติดตามประเมินผลรวมวงเงิน  60 ล้านบาท

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี